ทดลองอ่าน ล่ารักเกมอันตราย ตอนที่ 1 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

Jamsai

ทดลองอ่าน ล่ารักเกมอันตราย ตอนที่ 1

ขณะที่เธอคิดว่าชีวิตน้อยๆ นี้จะจบเห่เสียแล้ว พลันมีคนพุ่งเข้ามากระชากเอวเธอถอยมาด้านหลัง ในขณะเดียวกันเหล็กดำท่อนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าพร้อมเสียงดังเคร้ง หยุดมีดยาวที่เกือบจะผ่าหัวเธอเอาไว้ได้

ชายไว้เคราแกว่งมีดฟันขวับซ้ำอีก ขวับ! ขวับ! ขวับ!

เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

มีดยาวสีเงินส่องประกายอยู่ตรงหน้า เธอมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากประกายของคมมีด แต่ก็ได้ยินเสียงโลหะกระทบกันดังเคร้งคร้างๆ

เธอตื่นตระหนกจนลมหายใจติดขัด รู้สึกเพียงว่ามีคนเหวี่ยงตัวเธอหันไปหันมาจนหมุนคว้างไปตั้งแต่หัวจรดเท้า

เธอกรีดร้องเสียงหลงท่ามกลางโลกที่หมุนคว้าง

ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นคราหนึ่ง

เมื่อเธอรู้ตัวอีกทีก็เห็นชายไว้หนวดที่ถือมีดกวัดแกว่งไปมาคนนั้นถูกเท้าข้างหนึ่งเตะลอยไปชนกับแผงผลไม้

เป็นเท้าของชายที่อยู่ข้างหลังเธอ

เธอหันไปมองทั้งที่ยังอกสั่นขวัญหาย ชายคนนั้นยิ้มยิงฟันให้เธอ จากนั้นก็ทิ้งแท่งเหล็กที่ไม่รู้ว่าไปหยิบมาจากแผงร้านไหนในมือทิ้ง หันหลังวิ่งไปยังอีกทางหนึ่ง

เธอยืนตะลึงอยู่ที่เดิม ชายไว้เคราพลันลุกขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าวด้วยกลัวถูกไล่ฟันอีก ขณะที่เธอคิดจะหันหลังวิ่งหนีเอาตัวรอด ชายไว้เครากลับไม่สนใจเธอ เพียงถือมีดร้องคำรามไล่ตามชายคนนั้นไป

ผ่านไปประมาณสามวินาทีเธอถึงจะตระหนักได้ว่าชายไว้เคราไม่ได้จะฟันเธอตั้งแต่แรก แต่จะฟันชายคนนั้น เธอเพียงแต่โชคไม่ดีไปยืนขวางอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเขาพอดีเลยถูกพ่วงเข้าไปด้วย

เธอหอบหายใจทั้งใบหน้าซีดเผือด มองเห็นชายกลุ่มหนึ่งตะโกนโหวกเหวกเป็นภาษาอาหรับไล่ตามไป สองคนในกลุ่มนั้นมีอาวุธปืน

เวลานั้นเธอหลบแนบชิดกำแพง โชคดีที่คนเหล่านั้นไม่ทันสังเกตเห็นเธอ

พอเธอเรียกขวัญกลับคืนมาได้ก็พบว่ามือทั้งสองเธอยังกอดแผ่นดินเหนียวแผ่นนั้นไว้แน่น ผู้คนบนถนนยังคงจ้องมาที่เธอ

เธอเป็นชาวต่างชาติคนหนึ่ง

แม้จะไม่มีผมสีทองตาสีน้ำข้าว เครื่องหน้าโดดเด่น แต่เธอก็รู้ดีว่าเธอดูแตกต่าง เธอรู้ว่าตัวเองดูสะดุดตาแค่ไหนเมื่ออยู่ที่นี่ โดยเฉพาะตอนที่ผ้าคลุมที่ปกปิดใบหน้าเธอหลุดออกมา

ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนที่นี่จะสวมผ้าคลุมหน้า บางคนเลือกสวมแบบคลุมแค่ศีรษะ แต่ก็มีไม่น้อยที่เลือกคลุมหน้าไว้เหมือนเธอตอนก่อนหน้านี้ ทว่าผู้หญิงที่ไม่ได้สวมอะไรปิดคลุมเรือนผมเลยมีจำนวนน้อยมาก และเห็นได้เด่นชัดมาก

เธอถือแผ่นดินเหนียวลามาซูในมือไว้แน่นพลางก้มหน้าก้มตารีบเดินจากไป เร่งฝีเท้าให้พ้นจากที่เกิดเหตุอันชุลมุนวุ่นวายโดยเร็วที่สุด

ระหว่างทางเธอยังไม่วายหันกลับไปมองเป็นระยะด้วยกลัวว่าคนพวกนั้นจะตามเธอมา

ชายคนนั้นเป็นคนผิวเหลืองเหมือนกับเธอ มีแต่สวรรค์ที่รู้ว่าคนอื่นจะคิดว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาหรือไม่ ทำให้เธอรู้สึกว่าทุกคนบนถนนเอาแต่จ้องมองมาทางเธอ

หลังจากขึ้นรถประจำทางแล้ว เธอมองดูท้องถนนในเมืองนอกหน้าต่าง ไม่มีใครตามเธอมา ไม่มีใครสนใจเธอ เธอค่อยๆ ระบายลมหายใจอย่างโล่งอก

เมื่อเธอกลับถึงโรงแรม ปิดประตู ล็อกกุญแจเรียบร้อยแล้วนั่งลงบนเตียงถึงได้พบว่าฝ่ามือเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ

เธอวางแผ่นดินเหนียวที่ถือไว้แนบอก รวมทั้งวางกระเป๋าเป้ลงบนเตียง แล้วเปิดเครื่องปรับอากาศ

อากาศกรุงแบกแดดร้อนระอุ เธอสวมชุดยาวออกไปเดินจนเหงื่อชุ่มทั่วทั้งหลัง เธอถอดชุดยาวออก เห็นแผ่นดินเหนียวลามาซูพลอยเปียกชุ่มเพราะเธอ แถมยังมีรอยบิ่นเพิ่มอีกมุมหนึ่ง ก็รู้สึกเจ็บใจและกลัวว่าจะมีรอยบิ่นเพิ่มที่ส่วนอื่นเพราะเหตุการณ์วุ่นวายเมื่อครู่ เธอจึงรีบนำมันมาวางข้างโต๊ะหนังสือ เปิดโคมไฟตั้งโต๊ะแล้วพิจารณาโดยละเอียด

มองแวบแรกสภาพของมันก็ยังดีอยู่ แต่เพียงครู่เดียวเธอก็พบว่าบริเวณอกของลามาซูมีรอยบิ่น

“บ้าจริง”

เธอสบถ แต่ทันใดนั้นก็พบว่ารอยบิ่นตรงนั้นดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือจะพูดให้ถูกก็คือสีของส่วนที่แยกออกกับส่วนที่อยู่รอบข้างไม่ตรงกัน

เธออึ้งไปสักพักก่อนจะโน้มโคมไฟลงมาใกล้ๆ ก้มมองดูอีกที แล้วก็พบว่าส่วนที่แยกออกนั้นมีสีแตกต่างกันจริง ที่จริงแล้วยังมีอีกหลายจุดที่มีสีไม่เหมือน เธอตกตะลึง หยิบแผ่นดินเหนียวมาพลิกดูใต้แสงไฟ ผลปรากฏว่าส่วนที่มีสีเหล่านี้บนแผ่นดินเหนียวมีความแตกต่างกันเพียงนิดเดียว ไม่ได้เป็นแค่ที่ส่วนอกเท่านั้น ที่เคราบนใบหน้าก็มี บริเวณเหล่านี้เดิมก็มีรอยลอกอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ตอนเธอเห็นมันในตลาดยังนึกว่าเป็นการสึกกร่อนตามกาลเวลา การเก็บรักษาจึงสมบูรณ์สู้ชิ้นที่เธอมีอยู่ไม่ได้

แต่มาถึงตอนนี้ เมื่อนำมาส่องใต้แสงไฟโดยละเอียด เธอถึงพบว่านี่ไม่ใช่ร่องรอยจากการสึกกร่อนตามกาลเวลาหรือแรมปี

เธอเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ที่สีของแผ่นดินเหนียวไม่เหมือนกันบางครั้งเพราะว่าเป็นของปลอม แต่นี่ก็ไม่ใช่ของปลอม เธอได้มองแผ่นดินเหนียวที่บ้านมาหลายครั้ง รูปปีกอินทรี มัดกล้ามเหนือกีบเท้า ลวดลายประดับแบบนี้ดูอย่างไรก็เป็นฝีมือช่างคนเดียวกัน

แต่บางทีอาจมีคนปลอมขึ้นมาภายหลังได้สมจริงมากก็ได้

จากนั้นเธอนึกคึกอะไรขึ้นมาไม่รู้ลองเอานิ้วเขี่ยรอยร้าวนั้นดู หินส่วนนั้นก็กะเทาะร่อนออกมาเผยให้เห็นสีที่ไม่เหมือนกับส่วนอื่น มองดูแล้วเหมือนกับมีรอยตรงนั้นมาตั้งแต่แรก

เธอใจเต้นขึ้นมาทันใด

เป็นไปไม่ได้น่า…ไม่ใช่ว่ามันคือ…

เวลานั้นเธอเริ่มตื่นเต้น หลังจากวางแผ่นดินเหนียวลงอย่างระวังก็หยิบถุงอุปกรณ์ออกมาจากกระเป๋าเดินทาง ค้นหาแปรงและคีมหนีบ แล้วอาศัยแสงจากโคมไฟเริ่มทำความสะอาดมันด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่งยวด

แสงแดดนอกหน้าต่างเริ่มเปลี่ยนสี เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะ เนื่องจากกำลังมีสมาธิจดจ่อเป็นอย่างมากจึงไม่ทันสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของเวลา

ท้องฟ้าเริ่มมืด พระจันทร์ขึ้นมาประดับอยู่บนฟ้าค่ำคืน

ตอนที่เธอหยุดงานในมือก็เป็นเวลาดึกดื่นค่อนคืน ผู้คนต่างปิดไฟนอนกันหมดแล้ว

แต่เธอยังไม่นอน ทุกส่วนที่สีไม่เท่ากันของแผ่นดินเหนียวในมือเธอถูกทำความสะอาดจนเผยให้เห็นรูปลักษณ์เดิมของมัน

ยามเช้ามืด ขณะที่ท้องฟ้ากำลังอยู่ในช่วงใกล้สว่าง เธอก็ทำงานเสร็จเรียบร้อย

หลังจากเก็บกวาดอีกครึ่งชั่วโมงเธอก็ดูออกแล้วว่ามันคืออะไร เมื่อเธอทำความสะอาดมันจนหมดจด เมื่อเธอหยุดมือวางแปรงและคีมลง วินาทีที่ได้มองดูมันใจก็เต้นระทึก รู้สึกลำคอตีบตันขึ้นมาดื้อๆ

ไม่ใช่ลามาซู

พระเจ้า

เธอกุมอกตัวเอง เพ่งพินิจงานแกะสลักที่งดงามตรงหน้า มองดูส่วนโค้งงามบนช่วงอกของมันกับกรงเล็บราชสีห์ดูแข็งแรง

มันคืออัปซาซู

ลามาซูเฝ้าประตูมักจะมีเป็นคู่ เป็นลามาซูเพศผู้คู่กัน

ที่เป็นลามาซูกับอัปซาซูตัวผู้ตัวเมียคู่กันแบบนี้หาได้ยากมาก เธอไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลย

ดินแดนแถบนี้มีสภาพสังคมชายนำหญิงตามมาหลายพันปี หรือว่าเป็นเพราะแบบนี้ วันดีคืนดีใครสักคนคงนำมันมาแกะใหม่ เปลี่ยนมันจากเพศหญิงเป็นเพศชาย

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะช่วงอกเปลือยเปล่าอันงดงาม เพราะรอยยิ้มเข้มแข็งแฝงความมั่นใจ เพราะท่าทางแข็งแกร่งเปี่ยมไปด้วยพลังของมัน หรือว่าเพื่อรักษาผลงานสลักชิ้นงามนี้ไม่ให้ถูกคนทำลายทิ้ง คนผู้นั้นถึงได้เปลี่ยนรูปโฉมของมันไว้

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะทำด้วยเหตุผลอะไร มันถูกซ่อนโดยการปกปิดไว้ด้วยดินเหนียว ถอดแบบคู่ของมันปั้นขึ้นเป็นตัวลามาซู เพราะอย่างนี้ถึงเก็บมันไว้ในสภาพที่สมบูรณ์ได้

อัปซาซูภายใต้แสงไฟตรงหน้าดูราวกับกำลังส่องประกาย

อัปซาซูชิ้นนี้งดงามจริงๆ เมื่อลูบไล้ไปตามรอยแกะสลักเธอก็แทบจะรับรู้ได้ถึงความตั้งใจของช่างที่แกะมันขึ้นมา

ขณะที่เธอกำลังปลาบปลื้มใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ทันใดนั้นก็มีเสียงเบาๆ ดังมาจากทางประตู

เธอเงยหน้าขึ้นโดยอัตโนมัติ เห็นประตูห้องถูกผลักเปิดออก

คนเปิดประตูเห็นเธอนั่งอยู่หน้าโต๊ะก็ชะงักนิ่งอยู่กับที่

เธอก็เช่นกัน นั่งนิ่งอึ้งอยู่บนเก้าอี้

ผู้มาเยือนยังคงยืนอยู่นอกประตู แสงไฟบนระเบียงสาดส่องให้เห็นรูปลักษณ์เขาอย่างชัดเจน

เป็นชายคนเมื่อตอนกลางวันคนที่แม้ตกอยู่ใต้สถานการณ์คับขันก็ยังยิ้มออกมาได้

อึดใจนั้นเธอไม่รู้ว่าควรร้องตะโกน โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ หรือว่าลุกขึ้นวิ่งหนี

เขาคงจะเห็นเธอเหลือบมองโทรศัพท์บนโต๊ะ จึงยกมุมปากขึ้นพูดว่า

Comments

comments

Continue Reading

More in Jamsai

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com