เหลียนอวี้จูผงะ จากนั้นร่างกายก็อ่อนยวบดุจวิญญาณหลุดออกจากร่าง ฉู่อวิ๋นจิ้งเห็นแล้วรีบเข้าไปประคองนาง
“ท่านแม่เป็นอะไรไปเจ้าคะ”
ผ่านไปครู่หนึ่งเหลียนอวี้จูจึงเงยหน้าขึ้นช้าๆ “ช่างเถิด กระทั่งพ่อเจ้าออกทะเลไปตอนใดพวกเรายังไม่รู้ นับประสาอะไรกับการสืบข่าวคราว”
“ต่อให้ไม่ง่าย แต่ก็ลองดูได้นี่เจ้าคะ”
“หากพ่อเจ้ายังมีชีวิตอยู่ แม่เชื่อว่าเขาจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคนับหมื่นพันกลับมาอยู่ข้างกายพวกเราได้แน่”
“แน่นอนเจ้าค่ะ ท่านพ่อเองก็รู้ว่าพวกเรารอเขากลับมาอยู่กันพร้อมหน้าทั้งครอบครัว” ฉู่อวิ๋นจิ้งหยุดไปเล็กน้อย ก่อนกลับไปที่ปัญหาก่อนหน้าอีก “หากมีโอกาสท่านแม่อยากกลับเมืองหลวงหรือไม่”
เหลียนอวี้จูขมวดคิ้วเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่านางเองก็ทุกข์ใจกับปัญหาเรื่องนี้เช่นกัน เดิมทีฉู่อวิ๋นจิ้งยังนึกว่ามารดาจะไม่ตอบเสียแล้ว ทว่าจู่ๆ นางก็ตอบว่า “ถึงแม่จะไม่ชอบเมืองหลวง แต่ที่นั่นก็เป็นสถานที่ที่พ่อเจ้าแม้แต่นอนก็ยังฝันอยากจะกลับไป”
ฉู่อวิ๋นจิ้งเข้าใจความรู้สึกของมารดา จากบ้านเกิดแต่งไปที่เมืองหลวง ซ้ำยังแต่งกับลูกอนุภรรยาที่ถูกคนอื่นๆ ในบ้านรังแกกดขี่ ใช้ชีวิตผ่านมาอย่างทรมานและยากลำบากหลายปีกว่าจะหลุดพ้นออกมาได้อย่างยากเย็น ไม่ต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดกลัวอีก ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามารดาแทบอยากหนีไปให้ไกลแสนไกลเสียให้ได้ ขณะที่ความรู้สึกของบิดานั้นกลับแตกต่างออกไป เขาหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้ลืมตาอ้าปากต่อหน้าผู้คนที่เคยดูถูกเขา
“ท่านแม่แต่งงานกับท่านพ่อได้อย่างไรกัน” นี่เป็นเรื่องที่ฉู่อวิ๋นจิ้งอยากรู้มาตลอด
“ยายของเจ้าหวังให้แม่แต่งไปอยู่เมืองหลวง ตอนอายุสิบสี่เคยส่งแม่ไปอยู่กับท่านทวด ท่านทวดของเจ้าเคยเป็นรองหัวหน้าในสำนักศึกษาหลวง ตำแหน่งไม่สูง กระนั้นก็มีขุนนางและคหบดีมากมายยินดีเกี่ยวดองด้วย ถึงอย่างนั้นตาของเจ้าก็เป็นเพียงรองนายอำเภอ ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่ยอมให้ลูกภรรยาเอกของตนตบแต่งภรรยาที่ไม่มีอำนาจอะไร ตามหานานถึงหนึ่งปี จนแล้วจนรอดการแต่งงานนี้ก็ยังหาทางสรุปไม่ได้ จนวันหนึ่งแม่พบกับม้าตื่นบนถนนเข้า พ่อเจ้าได้ช่วยชีวิตแม่ไว้ ย่าของเจ้าทราบเรื่องนี้จึงส่งคนมาทาบทามสู่ขอ”
ฉู่อวิ๋นจิ้งได้ยินก็เข้าใจได้ในทันที ท่านย่าไม่ต้องการให้ลูกอนุได้สู่ขอภรรยาที่มีอำนาจแน่ ขณะเดียวกันก็ไม่ยอมถูกผู้คนครหาว่านางปฏิบัติไม่ดีกับลูกอนุ และมารดาของนางก็เหมาะจะเป็นภรรยาของลูกอนุที่ไม่ดีไม่แย่ในใจของนาง เมื่อมีบุญคุณช่วยชีวิต แน่นอนว่าต้องรีบจัดการงานมงคลในครั้งนี้
“แม้ชีวิตในจวนจงอี้ป๋อจะไม่ง่ายดาย แต่แม่โชคดีมากที่ได้แต่งกับพ่อของเจ้า พ่อเจ้าฉลาดเฉลียวปราดเปรื่อง มีความสามารถล้ำเลิศ หากไม่ถูกแม่ใหญ่กับพี่น้องคอยกดขี่ข่มเหง เขาคงก้าวหน้าไปตั้งนานแล้ว คงไม่ได้มาแต่งกับลูกสาวขุนนางตำแหน่งเล็กๆ เช่นแม่”
ฉู่อวิ๋นจิ้งพยายามนึกภาพของบิดาในความทรงจำ เดิมทีเขาเกิดมาหน้าตาหล่อเหลา หากไม่เป็นเพราะแม่ใหญ่กับพวกพี่น้องคอยกีดกันไม่ให้เขาได้แสดงความสามารถ มิฉะนั้นกระทั่งองค์หญิงเขาก็มีโอกาสได้แต่งงานด้วย
“จิ้งเอ๋อร์ พวกเรามีโอกาสกลับเมืองหลวงใช่หรือไม่” เหลียนอวี้จูรู้ว่าบุตรสาวไม่มีทางถามขึ้นมาโดยไร้สาเหตุ
ฉู่อวิ๋นจิ้งใคร่ครวญดูแล้วก็เล่าข้อเสนอของลู่ไป่จวิ้นออกมา
“เจ้าอยากร่วมการค้ากับคุณชายลู่หรือไม่”
“ข้อเสนอที่คุณชายลู่เสนอให้ยังไม่พอที่จะให้ข้าหวั่นไหว แต่นี่ก็เป็นโอกาสดีจริงๆ” ฉู่อวิ๋นจิ้งไม่ต้องการให้มารดาต้องกดดัน ไม่ว่ามารดาจะชอบเมืองหลวงหรือไม่ คนที่ตัดสินใจก็จะเป็นมารดา