ทดลองอ่าน ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา บทที่ 56-57 – หน้า 8 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา

ทดลองอ่าน ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา บทที่ 56-57

8 of 8หน้าถัดไป

เมิ่งถังรูม่านตาขยายเล็กน้อย

เขาเอาโลหิตที่หัวใจของตนออกมาทำอะไร

หรือเขาไม่รู้ว่ากล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญเซียนแล้ว โลหิตที่หัวใจมีความสำคัญมากเพียงใด

ในใจของเมิ่งถังมีข้อสงสัยมากมาย กระทั่งถ้าตอนนี้นางสามารถเอ่ยปากได้ นางจะต้องด่ามู่หวาฮุยสักสองคำ

แต่พริบตาถัดมานางก็เห็นมู่หวาฮุยใช้มือควบคุมโลหิตจากหัวใจหยดนั้นเข้ามาใกล้ดวงจิตของนาง

เมิ่งถังนัยน์ตาทั้งสองเบิกกว้างด้วยความตื่นตะลึง

นี่เขาจะ…

ไม่นานการคาดเดาของนางก็ได้รับการยืนยัน

ก็ไม่รู้มู่หวาฮุยควบคุมอย่างไร เมิ่งถังเพียงรู้สึกภาพเบื้องหน้าพร่าลาย โลหิตจากหัวใจหยดนั้นก็ซึมเข้าไปในหน้าอกข้างซ้ายของนางราวกับสิ่งมีชีวิต

แทบจะในเวลาชั่วพริบตาเดียวนางรู้สึกอุ่นวาบที่ดวงจิต มีปราณวิเศษที่แข็งแกร่งทรงพลังจำนวนมหาศาลเติมเต็มเข้ามา

ปราณวิเศษเหล่านี้ประดุจกระแสน้ำไหลบ่าไปทั่วร่างของนางด้วยความรวดเร็วรุนแรงไม่อาจขวางกั้น

เส้นชีพจรปราณที่เดิมยังเปิดโล่งไม่เต็มที่ถูกการโหมซัดในครั้งนี้ ทำให้ทะลุโล่งไปทั้งหมดในทันที

ครั้นแล้วเมิ่งถังก็พบว่าตนเองสามารถขยับตัวและพูดได้แล้ว

“ศิษย์พี่”

นางเปิดปากอย่างยากลำบาก “นี่ท่านทำอะไรลงไป”

เอาโลหิตจากหัวใจของตนออกมาให้นาง

เขารู้หรือไม่เมื่อครู่ถ้าเขาไม่ระวังเพียงนิดเดียวก็จะทำลายพลังวัตรของตนเองได้ กระทั่งยังอาจมีอันตรายถึงชีวิตของเขา

มู่หวาฮุยไม่ได้ตอบ หยิบเสื้อคลุมตัวหนึ่งออกมาจากแหวนเก็บทรัพย์ของตนคลุมไว้บนร่างของนาง แล้วบอกนาง “อย่าพูด หลับตา สงบใจ”

ในเวลาเดียวกันเขาก็หลับตาลง มือแนบอยู่ตรงดวงจิตของนาง นำพาการโคจรของปราณวิเศษในร่างของนาง

เมิ่งถังลอบทอดถอนใจออกมาทีหนึ่ง

เรื่องมาถึงขั้นนี้นางก็ไม่อาจเอาโลหิตจากหัวใจหยดนั้นคืนให้มู่หวาฮุยได้แล้ว ได้แต่ทำตามคำพูดของมู่หวาฮุยหลับตาลง สงบใจ เริ่มเข้าฌาน ค่อยๆ หลอมรวมโลหิตจากหัวใจหยดนั้น

กล่าวสำหรับเมิ่งถัง ทันทีที่เข้าฌานนางก็จะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกภายนอกอีก กระทั่งเวลาที่ล่วงเลยผ่านไปนางก็ไม่รับรู้

แต่มู่หวาฮุยหลังจากนำพาการโคจรของปราณวิเศษในร่างเมิ่งถังเรียบร้อยแล้ว เขาก็ลืมตาขึ้น หลุบตาลงมองเมิ่งถัง

บนใบหน้ามีละอองฝุ่น บนแก้มข้างหนึ่งยังมีรอยนิ้วมือห้านิ้วที่ยังจางหายไปไม่หมด

มู่หวาฮุยอยากจะลูบแก้มนางยิ่งนัก ถามสักคำว่าเจ็บหรือไม่ แต่เขาเกรงว่าจะรบกวนนาง จำต้องค่อยๆ ลดมือที่ยกขึ้นมาลง

แต่ยังคงจับตามองเมิ่งถังอยู่ตลอด

เงาตะวันคล้อยไปทางทิศตะวันตก ในที่สุดเมิ่งถังก็โคจรพลังลมปราณเสร็จสิ้น จึงลืมตาทั้งสองขึ้น

ไม่เพียงพลังวัตรทั้งหมดจะกลับมาแล้ว นางกระทั่งยังทะลวงผ่านเข้าสู่ขั้นหยวนอิงในคราเดียว

นางกระจ่างแก่ใจดี ทั้งหมดนี้เป็นเพราะได้โลหิตจากหัวใจของมู่หวาฮุยหยดนั้น

แต่มู่หวาฮุยเอาโลหิตหยดนั้นออกมาจะมีผลเสียต่อพลังวัตรกับร่างกายของเขาหรือไม่

รีบเอ่ยถามถึงเรื่องที่ตนใส่ใจมากที่สุดพลางมองมู่หวาฮุยด้วยสีหน้าห่วงกังวล

มู่หวาฮุยกลับมีสีหน้าเฉยเมย ยังมีรอยยิ้มแฝงอยู่ในดวงตา ยกมือขึ้นลูบศีรษะนางเบาๆ บอกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยน “ไม่เป็นไร เจ้าวางใจได้”

นั่นเป็นโลหิตจากหัวใจที่ล้ำค่ายากจะหาใดเทียมเชียวนะ! แต่เหตุใดพูดออกมาจากปากท่านจึงดูไม่สำคัญอะไรเหมือนผักกาดขาวข้างทางเช่นนั้นเล่า

แต่ว่าช่างเถิด อย่างไรเสียโลหิตจากหัวใจนี้พอเข้าไปในดวงจิตของนางแล้ว คิดจะเอาออกมาก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ต่อไปนางยังคงตั้งใจฝึกฝน เพิ่มพูนพลังวัตร พยายามปกป้องมู่หวาฮุยอย่างสุดความสามารถของตนเถิด

จึงพยักหน้า “อืม เช่นนั้นก็ดี”

มู่หวาฮุยมองนาง รอยยิ้มอบอุ่นที่ฝากแฝงอยู่ในดวงตาดำสนิทคู่นั้นไม่จางหายไปแม้แต่ครึ่งส่วน

ราวกับว่าคนที่ดวงตาทั้งสองแดงฉานดั่งดวงเนตรโลหิตในช่วงก่อนหน้านี้ไม่ใช่เขาเช่นนั้น

นอกจากนี้ที่มู่หวาฮุยไม่ได้บอกเมิ่งถังก็คือโลหิตจากหัวใจหยดนั้นของเขาไม่เพียงสามารถซ่อมแซมเส้นชีพจรปราณที่ติดขัดของเมิ่งถังให้กลับสู่สภาพเดิมได้อย่างรวดเร็ว เลื่อนขั้นพลังวัตรของนาง แต่ต่อไปไม่ว่าเมิ่งถังจะอยู่ที่ใด ต่อให้อยู่ห่างออกไปเป็นพันหมื่นหลี่ เขาก็สามารถรับรู้ได้

รวมถึงความปลอดภัยของนาง

เขาจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องเช่นในวันนี้ขึ้นอีกครั้งเป็นอันขาด

เมิ่งถังไม่ได้ถามมู่หวาฮุยว่าฟ่านตูผู้นั้นไปที่ใดเสียแล้ว

ตอนมู่หวาฮุยใช้มือเปล่าฉีกม่านอาคมเดินเข้ามาในถ้ำ นางก็เห็นจิตสังหารในดวงตาของเขาแล้ว ดังนั้นนางรู้ ฟ่านตูไม่มีทางมีชีวิตอยู่ต่อไปได้แล้ว

ทว่าคนเช่นฟ่านตู เมิ่งถังรู้สึกว่าเขาไม่มีความจำเป็นต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว

คนเลวมีชีวิตอยู่บนโลกนี้เป็นภัยต่อคนดี

วันนี้คนที่ฟ่านตูจะทำร้ายคือนาง ถ้าให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไป ครั้งหน้าคนที่เขาจะทำร้ายก็ย่อมเป็นผู้อื่น

เมิ่งถังบอกให้มู่หวาฮุยหมุนตัวไป แล้วหยิบชุดกระโปรงจากในแหวนเก็บทรัพย์ออกมาผลัดเปลี่ยน

จากนั้นนางก็เรียกมู่หวาฮุย “เสร็จแล้ว ศิษย์พี่ เราไปกันเถิด”

นางในเวลานี้รู้สึกว่าทั่วร่างเต็มไปด้วยพละกำลังจะกวัดแกว่งกระบี่ฟาดฟันสัตว์ร้ายก็ไม่เป็นปัญหา

ดังคำพูดที่ว่าคิดถึงอะไรสิ่งนั้นก็มา พริบตาถัดมานางก็ได้ยินเสียงตึงๆ ดังสนั่นมาจากนอกถ้ำ

พื้นดินสั่นสะเทือนไม่หยุดประหนึ่งมังกรใต้ดินพลิกตัวเช่นนั้น บนผนังถ้ำเหนือศีรษะเองก็มีเศษหินร่วงหล่นลงมาตลอดเวลา

 

* ยอมเป็นหยกที่แตกดีกว่าเป็นกระเบื้องที่สมบูรณ์ เป็นสำนวน หมายถึงยึดมั่นในความเชื่อ หลักการ หรืออุดมการณ์ของตนอย่างแน่วแน่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง

* ชั่ง (จิน) เป็นหน่วยชั่งของจีนที่มีน้ำหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม

 

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 7 .. 66 เวลา 12.00 .

8 of 8หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com