เวลานี้เองลุงหลี่ก็พลันก้าวอย่างเร่งร้อนเข้ามาในโถงรับแขก เขาหอบหายใจพลางเอ่ย “นายหญิง จวนป๋อในเมืองหลวงส่งคนมาขอรับ” เหลียนอวี้จูงุนงง นางลืมจวนจงอี้ป๋อไปตั้งนานแล้ว ยิ่งไม่เคยคิดว่าจวนป๋อจะส่งคนมา
“จวนป๋อส่งผู้ใดมา” ฉู่อวิ๋นจิ้งมุ่นคิ้วเล็กน้อยพลางถาม
“พ่อบ้านหูขอรับ”
“ลุงหลี่พาพ่อบ้านหูไปที่ศาลารับลมก่อน ข้าจะไปพบเขาที่นั่น” ปกติสถานที่ที่พวกเขาใช้รับรองแขกก็คือโถงรับแขก ทว่ายามนี้พวกเขากำลังกินอาหาร ย่อมไม่เหมาะจะพบเขาที่นี่
เหลียนอวี้จูตั้งสติได้ในที่สุด นางลุกขึ้นจะติดตามฉู่อวิ๋นจิ้งไปพบพ่อบ้านหู ฉู่อวิ๋นจิ้งเดิมคิดยื่นมือขวางไว้ แต่เมื่อคิดดูก็เห็นว่าไม่ถูกต้อง อย่างไรบิดาก็ไม่อยู่ ในนามมารดาถือเป็นผู้นำครอบครัว มารดาออกหน้าจึงสมเหตุสมผล ถึงอย่างนั้นฉู่อวิ๋นจิ้งก็ไม่ลืมกำชับมารดาอย่างละเอียด หากไม่จำเป็นไม่ต้องเอ่ยวาจา ตนจะรับมือเอง
“คารวะนายหญิงสี่ คุณหนูสาม” พอพ่อบ้านหูเห็นพวกนางสองแม่ลูกก็รีบร้อนเข้ามาคารวะ
ฉู่อวิ๋นจิ้งประคองมารดานั่งลงบนม้าหิน นางยืนอยู่ด้านหลังมารดา มองพ่อบ้านหูแล้วเอ่ย “พ่อบ้านหูมาเยือนเช่นนี้ ไม่ทราบว่ามีเรื่องใดชี้แนะหรือ”
“บ่าวมาถ่ายทอดคำพูดของท่านป๋อ อย่างไรก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ไฉนจะทนดูพวกท่านใช้ชีวิตยากลำบากที่นี่ได้ ด้วยเหตุนี้จึงส่งบ่าวมาเชิญครอบครัวนายท่านสี่กลับจวนป๋อขอรับ” แม้พ่อบ้านหูจะไม่มีท่าทีหยิ่งยโส แต่ก็ไม่เห็นท่าทางนอบน้อม ประหนึ่งพอเขาเอ่ยเป้าหมายการมาเยือนจบแล้วพวกนางก็จะยอมรับอย่างยินดีปรีดาเสียอย่างนั้น
ฉู่อวิ๋นจิ้งยกยิ้มหยัน “ท่านป๋อพูดผิดแล้ว พวกเราไม่ใช่ ‘ครอบครัวเดียวกัน’ มาตั้งนานแล้ว”
พ่อบ้านหูได้ยินก็พลันตกตะลึง เห็นได้ชัดว่าท่าทีของฉู่อวิ๋นจิ้งไม่เป็นไปตามที่คาดไว้
“ทุกคนในครอบครัวล้วนชอบชีวิตที่นี่มาก ไม่คิดกลับเมืองหลวง”
“บ่าวอยากพบนายท่านสี่ขอรับ” พ่อบ้านหูมองซ้ายมองขวาแวบหนึ่งแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย บ้านซอมซ่อถึงเพียงนี้คงไม่ได้มีชีวิตที่ดีแน่ จะไปชอบชีวิตที่นี่ได้อย่างไร
ฉู่อวิ๋นจิ้งอ่านความคิดพ่อบ้านหูออกอย่างไม่ยากเย็น เนื่องจากบ้านนี้เคยมีขโมยขึ้นมาก่อน อีกทั้งนางก็ตั้งใจจะซื้อบ้านใหม่ในตัวเมืองอยู่แล้ว จึงรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องฟุ่มเฟือยเงินทองเพื่อจัดระเบียบที่นี่ใหม่ สิ่งเดียวที่นางใส่ใจกับที่นี่จึงอยู่ที่การปลูกผักผลไม้เท่านั้น
“พ่อบ้านหูมาเยือนได้ไม่ถูกเวลาเสียเลย หลายวันนี้พ่อข้าไม่อยู่บ้าน”
“ตอนนี้บ่าวพักที่โรงเตี๊ยมซื่อไห่ในเมือง รอนายท่านสี่กลับมา บ่าวค่อยมาอีกครั้งหนึ่ง”
“ข้าว่าพ่อบ้านหูอย่าเสียเวลารอพ่อข้ากลับมาเลย สิ่งที่พ่อข้าชิงชังเป็นที่สุดก็คือคนของจวนป๋อ หากพ่อข้าอยู่บ้าน เกรงว่าพ่อบ้านหูคงเข้ามาไม่ได้ตั้งแต่ประตูหน้าแล้ว”
“บ่าวขอรอนายท่านสี่กลับมาดีกว่า” พ่อบ้านหูรับคำสั่งของจงอี้ป๋อมา ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพานายท่านสี่กับครอบครัวกลับเมืองหลวงให้ได้ ต่อให้นายท่านสี่เป็นคนดื้อรั้นหัวแข็งจนอาจทำให้เขาพบกับความยากลำบาก แต่เขาจะยอมแพ้ไม่ได้เป็นอันขาด