ลู่ไป่จวิ้นยิ่งฟังยิ่งสับสน เขาอดกุมขมับอีกครั้งไม่ได้ “ฉีอ๋องซื่อจื่อไม่รู้รหัสเปิดกล่องกลไก แล้วจะใช้กล่องกลไกแลกเปลี่ยนชีวิตคนในครอบครัวได้หรือ”
“ฉีอ๋องทิ้งเบาะแสให้กับฉีอ๋องซื่อจื่อ เพราะเขาสลักรหัสเปิดกล่องกลไกไว้ที่หยกมังกรของฝ่าบาท” ตะลึงไปครู่ใหญ่ลู่ไป่จวิ้นก็กะพริบตาปริบๆ อย่างงงเป็นไก่ตาแตก “หยกมังกรของฝ่าบาทเป็นอดีตฮ่องเต้พระราชทานให้พระองค์ในพิธีสวมหมวก แล้วฉีอ๋องจะสลักรหัสลงไปบนหยกมังกรได้อย่างไร”
เซียวอวี้ก็รู้สึกอัศจรรย์ใจเช่นกัน แต่เขาเชื่อว่าฉีอ๋องเป็นคนจัดการเรื่องนี้จริงๆ “เกรงว่าหยกมังกรของฝ่าบาทคงถูกสับเปลี่ยนตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่ในมืออดีตฮ่องเต้ และที่ฉีอ๋องเลือกจะซ่อนรหัสเปิดกล่องกลไกไว้ในหยกมังกรของฝ่าบาทก็เพราะพระองค์คือพระโอรสเพียงพระองค์เดียวที่เกิดจากฮองเฮาในอดีตฮ่องเต้ เป็นผู้ที่มีโอกาสสืบทอดราชบัลลังก์มากที่สุด”
ลู่ไป่จวิ้นรู้สึกว่าภายในสมองตนเองตีกันยุ่งเหยิงอีกหน “ในเมื่อรหัสถูกสลักบนหยกมังกร ฝ่าบาทก็ควรเปิดกล่องกลไกได้แล้วไม่ใช่หรือ”
เซียวอวี้ยิ้มอย่างจนใจ “หยกมังกรของฝ่าบาทอีกครึ่งซีกอยู่ที่ฉู่ซื่อเหยีย แห่งจวนจงอี้ป๋อ” ลู่ไป่จวิ้นมีสีหน้าตกตะลึง นี่มันเรื่องอะไรกันอีก!
“นี่เป็นเรื่องเมื่อสี่ปีก่อน ตอนที่พ่อข้าติดตามฝ่าบาทไปช่วยเหลือชาวบ้านที่เจียงหนานนั้น คิดไม่ถึงว่าจะพบโจรสลัดที่เซียงโจวเข้า ในช่วงเวลาเป็นตายก็ได้ฉู่ซื่อเหยียช่วยไว้ได้พอดี พ่อข้าจึงใช้การหมั้นหมายของข้าตอบแทนบุญคุณช่วยชีวิตของอีกฝ่าย ทว่ายามนั้นกลับไม่มีของมีค่าใดพอใช้เป็นของแทนใจได้ ฝ่าบาทจึงมอบหยกมังกรครึ่งซีกที่ติดตัวมาด้วยให้อีกฝ่ายไป”
“…ฝ่าบาทมอบของแทนใจแทนท่านโหว?!” ลู่ไป่จวิ้นพลันรู้สึกว่าสมองของตนเองไม่พอใช้เสียแล้ว
“ตอนนั้นฝ่าบาทยังเป็นองค์ชายอยู่ วันหน้าหากพวกเราจวนอู่หยางโหวไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ก็เพียงมอบผลประโยชน์เป็นการตอบแทนให้อีกฝ่ายไปก็พอ แต่ทันทีที่อดีตฮ่องเต้ทรงเลือกฝ่าบาทขึ้นสืบราชบัลลังก์ ของแทนใจนี้จึงไม่เหมือนเดิมอีก” เวลานั้นไม่ว่าฝ่าบาทหรือพ่อเขาต่างก็คิดไม่ถึงว่าหยกมังกรครึ่งซีกจะเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร
ลู่ไป่จวิ้นพยักหน้า “ฐานะของฮ่องเต้กับองค์ชายแตกต่างกันมากนัก ดังนั้นฮ่องเต้จึงมีพระราชโองการสมรสพระราชทานลงมา โดยไม่สนว่าฐานะของทั้งสองฝ่ายจะคู่ควรหรือไม่”
“แต่ฉู่ซื่อเหยียไม่นำของแทนใจมาหาพ่อข้าเสียที เป็นไปได้มากว่าฉู่ซื่อเหยียจะรู้จักประมาณตน รู้ว่าไม่อาจใฝ่สูงถึงจวนอู่หยางโหวของพวกเรา”
ลู่ไป่จวิ้นเหยียดปากอย่างไม่คิดเช่นนั้น “มีของแทนใจของฝ่าบาทเช่นนี้ เจ้าคิดหรือว่าพวกเขาจะไม่ตอบรับการแต่งงาน”
“แต่จนถึงวันนี้ฉู่ซื่อเหยียก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวจริงๆ ตอนฝ่าบาททรงขึ้นครองบัลลังก์ใหม่ๆ เรื่องเร่งด่วนที่สุดคือสร้างความมั่นคงในราชสำนัก ทว่าในใจยังคงรอให้ฉู่ซื่อเหยียเป็นฝ่ายมาหา ซึ่งตลอดมาฉู่ซื่อเหยียไม่เคยมีความเคลื่อนไหวใด กล่องกลไกจะปล่อยทิ้งไว้ไม่เปิดออกตลอดไปไม่ได้ ฝ่าบาทจึงส่งพ่อข้าไปตามตัวถึงที่บ้าน คิดไม่ถึงว่าฉู่ซื่อเหยียจะถูกจวนจงอี้ป๋อขับออกจากตระกูลไปตั้งแต่สองปีก่อน ทั้งยังพาภรรยากับลูกย้ายมายังเซียงโจวแล้ว”
มุมปากของลู่ไป่จวิ้นกระตุกทีหนึ่ง “จวนจงอี้ป๋อขับฉู่ซื่อเหยียออกจากตระกูล?”