คิดเช่นนี้หัวคิ้วของฉู่อวิ๋นจิ้งก็คลายลง “จริงสินะ อย่างน้อยๆ ก็พอคาดเดาได้ว่าพ่อข้าไปยังที่ใด”
“หากได้ข่าวคืบหน้า ข้าจะบอกคุณหนูใหญ่ทันที” เซียวอวี้เอ่ยปากเพื่อให้นางวางใจ
ฉู่อวิ๋นจิ้งคารวะขอบคุณอย่างนอบน้อม “ลำบากซื่อจื่อแล้ว”
“เรื่องของคุณหนูใหญ่ก็คือเรื่องของข้า ข้าควรต้องทำอยู่แล้ว”
ฉู่อวิ๋นจิ้งตกตะลึงไป ถ้อยคำนี้ฟังดูพิกลนัก ทว่าชั่วขณะนั้นนางกลับคิดไม่ออกว่ามีปัญหาตรงที่ใด
เซียวอวี้เห็นฉู่อวิ๋นจิ้งมีท่าทางเหม่อลอยงุนงง เขาก็อดไม่ได้ต้องยกมือขึ้น ทว่ายกได้เพียงครึ่งทางก็ลดมือลง หากข้าลูบผมนางจริง นางจะต้องเสียขวัญจนหนีกระเจิงไปเป็นแน่
ฉู่อวิ๋นจิ้งคิดว่าตนเองเป็นคนฉลาด แต่ไรมาก็เข้าใจเรื่องราวได้โดยง่าย ทว่านางกลับไม่เข้าใจว่าอะไรที่ทำให้ตนเองว้าวุ่นใจในตอนนี้ คนดีๆ สองคนไยจึงเปลี่ยนเป็นแปลกพิกลได้กะทันหันเล่า
ด้วยยังคิดไม่ตกและไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ฉู่อวิ๋นจิ้งจึงได้แต่รีบเอ่ยปากขอตัวไป
เซียวอวี้เห็นเช่นนั้นก็อดยกยิ้มมุมปากไม่ได้ ที่แท้นางก็มียามที่ตระหนกลนลานเช่นกัน ช่างน่าเอ็นดูยิ่งนัก
“เพื่อของชิ้นนี้ ข้าเสียเงินไม่พอ ยังต้องใช้เส้นสายทั้งหมดที่มีอยู่อีก” ลู่ไป่จวิ้นโยนสมุดในมือลงไปบนโต๊ะเล็กอย่างแค้นใจ เนื้อหาในสมุดคัดลอกมาจากจดหมายเหตุราชสำนักเมื่อสองปีก่อน
หากมิใช่ขุนนาง โดยปกติย่อมไม่โอกาสไปค้นหาจดหมายเหตุราชสำนักที่เก็บรักษาไว้ที่จวนว่าการได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการยืมออกมาคัดลอกเลย ลู่ไป่จวิ้นจึงทำได้เพียงติดสินบน ต่อด้วยส่งของกำนัลล้ำค่าเพื่อเชิญคนมาคัดลอก ทั้งยังกลัวว่าคนผู้นั้นจะไม่ตั้งใจคัดลอกให้เขาอีก จึงต้องจ้างคนมาคอยจับตาดูข้างๆ
เซียวอวี้เบะปากอย่างไม่เห็นด้วย “อาศัยฐานะของเจ้า ไหนเลยต้องใช้เส้นสายทั้งหมดถึงจะเอาจดหมายเหตุราชสำนักมาได้”
“หากเป็นของทั่วไปที่แค่มีตำแหน่งก็เอามาได้ ไยเจ้าไม่ออกโรงเองเสียเลยเล่า ฐานะของเจ้าใช้การได้ดีกว่าข้าอีกนะ” ในเมื่อเขามีเพียงความคิดจะดูแลหอจ้วนเซียนอยู่เต็มท้อง อยู่ๆ จะไปใส่ใจเรื่องราวในราชสำนักได้เยี่ยงไร แน่นอนว่าตามหลักแล้วพ่อค้าก็ควรใส่ใจทิศทางของราชสำนักบ้าง ทว่าที่ใส่ใจน่ะคือทิศทางในอนาคต หาใช่อดีตไม่!
“มันก็ไม่แน่เสมอไปหรอก ข้าอยู่ที่นี่ก็เป็นแค่นักเดินทาง ไม่แน่ว่าคนอื่นเขาจะเห็นแก่ฐานะข้า” เซียวอวี้พลิกเปิดสมุดพลางเพ่งดูอย่างละเอียด
ลู่ไป่จวิ้นนั่งลงบนตั่งนุ่มอีกด้านหนึ่ง “เหตุใดอยู่ๆ ถึงจะตรวจสอบจดหมายเหตุราชสำนักเมื่อสองปีก่อนเล่า”
เซียวอวี้โบกมือไปมาเป็นการบอกไม่ให้เขาเสียงดัง แล้วอ่านข้อความในสมุดต่อ
ลู่ไป่จวิ้นจึงเบนสายตาไปที่เกาฉีเสียเลย
เกาฉีรีบร้อนเบือนหน้าหนี เวลาเช่นนี้หากกล้ารบกวนคุณชาย เกรงว่าข้าคงต้องเป็นใบ้ไปสามวัน ข้าไม่เอาด้วยหรอก