ทดลองอ่าน ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา บทที่ 60-61 – หน้า 7 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา

ทดลองอ่าน ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา บทที่ 60-61

7 of 7หน้าถัดไป

ปลายกระบี่ชิงหลวนชี้ตรงไปที่โม่เซียว เมิ่งถังเอ่ยด้วยน้ำเสียงน่าครั่นคร้าม “โม่เซียว วันนี้ก็คือวันตายของเจ้า”

ก็ไม่เชื่อว่ารวมกำลังกันสามคนมู่หวาฮุย หลิงซิงเหยา และนางแล้วจะจัดการกับโม่เซียวไม่ได้

โม่เซียวไม่ได้เอาคำพูดดุดันของนางมาใส่ใจแม้แต่น้อย

หากแต่ชำเลืองมองนางแวบหนึ่ง แล้วมองหลิงซิงเหยาที่ทะยานตามนางขึ้นมาบนแท่นสูง กล่าวยิ้มๆ “เมื่อครู่เจ้าร่วมมือและประสานกับศิษย์พี่ผู้นี้ของเจ้าได้ดียิ่ง แดนมนุษย์มีสำนวนอยู่วลีหนึ่ง เรียกว่ารู้ใจกัน ใช่ใช้กับสถานการณ์เช่นพวกเจ้าสองคนเช่นนี้หรือไม่”

เมิ่งถังกลับฟังไม่ออกถึงความต้องการยุแหย่ให้แตกแยกกันในคำพูดประโยคนี้ของเขา และไม่ได้สังเกตเห็นแววตาที่พลันขรึมลงมาของมู่หวาฮุย

สะบัดข้อมือตัวกระบี่ชิงหลวนสั่นวิ้ง นางแค่นหัวเราะ

“ประเดี๋ยวตอนเอาชีวิตสุนัขของเจ้า เราจะร่วมมือและประสานกันดียิ่งขึ้น”

พูดพลางสะกิดปลายเท้าพุ่งเข้าไปที่โม่เซียว

มู่หวาฮุยกับหลิงซิงเหยาเห็นแล้วรีบสะบัดกระบี่คนหนึ่งซ้ายคนหนึ่งขวาเร่งรุดเข้าไปช่วยเหลือนาง

พูดตามตรงพวกเขาสามคนรวมกำลังกัน โม่เซียวมากน้อยก็ยังนึกกลัวอยู่บ้าง

มองมารอสูรและมารที่บาดเจ็บล้มตายอยู่ข้างหน้าแวบหนึ่งเห็นว่าถึงกลับไปตอนนี้ก็มีคำอธิบายให้กับจอมมารแล้ว

ที่สำคัญที่สุดก็คือเขาเห็นว่าเมื่อครู่เขาได้ผลักมู่หวาฮุยให้เดินหน้าไปบนเส้นทางสู่ความเป็นมารอีกระยะแล้ว

ในเมื่อบรรลุเป้าหมายแล้วก็ไม่จำเป็นต้องรั้งอยู่ที่นี่อีก

ครั้นแล้วหลังจากประมือกับคนทั้งสามไปไม่กี่กระบวนท่า เขาก็ยกมือขึ้นขว้างระเบิดควันออกมาลูกหนึ่ง

บนแท่นสูงอบอวลไปด้วยควันดำในทันที

มู่หวาฮุยเกรงว่าควันดำจะมีพิษ ในเวลาเดียวกันกับที่ตนเองปิดกั้นลมหายใจก็พุ่งเข้าไปโอบเมิ่งถังไว้ในอ้อมแขน ยกมือสร้างม่านอาคมขึ้นมา

แล้วหยิบยาลูกกลอนต้านพิษจากแหวนเก็บทรัพย์ยัดใส่ปากเมิ่งถังเม็ดหนึ่ง

เมิ่งถังอ้าปากอมไว้แล้ว

เพียงแต่นางกลับไม่ยอมซุกอยู่ในอ้อมแขนมู่หวาฮุยแต่โดยดี เงยหน้าขึ้นมองควันดำตรงหน้าตลอดเวลา คิดจะหาเงาร่างของโม่เซียว

แน่นอนย่อมหาไม่พบ

กระทั่งรอจนควันดำสลายไปหมด บนแท่นสูงไม่เพียงโม่เซียว ลูกสมุนหลายตนที่ยืนอยู่ข้างกายเขาก็ล้วนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

บนแท่นสูงที่กว้างใหญ่เหลือเพียงนาง มู่หวาฮุย และหลิงซิงเหยาสามคนเท่านั้น

“น่าโมโหยิ่งนัก! ถึงกับปล่อยให้เขาหนีไปได้!”

เมิ่งถังโมโหจนกระทืบเท้าเร่าๆ

ครั้งนี้ปล่อยให้โม่เซียวหนีไปได้แล้ว ครั้งต่อไปจะรวมกำลังกันสามคนเช่นเมื่อครู่อีกครั้งไม่รู้ต้องรอถึงเมื่อใด

มู่หวาฮุยมองธงใหญ่ของแดนมารที่ยังคงตั้งอยู่บนแท่นสูง นิ่งเงียบไม่พูด

โม่เซียวแม้จะจากไปแล้ว แต่คำพูดที่เขาพูดไว้ก่อนหน้านี้ยังคงอยู่ในใจของมู่หวาฮุย

เขาอดที่จะหันไปมองด้านข้างแวบหนึ่งไม่ได้

เมื่อครู่ตอนโม่เซียวขว้างระเบิดควันแล้วหนีไป เขาเร่งรุดมาปกป้องเมิ่งถังก็รู้สึกได้ว่าหลิงซิงเหยากำลังมุ่งมาทางด้านนี้เช่นกัน

หลิงซิงเหยาเองก็คงจะเร่งรุดมาด้วยจิตใต้สำนึกเพื่อจะปกป้องเมิ่งถังกระมัง แต่ถูกเขาชิงตัดหน้าไปก่อนก้าวหนึ่งจึงจำต้องล้มเลิก

เปลี่ยนคำพูดเสียใหม่ก็คือถ้าเมื่อครู่เขาช้าไปเพียงก้าวเดียว เช่นนั้นตอนนี้คนที่โอบเมิ่งถังไว้ในอ้อมแขนก็คือหลิงซิงเหยาใช่หรือไม่

คิดมาถึงตรงนี้มู่หวาฮุยก็อดกระชับแขนขวาที่โอบเอวบางของเมิ่งถังเข้ามาไม่ได้

เมิ่งถังเป็นของเขาเพียงคนเดียว เขาจะไม่ยอมให้ใครมีโอกาสแตะต้องเมิ่งถังได้อีก!

ส่วนอีกด้านหนึ่ง หลิงซิงเหยามองสบสายตานิ่งขรึมของมู่หวาฮุย แล้วหันหน้าไปทางด้านหนึ่งเงียบๆ

เมื่อครู่เห็นท่าไม่ดี เขาคิดจะเข้ามาปกป้องเมิ่งถังจริง

ทั้งหมดนั้นเป็นการทำไปด้วยจิตใต้สำนึกกลับถูกมู่หวาฮุยชิงตัดหน้าไปก้าวหนึ่ง

ตอนเห็นมู่หวาฮุยโอบเมิ่งถังเข้ามาในอ้อมแขนด้วยความรวดเร็วอย่างที่สุด และยกมือขึ้นสร้างม่านอาคม เขาก็หยุดฝีเท้าลง

จะแย่งชิงเรื่องทำนองนี้ไปทำอันใด เห็นชัดว่าเมิ่งถังปฏิบัติต่อมู่หวาฮุยอย่างสนิทสนมกว่ามาก

ดังนั้นทุกครั้งตอนนางถูกมู่หวาฮุยโอบกอดล้วนจะโอนอ่อนผ่อนตาม ไม่เคยดิ้นรนขัดขืน

แล้วมองท่าทางที่ปรารถนาจะครอบครองนางแต่เพียงผู้เดียวของมู่หวาฮุย…

พวกเขาสองคนความจริงน่าจะแสดงความรู้สึกที่แท้จริงต่อกันไปแล้วกระมัง

เพราะเหตุใดในใจจึงมีความรู้สึกฝาดเฝื่อนบอกไม่ถูกอยู่จางๆ

หลิงซิงเหยาเงยหน้าเหม่อมองจันทร์กระจ่างบนท้องฟ้าไกล

 

* หมัดที่ชกออกมาสะเปะสะปะตียอดฝีมือให้ตายได้ เป็นการเปรียบเปรย หมายถึงคนที่ทำอะไรส่งเดช ไม่มีระเบียบขั้นตอนอาจจับพลัดจับผลูเอาชนะผู้เชี่ยวชาญที่ทำอะไรมีขั้นตอนได้ ในที่นี้หมายถึงยอดฝีมืออาจรับมือกับผู้ด้อยฝีมือแต่มีจำนวนมากกว่าไม่ไหว

** ฝูงมังกรไร้เศียร หมายถึงกลุ่มคนที่ขาดผู้นำ ไร้ทิศทาง

 

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 11 .. 66 เวลา 12.00 .

 

 

7 of 7หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com