ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย บทที่ 108 – หน้า 6 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย บทที่ 108

6 of 6หน้าถัดไป

ฝ่ายหลิงปู้อี๋ยามนี้กำลังจับเข่าสนทนาลับกับเหลียงอู๋จี้ที่ห้องชั้นในอันเงียบเชียบแห่งหนึ่ง

“ใต้เท้าผู้ว่าการตรองดูให้ดี ข้าไม่รีบร้อน”

“ในเมื่อไม่รีบร้อน เหตุใดเจ้าจึงมาบีบคั้นข้า” เหลียงอู๋จี้เอ่ยเสียงเย็น

“ใต้เท้าเหลียง ท่านนึกว่าตอนนี้ผู้ที่ร้อนรุ่มคือรัชทายาทหรือ มิใช่เลย ตอนนี้ผู้ที่ควรร้อนรุ่มที่สุดน่าจะเป็นตัวท่าน รวมถึงตำแหน่งแห่งที่ของสกุลเหลียงทั้งตระกูลในพระทัยฝ่าบาทต่างหาก”

เหลียงอู๋จี้นั่งก้มหน้า ยันฝ่ามือทรงกาย เงียบงันไม่เอ่ยคำ

หลิงปู้อี๋นั่งเป็นสง่าอยู่หน้าโต๊ะ สุ้มเสียงชัดกังวาน “คดีคนตายนี้ดูคล้ายซับซ้อนซ่อนเงื่อน เรือนตำรากับห้องที่ปิดสนิทเอย เสื้อคลุมขนสัตว์กับหีบตำราเอย ยังมีจักจั่นหยกกับดอกกุ้ยม่วงนั่นอีก…เหล่านี้รวมเข้าด้วยกันแล้ว มีข้อสรุปได้เพียงหนึ่งเดียว ก็คือชวีซื่อลอบมีสัมพันธ์กับรัชทายาท สังหารเหลียงซั่งแล้วยังหมายจะพ้นผิด…ซึ่งนี่ก็เป็นผลลัพธ์ที่คนในมุมมืดปรารถนาจะให้เป็นเช่นกัน”

เหลียงอู๋จี้ปวดศีรษะ “นี่จะเป็นไปได้อย่างไรเล่า นับแต่ชวีซื่อออกเรือนก็อยู่ที่เหอตงโดยตลอด ไม่เคยย่างเท้าเข้าเมืองหลวงเลย อีกอย่าง…”

“มิผิด ท่านรู้ว่าชวีซื่อไม่มีทางฆ่าเหลียงซั่ง เพราะนางมีวิธีปลีกตัวจากเขาแล้ว ข้าเองก็รู้ว่ารัชทายาทไม่มีทางฆ่าเหลียงซั่ง เพราะรัชทายาทไม่ได้พบชวีซื่อมาสิบปีแล้ว…ทว่าคนนอกไม่รู้นี่” หลิงปู้อี๋แย้ง

เหลียงอู๋จี้ทรุดลงอย่างห่อเหี่ยว

หลิงปู้อี๋กล่าว “คำคนนั้นน่ากลัว รอคำลือแพร่จนรู้กันกว้างขวาง ชื่อเสียงของรัชทายาทป่นปี้ เป้าประสงค์ของคนในมุมมืดก็ลุล่วงแล้ว”

เหลียงอู๋จี้เอ่ยเยาะ “เดิมข้านึกว่าเรื่องนี้เป็นชวีซื่อทำให้รัชทายาทเดือดร้อน ตอนนี้ค่อยรู้ว่าเป็นรัชทายาทต่างหากที่ทำให้สกุลเหลียงพลอยฟ้าพลอยฝน คนในมุมมืดเปลืองแรงทำเรื่องยุ่งยาก มีหรือจะแค่พุ่งเป้าไปที่สตรีอ่อนแอนางเดียว ที่แท้ก็ชี้ปลายกระบี่ไปที่ตำหนักบูรพา! สกุลเหลียงต้องประสบกับเรื่องน่าเศร้าในครอบครัวโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว ตอนนี้จื่อเซิ่ง เจ้ายังจะมาบีบคั้นข้าอีกหรือ”

“สกุลเหลียงมิใช่ไร้ความผิดเสียทั้งหมดกระมัง” หลิงปู้อี๋ท้วงเรียบๆ “หรือว่าเหลียงซั่งมิได้แซ่เหลียง?”

เหลียงอู๋จี้ไม่เข้าใจความหมายของอีกฝ่าย

หลิงปู้อี๋เอ่ยเสริม “หากเหลียงซั่งประพฤติชอบ เป็นสามีภรรยากับชวีซื่ออย่างดี รักใคร่ให้เกียรติกัน แน่นแฟ้นไร้ช่องว่าง แผนร้ายนี้ก็ไม่แน่ว่าจะสำเร็จได้ ทว่าเขากลับทำตนเยี่ยงเดรัจฉาน! ตั้งแต่เมื่อก่อนก็มีคนไม่น้อยรู้ว่าพวกเขาสามีภรรยาไม่ปรองดอง บัดนี้เรื่องแดงออกมา ยิ่งได้รู้ว่าชวีซื่อทนทุกข์จากการกระทำอันต่ำช้าของเหลียงซั่ง การปรักปรำให้ร้ายนี้ก็ยิ่งหนักแน่น”

เหลียงอู๋จี้โมโห จึงเอ่ยเสียงหนัก “ที่แท้ล้วนเป็นความผิดของสกุลเหลียงสินะ! ใต้เท้าหลิงช่างคารมดีแท้”

“สะใภ้ของสกุลเหลียง บุตรหลานของสกุลเหลียง จวนของสกุลเหลียง เรือนตำรากับศิษย์ในสำนักศึกษาของสกุลเหลียง…หากมิใช่เรื่องของสกุลเหลียง หรือว่ายังเป็นเรื่องของข้า?”

เหลียงอู๋จี้ถูกยั่วโทสะจนแทบหงายหลัง

หลิงปู้อี๋กล่าวต่อ “ใต้เท้าผู้ว่าการมิต้องโกรธข้า เมื่อครู่ข้ายังพูดตกไปหนึ่งประโยค มิเพียงแต่ข้าที่รู้ว่ารัชทายาทไม่มีทางฆ่าเหลียงซั่ง ฝ่าบาทเองก็ทรงรู้ดีว่ารัชทายาทจะไม่ทำแน่ แม้รัชทายาทกระทำการไม่รอบคอบ แต่หากเพราะสกุลเหลียงเป็นเหตุที่ส่งผลให้รัชทายาทตกอยู่ท่ามกลางน้ำครำซึ่งสาดมามืดฟ้ามัวดินนี้ ใต้เท้าผู้ว่าการเห็นว่าฝ่าบาทจะทรงคิดเช่นไรเล่า”

เหลียงอู๋จี้ผวาวูบ โทสะสลายสิ้น ความพรั่นพรึงทะลักล้นขึ้นมาแทนที่ จึงขอความเห็นอย่างจริงใจ “ขอถามจื่อเซิ่ง เช่นนั้นสกุลเหลียงควรคลี่คลายเรื่องนี้อย่างไรดี”

หลิงปู้อี๋กำลังจะเอ่ยตอบ เบื้องนอกก็พลันแว่วเสียงองครักษ์ของเขาขอเข้าพบ ครั้นได้รับอนุญาตเข้ามาแล้ว องครักษ์ก็เอ่ยเสียงเบาหลายประโยคข้างหูผู้เป็นนาย หลิงปู้อี๋ถึงกับหน้าเปลี่ยนสีนิดๆ

เหลียงอู๋จี้สงสัยใคร่จะรู้อยู่บ้าง เมื่อครู่คุณชายสูงศักดิ์รูปงามที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ยังมีท่วงทีเย็นใจสบายอารมณ์ ยามตอบโต้กับตนเจนจัดช่ำชอง ไม่เผยแววขลาดกลัวสักส่วนเสี้ยว ยามนี้ไม่รู้เกิดเรื่องใดขึ้น จึงทำให้อีกฝ่ายมีท่าทางเยี่ยงนี้ได้

หลิงปู้อี๋มุ่นคิ้ว ก่อนจะพลันคลี่ยิ้มให้เหลียงอู๋จี้ “ผู้ว่าการเหลียง ท่านกับข้าสนทนากันที่นี่ได้เต็มที่ไม่เป็นปัญหา ทว่าเครือญาติสกุลเหลียงยังถกเถียงกันอยู่ด้านนอก ตามความเห็นของผู้เยาว์แล้ว ยังคงควบคุมสักหน่อยจะดีกว่า หาไม่เกิดเล็ดลอดออกไปนอกจวน จะไม่เท่ากับราดน้ำมันบนกองไฟหรือ”

เหลียงอู๋จี้อึ้งงัน ไม่ค่อยเข้าใจว่าญาติของตนทะเลาะกันอยู่ในจวนตนเอง จะมีอันใดเกี่ยวข้องไปถึงรัชทายาทได้ กระนั้นด้วยไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายเพิ่ม เขาจึงตอบรับข้อเสนอแนะของอีกฝ่าย “จื่อเซิ่งกล่าวถูกต้อง ข้าจะส่งคนไปบอกให้พวกเขาอย่าวู่วาม…”

“ผู้ว่าการมิต้องวุ่นวายใจ” หลิงปู้อี๋กล่าว “ยามนี้คนสกุลเหลียงทั้งวิตกว่าเกียรติภูมิของวงศ์ตระกูลจะย่อยยับในคราวเดียว ทั้งวิตกว่าจะพัวพันไปถึงรัชทายาท มีหรือจะเกลี้ยกล่อมได้โดยง่าย ส่งคนธรรมดาไปย่อมเปล่าประโยชน์ มิสู้ท่านส่งคุณชายหยวนเซิ่นไปดีกว่า ข้าเห็นว่าเขาดียิ่ง คุณชายหยวนเป็นคนสกุลเหลียงครึ่งตัว ทั้งยังรอบรู้กว้างขวาง ชื่อเสียงสูงส่ง วาทศิลป์เป็นเลิศ จะต้องสงบอารมณ์เครือญาติสกุลเหลียงได้แน่”

ผู้ว่าการเหลียงอู๋จี้แม้มากประสบการณ์ชีวิต ทว่ายามนี้ก็ยังคงงุนงงอยู่บ้าง “ขอบใจจื่อเซิ่งยิ่งนักที่ห่วงใยสกุลเหลียงเช่นนี้”

หลิงปู้อี๋ตอบอย่างมีมารยาทยิ่งยวด “มิต้องเกรงใจขอรับ”

 

* จื่อกุย คือชื่ออำเภอหนึ่งในมณฑลหูเป่ย เป็นบ้านเกิดของชวีหยวน (กวีรักชาติผู้เป็นที่มาของเทศกาลไหว้ขนมจ้าง) และหวังเจาจวิน (หนึ่งในสี่ยอดหญิงงามของจีนโบราณ) โดยอำเภอ ‘จื่อกุย 秭归’ นี้ออกเสียงใกล้เคียงกับคำว่า ‘จื่อกุ้ย 紫桂’ ที่แปลว่าดอกกุ้ยม่วง

* อักษรหุย 回

* ‘ขุนนางเที่ยงธรรมยากตัดสินเรื่องในครอบครัว’ หมายถึงเรื่องในครอบครัวนั้นสลับซับซ้อน แม้แต่ขุนนางผู้สุจริตเที่ยงธรรมก็ยังยากจะตัดสินชี้ขาดถูกผิดได้

 

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 9 มี.. 66 เวลา 12.00 .

6 of 6หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com