นับตั้งแต่อู่หยางโหวซื่อจื่อมาที่นี่ ท่านแม่ก็ดูมีเรื่องกังวลในใจ ท่านแม่ปิดบังเรื่องอะไรเกี่ยวกับหยกมังกรอยู่หรือ ฉู่อวิ๋นจิ้งขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะส่งฉู่เหยียนให้น้องสาวฉู่อวิ๋นซินเป็นผู้ดูแล แล้วค่อยเขยิบตัวเข้าไปใกล้มารดา นางหยิบถ้วยชาในมืออีกฝ่ายมาถือไว้อย่างแผ่วเบา พร้อมยิ้มละไมพลางเอ่ย “เสื้อท่านแม่เปื้อนหมดแล้ว ข้ากลับไปเปลี่ยนที่ห้องเป็นเพื่อนท่านนะเจ้าคะ”
เหลียนอวี้จูยังไม่ทันหลุดจากภวังค์ ขณะที่กำลังทำความเข้าใจต่อสถานการณ์ตรงหน้านี้ฉู่อวิ๋นจิ้งก็คล้องแขนพานางเดินออกมาจากบริเวณร้านต้นจื่อเถิงแล้ว
“ท่านแม่มีเรื่องอะไรอย่าเก็บไว้ในใจเลย มีคนร่วมหารือด้วยย่อมดีกว่า แม้ไม่อาจแก้ปัญหาได้แต่ก็จะได้ความเห็นที่มากขึ้น โดยเฉพาะข้าสมองคิดเร็วฉับไว ไม่มีเรื่องใดที่ยากเกินกำลังข้าไปได้” ฉู่อวิ๋นจิ้งเอ่ยเสียงค่อย
ผ่านไปครู่ใหญ่เหลียนอวี้จูถึงได้สติ “แม่ไม่เป็นไร”
“ท่านแม่จะทำร้ายจิตใจข้าเกินไปแล้ว ท่านไม่เชื่อว่าข้าสามารถช่วยท่านออกความเห็นได้หรือเจ้าคะ”
“ไม่ใช่แม่ไม่เชื่อเจ้า แต่พูดไปแล้วก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ไยแม่ต้องพูดออกมาให้เจ้าเป็นกังวลขึ้นด้วย”
“เดิมทีชีวิตมนุษย์ก็คือนิทานที่สอดประสานความสุขและความทุกข์เข้าด้วยกัน มีสูงต่ำ มีขึ้นมีลง มีธรรมดาสามัญก็ต้องมีสีสันตื่นตา หากคิดแต่จะวิ่งเข้าหาเรื่องดีมีความสุข ยามพบเจอเรื่องร้ายทุกข์ใจก็กระถดกายถอยห่างไปไกลแสนไกลกระนั้นหรือ เช่นนี้ยังจะเรียกว่าชีวิตมนุษย์ได้อย่างไรเจ้าคะ” ฉู่อวิ๋นจิ้งส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วยกับมารดา
เหลียนอวี้จูตกตะลึงไปชั่วขณะ นางทั้งซาบซึ้งและขบขันในเวลาเดียวกัน “หลักการของเจ้ามีมากกว่าคนอื่นเขาจริงๆ”
“แล้วไม่ถูกหรือเจ้าคะ ชีวิตที่สุขสบายไร้กังวลย่อมสุขสำราญใจ แต่หากขาดความทุกข์ ความโกรธไป ชีวิตเหล่านี้ก็คงจะน่าเบื่อหน่ายมากมิใช่หรือไร” นี่เป็นคำพูดจากใจฉู่อวิ๋นจิ้งจริงๆ เพียงแต่คนบนโลกนี้มักเลือกใช้แต่ชีวิตที่สุขสบาย
กลับมาถึงห้องของเหลียนอวี้จูแล้ว ฉู่อวิ๋นจิ้งก็เปลี่ยนชุดให้มารดา จากนั้นแม่ลูกก็ไปนั่งลงบนตั่งนุ่ม
เหลียนอวี้จูกัดริมฝีปากล่าง ชั่งใจอยู่นานในที่สุดนางก็เอ่ยออกมา “พ่อเจ้าไม่ได้ออกทะเลไปกับเรือสินค้าหรอก แต่แม่ก็ไม่รู้ว่าพ่อเจ้าไปที่ใดกันแน่ รู้แค่ว่าเรื่องนี้เป็นความลับยิ่ง และที่สำคัญก็คือหลังจากเสร็จเรื่องนี้แล้ว ครอบครัวของเราจะสามารถกลับเมืองหลวงได้อย่างสง่าสมเกียรติ”
“ครอบครัวเราจะกลับเมืองหลวงได้อย่างสง่าสมเกียรติ?”
“ใช่ พ่อเจ้ายังบอกว่าถึงไม่มีจวนจงอี้ป๋อ เขาก็อาศัยความสามารถของตนเองเข้ารับราชการได้”
ฉู่อวิ๋นจิ้งรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ลางดีเท่าไรนัก ท่านพ่อไปเป็นทหารกระนั้นหรือ ไม่ถูกต้อง หากเป็นทหาร ท่านพ่อก็ไม่ควรพูดว่าเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอดสิ นอกเสียจากว่าเป็นหน่วยรบพิเศษ เฮ้อ…ในยุคนี้คงไม่มีหน่วยงานอย่างหน่วยรบพิเศษหรอก อย่าทำให้ตนเองเสียขวัญเช่นนี้สิ