Jamsai
ทดลองอ่าน ล่ารักเกมอันตราย ตอนที่ 1
กติกาเกมนักล่า
ผู้เล่นสามารถเลือกวางเงินเดิมพันนักล่าหรือเหยื่อได้ตามต้องการ
เหยื่อไม่มีการแบ่งเลเวล การวางเงินเดิมพันเท่ากัน
นักล่าแบ่งออกเป็นเลเวล เลเวลสูงขึ้นเงินเดิมพันก็สูงขึ้นด้วย
นักล่าและเหยื่อมีประวัติข้อมูลให้ตรวจสอบได้
หากเหยื่อเสียชีวิต เงินที่วางเดิมพันไว้กับเหยื่อจะโอนไปเป็นของผู้เล่นที่วางเงินไว้กับนักล่า
หากนักล่าเสียชีวิต เงินที่วางเดิมพันไว้กับนักล่าจะถูกโอนไปในลักษณะเดียวกัน
เงินที่เดิมพันไปแล้วไม่อาจยกเลิกหรือเรียกคืนได้ แต่สามารถเพิ่มเงินเดิมพันกับนักล่าหรือเหยื่อที่อยู่ในเกมได้
ผู้เล่นสามารถประมูลนักล่าได้ และส่งนักล่าของตนเข้ารับการฝึกพิเศษ เมื่อนักล่าเข้าร่วมการแข่งและชนะการแข่งขัน ผู้เล่นจะได้รับเงินที่ชนะการเดิมพัน
หากเกมได้เริ่มต้นแล้ว เกมจะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อเหยื่อตายทั้งหมด
บทที่ 1
กรุงแบกแดด ประเทศอิรัก
ฝุ่นทรายสีเหลืองคละคลุ้งอยู่ในอากาศทำให้ทั้งเมืองดูราวกับตกอยู่ในม่านหมอก ทุกหนแห่งมีแต่ทราย
ดวงอาทิตย์ร้อนแรงแผดเผาอยู่กลางศีรษะ แม้กระทั่งผู้คนที่หลบอยู่ในร่มเงาของตลาดนัดยังรู้สึกร้อนจนแทบจะเป็นลม
สภาพอากาศที่นี่ร้อนแห้งแล้ง แมลงวันที่ตอมหึ่งๆ อยู่บนผลไม้และอาหารตามแผงขายพากันบินอย่างฉวัดเฉวียน
ในตลาดเก่าแก่แห่งนี้ หญิงสาวคนหนึ่งคลุมหน้าด้วยผ้าคลุมสีดำ ถือแผ่นดินเหนียวแกะสลักลายนูนขึ้นมา เอ่ยปากต่อราคาเป็นภาษาอาหรับ
“คุณพ่อค้า ไม่ทราบว่านี่ราคาเท่าไหร่”
“หนึ่งร้อยห้า” เมื่อได้ฟังสำเนียงของเธอ เจ้าของร้านก็ตาเป็นประกาย รีบเสนอราคาทันที “ดอลลาร์สหรัฐฯ”
หญิงสาวเอ่ยปากต่อราคาโดยไม่กะพริบตา “สิบห้า”
“หนึ่งร้อย”
“ฉันมีแค่สิบห้า”
“เจ็ดสิบห้า ให้ถูกกว่านี้ไม่ได้แล้ว นี่เป็นวัตถุโบราณอายุกว่าร้อยปี”
หญิงสาวเลิกต่อราคา วางแผ่นดินเหนียวในมือลงแล้วตั้งท่าจะเดินจากไป
เจ้าของร้านเห็นดังนั้นก็ชิงพูดขึ้น “สาวน้อย อย่างนั้นห้าสิบเอาไหม”
เธอไม่แม้แต่จะเหลียวกลับ
“สี่สิบ? สามสิบล่ะ?”
เธอยังคงเดินต่อไป เงาร่างเล็กบางกำลังจะกลืนหายเข้าไปในฝูงชน
เจ้าของร้านก็ตะโกนขึ้นมาว่า “ก็ได้! พับผ่าสิ! สิบห้าก็สิบห้า!”
หญิงสาวร่างเล็กบางคนนั้นหยุดฝีเท้าแล้วหันหลังกลับมา หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่
เจ้าของร้านขายวัตถุโบราณบ่นพึมพำงึมงำแต่ก็ยังรับเงินไปแต่โดยดี หญิงสาวจ่ายเงินเสร็จก็อุ้มแผ่นดินเหนียวไว้ในอ้อมกอดแล้วเดินกลับเข้าไปในฝูงชนอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ดวงตาที่โผล่พ้นออกมาจากผ้าคลุมหน้าของเธอเปล่งประกายสุกใสเต็มไปด้วยความตื่นเต้นสุดขีด
เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าจะพบแผ่นดินเหนียวรูปลามาซูที่ถอดแบบมาเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยนในตลาดเล็กๆ
แม้จะเห็นแค่แวบเดียว แต่จากการฝึกฝนมานานปีเธอมองปราดเดียวก็รู้ว่านี่คือแผ่นดินเหนียวแบบเดียวกับของที่ศาสตราจารย์ทำ ไม่ว่าจะเป็นเส้นผมที่หยักเป็นลอนกับขนนกที่มีรายละเอียดเด่นชัดบนปีกอินทรี กับสัดส่วนของกล้ามเนื้อที่ชัดเจนบนกีบเท้าวัวทั้งห้า ใบมีดที่ใช้แกะสลักต้องมีความคมกริบ ทุกรายละเอียดที่ปรากฏถึงได้ดูสวยสมจริงราวกับมีชีวิต
เข้าคู่กัน เธอพบคู่ของมันแล้ว เป็นลามาซูที่คู่กับลามาซูของศาสตราจารย์
แผ่นดินเหนียวที่อยู่ที่บ้านเป็นสมบัติที่เธอได้มาจากทางศาสตราจารย์ที่ปรึกษาในคณะโบราณคดีเมื่อหลายปีก่อน เธอรู้ว่าลามาซูที่เป็นสัตว์เทพเฝ้าประตูจะต้องมีเป็นคู่ เนื่องจากฝีมือแกะสลักของช่างฝีมือที่ไม่ปรากฏชื่อผู้นี้ดูสวยงามราวกับมีชีวิต เธอจึงอยากตามหาคู่ของมันมาโดยตลอด แต่ก็รู้ว่าโอกาสมีน้อยมาก เมืองแห่งนี้เผชิญกับไฟสงครามมาหลายปี เปลี่ยนไปจากสมัยที่ศาสตราจารย์มาเยือนเมื่อครั้งยังหนุ่มมาก ต่อให้มีลามาซูอีกแผ่นจริงๆ เกรงว่าจะถูกโยนตกแตกหรือไม่ก็ถูกกระสุนเป่าจนพรุน เธอเลยไม่เคยคาดหวังมาก่อนว่าจะหาเจอ
เธอมาที่นี่แค่มาเดินเล่นตามคำแนะนำของศาสตราจารย์ แล้วก็แค่มาสูดอากาศ
ใครจะไปรู้ว่าเธอจะบังเอิญพบแผ่นดินเหนียว อีกทั้งลามาซูในอ้อมแขนเธอนอกจากส่วนอกที่สึกไปเล็กน้อย สภาพของมันยังคงดีอยู่
เธอระงับความเบิกบานล้นใจไว้ แต่ไม่ได้ชะลอฝีเท้าอันรวดเร็วลง เธออยากจะกลับไปยังโรงแรมที่พักให้เร็วที่สุด จะได้นำมันออกมาตรวจดูกับแสงไฟอย่างละเอียด แต่ลึกลงไปในใจเธอรู้ว่าเธอถูกแล้ว แผ่นดินเหนียวแผ่นนี้กับอีกแผ่นเป็นคู่กันและปั้นแกะขึ้นจากคนคนเดียวกัน
ถ้าไม่เพราะกลัวเป็นเป้าสายตาผู้คน เธอคงอดใจไม่อยู่กระโดดโลดเต้นบนถนนไปแล้ว
ในเวลานี้ แม้แต่สภาพอากาศที่แห้งแล้ง ผงทรายที่ทำให้เธอระคายตา และดวงอาทิตย์ที่แผดเผาผู้คนยังเปลี่ยนเป็นน่ารักขึ้นมาทันที
ขณะที่เธออุ้มแผ่นดินเหนียวหนักด้วยความเบิกบานสำราญใจอยู่นี้เอง จู่ๆ ก็รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวสับสนของฝูงชนรอบข้าง มีคนตะโกนอะไรสักอย่างเป็นภาษาอาหรับข้างหลังเธอ
เธอหันกลับไปมอง พบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่กลางสี่แยก เธอยังไม่ทันตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้น วินาทีต่อมาก็ถูกกระแทกลอยออกมา
หลังจากเกิดเรื่อง เมื่อเธอมีโอกาสได้คิดดูก็มักจะรู้สึกว่าหากเธอเป็นชาวมุสลิมจริงๆ บางทีเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น เพราะผ้าคลุมหน้าจะยังคงปกปิดใบหน้าของเธอไว้ด้วยเทคนิคการคลุมผ้าชั้นดี แต่เธอไม่ได้เป็นชาวมุสลิม
เธอเป็นชาวเอเชีย ชาวตะวันออก มีตาดำผิวเหลือง แล้วยังมีจมูกที่ไม่สู้จะโด่งสักเท่าไรนัก
เธอยังซุ่มซ่ามสุดๆ ชั่วชีวิตนี้เคยใส่ผ้าคลุมหน้ายังไม่ถึงห้าครั้ง ส่วนใหญ่เวลามาที่นี่จะมีผู้ช่วยชาวท้องถิ่นคนหนึ่งที่มีน้ำใจคอยช่วยเธอใส่
และวันนี้ก็เป็นหนึ่งในห้าครั้งนั้น
ชีวิตคนมีขาขึ้นย่อมมีขาลง เวลานี้ถือเป็นช่วงที่โชคร้ายที่สุดในชีวิตเธอแล้ว
แผ่นดินเหนียวในมือเธอกระเด็นออกไปตามแรงกระแทก ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายมีใครหรืออะไรก็ไม่รู้ดึงผ้าคลุมหน้าของเธอ ด้วยฝีมือการพันผ้าที่ย่ำแย่ของเธอทำให้ผ้าคลายออกในอึดใจถัดมา เผยให้เห็นใบหน้าเล็กๆ
ไม่น่า? ไม่นะ!
เธอร้องด้วยความตื่นตระหนก ไม่ใช่เพราะว่าใบหน้าเธอปรากฏออกมา อย่างไรเธอก็ไม่ใช่ชาวมุสลิม ที่เธอคลุมหน้าก็แค่เพื่อทำตัวให้เข้ากับขนบธรรมเนียม แม้คลุมใบหน้าไว้จะอบสักหน่อยแต่ก็ช่วยกันแดดได้ เธอไม่สนว่าใครจะเห็นหน้าเธอ เธอสนแต่แผ่นดินเหนียวล้ำค่าแผ่นนั้น ชั่วเวลานั้นหัวใจเธอกระดอนขึ้นมาถึงลำคอ จังหวะที่แผ่นดินเหนียวร่วงลงบนพื้น หัวใจเธอบีบรัดด้วยกลัวว่ามันจะตกแตก
แต่มันไม่แตก
เธอถอนใจอย่างโล่งอก ไม่ได้รีบเก็บผ้าคลุมหน้าที่หล่นลงพื้นเป็นอย่างแรก แต่รีบคลานไปเก็บแผ่นดินเหนียวที่ตกไว้ก่อน
ภายหลังถึงได้คิดว่านี่เป็นการตัดสินใจผิดครั้งที่สองของวันนั้น
แผ่นดินเหนียวรอดจากความชุลมุนวุ่นวายเข้ามาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ฝูงชนรอบข้างกระจายตัวออกจากกันจนทางเปิด เธอหันกลับไปพบว่าคนที่ชนเธอตัวลอยนั้นเป็นชายคนหนึ่ง
ชายผิวเหลืองผู้มีผมและตาสีดำคนหนึ่งคร่อมอยู่เหนือร่างเธอ มือหยาบแข็งแรงสองข้างที่กรำแดดจนเป็นสีแทนวางอยู่สองข้างเอวของเธอ
เธอจ้องชายคนนั้น ชายคนนั้นก็จ้องเธอ จากนั้นก็ส่งยิ้มให้
“ไฮ”
เขายิ้มพลางทักทายเป็นภาษาอังกฤษ
“ขอโทษนะ”
ชายตรงหน้ามีดวงตาดำขลับราวกับหินออบซิเดียนผ่านการหลอมจากลาวาภูเขาไฟ แถมยังมีรอยยิ้มสดใสชนิดที่เธอไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลยในชีวิตนี้ รอยยิ้มนั้นสว่างเจิดจ้าชวนหลงใหล ทำให้หัวใจเธอหยุดเต้นไปก่อนจะกลับมาเต้นเร็วแรงขึ้นอีกครั้ง
รอยยิ้มตรงหน้าเจิดจ้าบาดตาจนเธออดส่งยิ้มตอบเขาไม่ได้
อึดใจถัดมาเขาก็รีบลุกจากร่างเธออย่างรวดเร็ว ขณะที่ลุกขึ้นเขาก็จับข้อศอกพยุงเธอลุกขึ้นมาด้วย
เธอยืนให้มั่น แต่ยังหน้ามืดตาลายอยู่นิดหน่อย ขณะที่ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นก็ได้ยินเสียงผู้ชายตะโกนโหวกเหวก
เมื่อเธอหันไปมองก็เห็นชายไว้เคราดกเฟิ้มถือมีดยาวสีเงินวาววับชี้ตรงมาที่หน้าเธอ
ชั่ววินาทีนี้สมองของเธอขาวโพลน