ทดลองอ่าน ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา บทที่ 60-61 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา

ทดลองอ่าน ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา บทที่ 60-61

นกประหลาดที่พันพัวอยู่กับติงเล่อเซวียนตัวนั้นก็กระโจนเข้ามาจะโจมตีติงเล่อเซวียนต่อ

เรื่องนี้จัดการไม่ยาก เมิ่งถังสั่งการชิงหลวนให้บินขึ้นไปพ่นไฟออกมาคำเดียวก็เผานกตัวนั้นจนลุกไหม้กลายเป็นลูกไฟสลายไป

เมิ่งถังกับติงเล่อเซวียนสองคนร่วมแรงร่วมใจกัน สุดท้ายก็ดึงนกประหลาดตัวนั้นออกมาจากร่างของโจวอิ้งเสวี่ยได้สำเร็จ

โจวอิ้งเสวี่ยแม้จะเจ็บจนใบหน้าซีดขาว หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น แต่ยังคงกัดฟัน พลิกมือเสือกกระบี่ออกไป แทงเข้าไปที่หัวใจของนกประหลาดตัวนั้นอย่างแรง

นี่ก็นับว่าล้างแค้นให้กับตนเองแล้ว

เมิ่งถังทางหนึ่งหอบหายใจ ทางหนึ่งบอกกับติงเล่อเซวียนและโจวอิ้งเสวี่ย “พวกเจ้าสองคนรีบหาเรือนสักหลังแล้วเข้าไปหลบ รอข้าเผานกประหลาดที่เหลือเหล่านี้แล้วพวกเจ้าค่อย…”

ยังพูดไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของอวิ๋นชูเยวี่ยดังขึ้นทันที

เมิ่งถังเงยหน้าขึ้นมอง อดอุทานให้ตายสิออกมาไม่ได้

ไม่มีเวลาจะมาสั่งกำชับติงเล่อเซวียนและโจวอิ้งเสวี่ยต่อ เมิ่งถังก็ตะโกนเรียกชิงหลวนคำหนึ่ง ขี่กระบี่เหาะขึ้นไปบนท้องฟ้า

ที่แท้นกประหลาดที่จับอวิ๋นชูเยวี่ยไปตัวนั้น เห็นว่าระดับความสูงเพียงพอที่จะโยนคนลงไปให้กลายเป็นขนมเปี๊ยะไส้เนื้อได้แล้วจึงปล่อยกรงเล็บทันที

จากนั้นอวิ๋นชูเยวี่ยก็ร่วงตกลงไปเป็นเส้นตรง

ประเด็นสำคัญก็คือนางทางหนึ่งร่วงลงไปทางหนึ่งก็ส่งเสียงกรีดร้องไปด้วย

เมิ่งถังรีบขี่กระบี่พุ่งเข้าไปรับตัวนางไว้

ตอนพานางกลับลงมาที่พื้น ติงเล่อเซวียนและโจวอิ้งเสวี่ยยังไม่ทันหาเรือนที่เหมาะสมเข้าไปหลบภัยได้

เมิ่งถังจึงมอบอวิ๋นชูเยวี่ยให้กับติงเล่อเซวียน

เห็นชัดว่าสองขาของอวิ๋นชูเยวี่ยอ่อนยวบแล้ว ตอนเมิ่งถังปล่อยมือ นางก็ลื่นไถลลงไปนั่งกับพื้นราวกับโคลนเหลว

ติงเล่อเซวียนมองดูนาง ลังเลอยู่ชั่วขณะ สุดท้ายยังคงเดินเข้ามายื่นมือไปประคองนางขึ้น

ตอนแรกเมิ่งถังหมุนตัวจะขี่กระบี่จากไป แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว หันหน้ามาว่ากล่าวอวิ๋นชูเยวี่ย

“อวิ๋นชูเยวี่ย ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็เป็นผู้บำเพ็ญเซียนขั้นสร้างฐาน ไม่ใช่คนธรรมดาจะเทียบได้ เมื่อครู่เจ้าถูกนกประหลาดจับไปหรือจะไม่รู้จักช่วยเหลือตนเอง ตอนถูกมันโยนลงมาหรือเจ้าไม่รู้จักขี่กระบี่ เอาแต่กรีดร้องมีประโยชน์อันใด หรือเห็นว่าแค่กรีดร้องแล้วจะช่วยชีวิตเจ้าได้”

ถ้าจะบอกว่าอ่อนแอบอบบาง หรือโจวอิ้งเสวี่ยไม่ใช่บุตรสาวเจ้าเมือง มีอันใดด้อยกว่าเจ้าหรือ

นางยังไม่นับเป็นผู้บำเพ็ญเซียนด้วยซ้ำ กระทั่งขี่กระบี่ก็ยังไม่เป็น แต่เมื่อครู่ตอนนางถูกโจมตีก็ไม่ได้ส่งเสียงร้องสักคำ รู้จักช่วยเหลือตนเอง

เช่นนี้เมื่อหันไปมองอวิ๋นชูเยวี่ยอีกครั้ง เมิ่งถังก็รู้สึกแทบไม่อยากจะมอง

จึงเอ่ยเสียงเย็น “ศิษย์น้องอวิ๋น ที่ติดค้างเจ้าอยู่หนึ่งชีวิตข้าใช้คืนให้แล้ว”

พูดพลางนางก็หมุนตัวขี่กระบี่จากไป เริ่มงานเก็บกวาดในช่วงท้ายของตน

ติงเล่อเซวียนมองอวิ๋นชูเยวี่ยที่โกรธจนใบหน้าเขียวคล้ำ แล้วประคองนางเดินเข้าไปในเรือนที่อยู่ด้านข้างหลังหนึ่งเงียบๆ

โจวอิ้งเสวี่ยรู้ ยามนี้ตนบาดเจ็บหนัก ถ้ายังอยู่ข้างนอก ไม่เพียงไม่อาจช่วยเมิ่งถังได้ เกรงว่ายังจะทำให้นางต้องแบ่งสมาธิมาตลอดเวลาจึงตามติงเล่อเซวียนเข้ามาในเรือนเงียบๆ

เพียงแต่ถึงจะเข้ามาในเรือนแล้ว นางยังคงยืนอยู่ที่ข้างหน้าต่าง แหงนหน้ามองเมิ่งถังตลอดเวลา

ก็เห็นเงาร่างของเมิ่งถังรวดเร็วดุจสายฟ้าแลบ เห็นอยู่ว่าเมื่อครู่ยังด้านตะวันออกสังหารนกประหลาดตัวหนึ่งในกระบี่เดียว พริบตาถัดมานางก็มาปรากฏตัวที่ด้านตะวันตก ประกายกระบี่พุ่งผ่านไป นกประหลาดสองตัวทางซ้ายตัว ทางขวาตัวต่างร่างขาดเป็นสองท่อน ขนปีกสีดำบนร่างนกร่วงพรูลงมาปานประหนึ่งหิมะสีดำตก

โจวอิ้งเสวี่ยมองเมิ่งถังที่เป็นเช่นนี้อดที่จะชื่นชมไม่ได้ “เมิ่งเซียนจื่อร้ายกาจยิ่งนัก ทำให้คนเลื่อมใสใฝ่ฝัน”

อวิ๋นชูเยวี่ยถูกติงเล่อเซวียนประคองไปนั่งที่ม้านั่งตัวหนึ่งได้ยินแล้วก็แค่นหัวเราะออกมาคำหนึ่ง

ติงเล่อเซวียนได้ยินชัดเจน อดที่จะเงยหน้าขึ้นมองนางไม่ได้

เมื่อกลางวันเมิ่งถังถูกฟ่านตูจับตัวไป ปล่อยนกกระเรียนกระดาษตัวนั้นออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือกลับถูกอวิ๋นชูเยวี่ยชักกระบี่ฟันขาด

ติงเล่อเซวียนแม้จะเร่งรุดไปบอกมู่หวาฮุยเรื่องเมิ่งถังมีอันตราย แต่ก็ลังเลแล้วลังเลอีก สุดท้ายนางก็ไม่ได้บอกเรื่องที่อวิ๋นชูเยวี่ยฟันนกกระเรียนขาดออกไป

เพียงแต่หลังจากเรื่องผ่านไปติงเล่อเซวียนมาใคร่ครวญถึงเรื่องนี้อย่างละเอียดกลับอดเย็นยะเยียบไปทั้งร่างไม่ได้

เพราะนางนึกขึ้นมาได้ว่าสองวันก่อนมู่หวาฮุยยืนกรานจะยกเลิกการหมั้นหมาย อวิ๋นชูเยวี่ยไม่ยินยอม เรื่องนี้ยังถูกหลิงซิงเหยาได้ยินเข้า

อวิ๋นชูเยวี่ยคิดจะไปอธิบายกับหลิงซิงเหยา หลิงซิงเหยากลับไม่สนใจนาง หมุนตัวเข้าห้องปิดประตู

หลังจากนั้นอวิ๋นชูเยวี่ยก็ร้องไห้วิ่งออกไป ตนได้รับการไหว้วานจากอวิ๋นซิวไป่ให้ตามไปปลอบใจอวิ๋นชูเยวี่ย

ครานั้นนางหาอวิ๋นชูเยวี่ยพบก็เห็นนางนั่งอยู่กับบุรุษผู้บำเพ็ญเซียนอิสระสองคนกำลังสนทนากันเรื่องอาวุธวิเศษในแดนบำเพ็ญเซียน

เนื่องจากพักหลังมานี้อวิ๋นชูเยวี่ยนับวันยิ่งวางตัวเมินเฉยเหินห่างต่อตน ติงเล่อเซวียนไม่อยากจะเข้าไปใกล้นางมากนักจึงยืนฟังอยู่ห่างๆ

ระหว่างนั้นเองก็ได้ยินอวิ๋นชูเยวี่ยเอ่ยกับผู้บำเพ็ญเซียนอิสระสองคนนั้นถึงกระบี่คู่กายของเมิ่งถังว่าเป็นอาวุธเทพชิ้นหนึ่งสามารถกลายร่างเป็นร่างที่มีจิตวิญญาณได้ตามใจชอบ

ตอนนั้นติงเล่อเซวียนยังเคยคิด ก่อนลงจากเขามาฝึกฝนหาประสบการณ์ ผู้อาวุโสซ่งแห่งหอคุมกฎยังเรียกพวกนางหลายคนที่รู้เรื่องนี้ไปสั่งกำชับเป็นพิเศษ บอกเรื่องนี้เป็นความลับของสำนัก ห้ามพวกนางเปิดเผยให้คนนอกรู้แม้แต่ครึ่งคำ เหตุใดยามนี้ศิษย์น้องอวิ๋นถึงกับบอกเรื่องนี้กับบุรุษภายนอกสองคนที่ไม่มีความคุ้นเคยใดๆ ต่อกัน

ทว่าตอนนั้นนางก็ไม่ได้เข้าไปห้ามปราม หลังจากนั้นก็ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้กับอวิ๋นชูเยวี่ย ด้วยเหตุนี้อวิ๋นชูเยวี่ยจึงไม่รู้ว่านางได้ยินคำพูดเหล่านั้นทั้งหมด

แต่เมื่อมาคิดโยงกับเรื่องที่เมิ่งถังเล่าให้ฟังในตอนบ่าย บอกฟ่านตูผู้นั้นอยากได้กระบี่ชิงหลวนของนางถึงได้จับตัวนางไป…

ฟ่านตูผู้นั้น ใช่หนึ่งในสองผู้บำเพ็ญเซียนอิสระสองคนนั้นในวันนั้นหรือไม่

ดังนั้นอวิ๋นชูเยวี่ยคาดเดาได้แต่แรกแล้วว่าฟ่านตูต้องอยากได้กระบี่ชิงหลวน และมาทำร้ายเมิ่งถัง

นางกระทั่งยังฟันนกกระเรียนกระดาษที่เมิ่งถังปล่อยออกมาขอความช่วยเหลือจนขาด…

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com