ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 1 บทที่ 1 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 1 บทที่ 1

อาจู้มีใบหน้าเหลี่ยม ร่างใหญ่แข็งแรง สีหน้าเคร่งขรึม สวมชุดใยป่านสีขาวเทาแบบชายเสื้อสั้นเย็บติดกับท่อนล่าง เผยให้เห็นขากางเกงตั้งแต่หัวเข่าลงไป คาดว่าเพื่อให้ทำงานได้สะดวก ต่างกับของอวี๋ไฉ่หลิงที่แม้ไม่เห็นผ้าไหมสักส่วนเสี้ยว ทว่าชุดผ้าฝ้ายเนื้อหนาละเอียดก็พันมิดชิดรอบเอวเต็มหนึ่งวงรอบและยาวจนจรดหลังเท้า ส่วนชุดแต่งกายของอาเหมยเด็กหญิงวัยสิบขวบที่อยู่ด้านข้างยิ่งเรียบง่ายเข้าไปใหญ่ สวมเสื้อป่านตัวสั้นบุนุ่น วิ่งเพ่นพ่านไปมาทั่วลานโดยเผยกางเกงลายดอกบุนุ่นเนื้อหนา

เมื่อสิบกว่าวันก่อน ขณะอวี๋ไฉ่หลิงยังนอนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่บนฟูก เปลือกตาราวหนักนับพันชั่ง* เพียงได้ยินเสียงอันแหลมบาดของสตรีผู้หนึ่งกำลังตะคอกด่า ‘…เจ้ามันหญิงโง่เง่าไร้สามารถ ฮูหยินมอบหมายงานนี้แก่เจ้า เจ้ากลับละเลยถึงขั้นนี้ หากคุณหนูเป็นอันใดไปจริงๆ เอาเจ้าทั้งครอบครัวไปป้อนสุนัขก็ไม่สาสม!’

จากนั้นเสียงสตรีอีกคนก็ตอบเสียงอ่อยๆ ‘เมื่อแรกเป็นท่านสั่งข้าน้อยว่าไม่ต้องไปไยดีนาง ปล่อยให้นางอาละวาดด่าคนปาข้าวของไป นางทำผิดมารับโทษอยู่ที่นี่ ควรดัดนิสัยก่อนค่อยว่ากัน ผู้ใดจะรู้เล่าว่านางกลับเป็นไข้ขึ้นมา…’

สตรีเสียงแหลมบาดหูกล่าวว่า ‘ตัวบัดซบ! ต่อให้นางมีความผิดสักเท่าใดก็เป็นคุณหนูของท่านใหญ่ ถึงคราวให้เจ้ามักง่ายเยี่ยงนี้ได้หรือ!’

อวี๋ไฉ่หลิงสติรางเลือนจวนหลับใหลไปอีกครา รู้สึกเพียงว่ามีคนกำลังป้อนยาให้ตนดื่มอยู่ ตอนนั้นตนมีความมุ่งมั่นที่จะเอาชีวิตรอดอย่างแรงกล้า จึงพยายามกลืนยาลงไป ในห้วงสะลึมสะลือพลันได้ยินเสียงสตรีแหลมบาดผู้นั้นเอ่ยกลั้วหัวเราะขึ้นมา ‘ข้าจะไม่ปิดบังเจ้า นี่เป็นเผือกร้อนลวกมือหัวหนึ่ง ให้ความสำคัญนักไม่ได้ ไม่ให้ความสำคัญเลยก็ไม่ได้เช่นกัน ยามนี้ป่วยจนถึงขั้นนี้แล้วยิ่งไม่มีผู้ใดยอมรับหน้าที่อีก มีแต่เจ้าที่เป็นแม่พระ ไม่กี่วันนี้มาขอร้องข้าไม่เลิกรา…’

ถัดจากนั้นเป็นเสียงอันอ่อนโยนทว่าเนิบนาบของอาจู้ นางตอบปนหัวเราะ ‘หากมิใช่คุณหนูป่วยจนถึงขั้นนี้ งานดีแบบนี้ก็เวียนมาไม่ถึงข้าหรอก ข้าเพียงหวังให้ท่านใหญ่นึกถึงความดีอันน้อยนิดของข้า รอวันหน้าอาเหมยกับอาเลี่ยงของข้าจะได้มีอนาคต’

จากนั้นก็ได้ยินเสียงเหรียญสำริดดังกระทบกันระลอกหนึ่ง ก่อนจะเป็นเสียงพูดอันแหลมบาดของสตรีผู้นั้น ‘ก็ได้ ในเมื่อเจ้ายอมรับช่วงงานนี้ ก็จงทำให้ดีแล้วกัน’ เจ้าของเสียงแหลมบาดพูดจบก็เดินจากไป

อวี๋ไฉ่หลิงนักเรียนที่ได้คะแนนเกือบเต็มในวิชาตรรกศาสตร์ ต่อให้ตอนนั้นตัวร้อนจนสุกแล้วก็ยังคิดวิเคราะห์ได้ว่าร่างนี้ของตนน่าจะเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่สักตระกูลในยุคโบราณที่กระทำความผิดมา ปัจจุบันจึงกำลังรับโทษอยู่ในชนบท ก่อนหน้านี้ผู้ดูแลบกพร่องต่อหน้าที่ เป็นเหตุให้แม่นางน้อยเจ้าของร่างล้มป่วยไข้ขึ้นสูงจนตายจากไป ตนจึงได้กำไรฟื้นมาอยู่ในร่างนี้

แวบแรกที่มองเห็นอาจู้ อวี๋ไฉ่หลิงจำแนกด้วยความรู้อันแสนตื้นเขินที่ตนมีเกี่ยวกับยุคโบราณ วาดหวังเพียงว่าชุดที่สวมอยู่บนร่างอีกฝ่ายจะเป็นชุดชาวธงของราชวงศ์หางเปีย* หรือไม่ก็ชุดของราชวงศ์ถังที่เปิดเผยเนินอก เธอไม่ถือสาแม้แต่น้อยหากต้องแต่งกับสามีที่โกนศีรษะล้านเลี่ยนไปครึ่งแถบ หรือต้องเผยร่องอกท้าสู้อากาศหนาว!

น่าเสียดาย เธอกลับไม่รู้จักโดยสิ้นเชิงว่าชุดอันรัดกุมที่เย็บท่อนบนกับท่อนล่างติดกันชนิดนี้เป็นเครื่องแต่งกายสมัยใดในยุคโบราณ อวี๋ไฉ่หลิงหน้าม่อยคอตกไปสามวัน จวบจนวันที่สี่พักฟื้นจนทุเลาแล้ว ได้ติดตามอาเหมยไปดูขบวนส่งเจ้าสาวหนึ่งหน ถึงค่อยร่าเริงขึ้นมา แน่นอนว่าตอนนั้นอาเหมยไม่รู้แต่อย่างใดไฉนคุณหนูที่ยามปกติอมทุกข์จึงเบิกบานใจขึ้นมาโดยไร้สาเหตุ

ยามนี้อาจู้เองก็กำลังมองพิจารณาอวี๋ไฉ่หลิง เพื่อให้อาการป่วยหายสนิท หมอจึงใส่ตัวยามาอย่างเต็มที่ ยาต้มที่ขมเฝื่อนเยี่ยงนี้ต่อให้อาจู้ดื่มเองก็ต้องขมวดคิ้ว ถึงอย่างนั้น เว้นเพียงหนแรกที่คุณหนูดื่มแล้วพ่นออกมา ถัดจากนั้นทุกครั้งล้วนแหงนคอดื่มจนหมดในอึกเดียวโดยไม่ร้องขมแม้สักคำ ท่าทางยามกัดฟันเม้มปากนั้นกร้าวแกร่งเข้มแข็งยิ่ง อาจู้นับว่าเงียบขรึมแล้ว กลับนึกไม่ถึงว่าคุณหนูที่เยาว์วัยผู้นี้ยังเงียบขรึมยิ่งกว่า นอกจากพูดคุยกับอาเหมยมากหน่อย ก็มักดูกลัดกลุ้มไม่พูดไม่จาทั้งวี่วัน เหตุใดจึงต่างจากคำพรรณนาที่ข้างนอกพูดกันโดยสิ้นเชิงเล่า…อาจู้นึกฉงนอยู่บ้าง

หลังจากดื่มยาเสร็จ อาเหมยหน้ากลมก็มาพิงร่างข้างกายอวี๋ไฉ่หลิงแล้วพูดจาหว่านล้อม “คุณหนู วันนี้ข้างนอกอากาศอบอุ่น พวกเราไปเที่ยวเล่นกันเถิดเจ้าค่ะ” อวี๋ไฉ่หลิงนั่งคุกเข่าจนระอาแล้วเช่นกัน จึงผงกศีรษะตกลง

 

* ชั่ง (ชั่งจีน) หรือ จิน เป็นหน่วยชั่งของจีน ที่มีน้ำหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม และยังนิยมใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน

* ชุดชาวธงคือเครื่องแต่งกายประจำชนชาติแมนจู ราชวงศ์หางเปีย หมายถึงราชวงศ์แมนจูซึ่งบุรุษโกนศีรษะครึ่งหนึ่งแล้วถักผมที่เหลือเป็นหางเปียอยู่ด้านหลัง

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คืนลมพัดต้องเหมยงาม

ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จ...

คืนลมพัดต้องเหมยงาม

ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟัง...

คืนลมพัดต้องเหมยงาม

ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแ...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 91-92

บทที่ 91 เอาคืน  ภายหลังหลี่เจาเกอกับโม่หลินหลางเดินจากมาไกล โม่หลินหลางก็ข่มใจไม่ไหว เอ่ยกับหลี่เจาเกอด้วยความรุ่มร้อน ...

community.jamsai.com