“ข้าไปสืบข่าวที่บ้านของฉู่ซื่อเหยียมา ทราบจากบ้านข้างๆ ว่าไม่นานมานี้นายหญิงสี่สกุลฉู่ได้พาบุตรชายบุตรสาวย้ายไปอยู่ในเมืองแล้ว ว่ากันว่าหลังจากฉู่ซื่อเหยียจากไป บ้านสกุลฉู่ก็ตกต่ำย่ำแย่ลงทุกที เมื่อถึงยามที่อับจนหนทาง จู่ๆ คุณหนูใหญ่สกุลฉู่ก็ได้พบกับคนของหอจ้วนเซียน ถึงขนาดที่คนจากที่นั่นออกหน้าซื้อบ้านในเมืองให้ครอบครัวสกุลฉู่ด้วยตนเอง พอข้าถามเรื่องนี้กับหลงจู๊เหอ จึงได้รู้ว่าตัวเขามิได้สนิทสนมกับคุณหนูใหญ่สกุลฉู่ แต่เป็นคุณชายลู่ที่เป็นเถ้าแก่ของหอจ้วนเซียนช่วยคุณหนูใหญ่สกุลฉู่ซื้อบ้านในเมือง”
“คุณหนูใหญ่สกุลฉู่?”
“ขอรับ หลงจู๊เหอบอกว่าคนที่ขายสูตรอาหารให้หอจ้วนเซียนก็คือคุณหนูใหญ่สกุลฉู่”
ครู่ใหญ่เซียวอวี้ถึงตั้งสติได้ เขารู้สึกมาตลอดว่าลู่ไป่จวิ้นกล่าววาจาดูมีลับลมคมในอยู่ตลอด ที่แท้คนผู้นั้นก็เป็น ‘นาง’ มิใช่ ‘เขา’ แม้ในสายตาเขาจะมองสตรีเป็นตัวปัญหา ทั้งเขายังเกลียดการติดต่อกับพวกนางเป็นที่สุด ทว่าครั้งนี้เขาไม่พูดไม่ได้เลยว่า “หากเป็นนางจริง ก็ไม่แปลกที่อาจวิ้นจะยืนกรานขอร่วมงานกับนางให้ได้”
“แม่นางฉู่ที่พวกเราเจอที่ร้านอาหารสกุลจางก็คือแม่นางฉู่จริงๆ หรือนี่” เกาฉียิ่งคิดยิ่งรู้สึกเหลือเชื่อ แม่ครัวที่กำราบอาการเลือกกินของคุณชายได้นั้นกลับกลายเป็นฮูหยินซื่อจื่อในอนาคต?!…แม้คุณชายจะไม่ยอมรับการแต่งงานครั้งนี้ แต่ก่อนที่จะรับของแทนใจคืนกลับมา แม่นางฉู่ก็ยังถือว่าเป็นภรรยาที่ยังไม่แต่งเข้าของคุณชาย
“ไปเยือนถึงที่ก็รู้แล้ว” จู่ๆ เซียวอวี้ก็รู้สึกหัวใจเต้นแรง พบหน้ากันสองครั้งเขาก็มีความสงสัยใคร่รู้ในตัวนางอย่างแท้จริงแล้ว แต่เนื่องจากเป็นคนแปลกหน้าต่อกันเขาจึงไม่เก็บมาใส่ใจนัก คิดไม่ถึงว่านางจะเป็นบุตรสาวคนโตของฉู่ซื่อเหยีย เป็นภรรยาในนามที่ยังไม่แต่งเข้าสกุลของเขา
“ข้ายังไม่ได้สืบว่าสกุลฉู่ย้ายบ้านไปอยู่ที่ใดเลยขอรับ” เกาฉีเอ่ยขึ้น
“อาจวิ้นต้องรู้อย่างแน่นอน”
“ข้าจะไปถามคุณชายลู่เดี๋ยวนี้ขอรับ” เกาฉีรีบหมุนตัวออกจากลานฝึกยุทธ์ไป
เซียวอวี้ยกคันธนูในมือขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะหลับตาลง เขาใช้หูยืนยันเป้าหมาย จากนั้นก็เล็งให้แม่น ลูกธนูถูกยิงออกไป ก่อนจะตรึงเหรียญอีแปะที่แขวนบนต้นพุทราไว้กับกำแพง…อาจวิ้นเห็นเข้าคงต้องสบถด่าเป็นแน่
ตั้งแต่เซียวอวี้มาอยู่ที่นี่กำแพงลานฝึกยุทธ์ก็ถูกเขาเล่นงานจนเป็นรอยทั่วไปหมด น่าขัดหูขัดตาโดยแท้ เขาจึงเสนอให้แขวนเป้าฟางให้ทั่วเสียเลย แต่อาจวิ้นกลับมองว่ามันน่าเกลียดเกินไป ยืนกรานไม่เอา ทั้งยังสั่งไม่ให้เขาใช้เหรียญอีแปะระบายอารมณ์อีก หากมีฝีมือก็ให้ยิงนกที่บินบนท้องฟ้า ทว่าที่นี่มิใช่ป่าเขาเสียหน่อย วันหนึ่งเขาไม่เห็นจะมีนกบินผ่านมาสักตัว แน่นอนว่าเขาเลยได้แต่ยิงเหรียญอีแปะต่อไป