ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย บทที่ 109 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย บทที่ 109

เหลียงสยาหัวเราะร่วนดังฮ่าๆ แล้วพูดอย่างได้ใจ “นั่นย่อมแน่นอน! วิธีการนี้เป็น…” เขาพลันชะงักกึก ก่อนคลี่ยิ้มเอ่ยต่อ “เป็นข้าที่เค้นสมองวางแผนออกมา! หากมิใช่แม่นางน้อยเยี่ยงเจ้าคลำหาเปะปะไปทั่ว ไม่ว่าผู้ใดขบคิดจนหัวแตกก็คิดไม่ออกหรอก!”

“ผู้เยาว์กังขานัก ขอคุณชายเหลียงโปรดอย่าตระหนี่คำชี้แนะ” เฉิงเซ่าซางทำเป็นบอบบางน่าสงสาร หวังใจให้กฎที่ว่า ‘ตัวร้ายตายเพราะพูดมาก’ นั้นบังเกิดผล เหลียงชิวเฟยเป็นคนรอบคอบ แม้ถูกนางต่อว่าไล่ออกไป กระนั้นทุกๆ ไม่ถึงครึ่งเค่อล้วนเป็นต้องเข้ามาในเรือนดูว่านางทำอันใดอยู่

“วันนั้นข้าแฝงตัวเข้ามาในห้องลับนี้ตั้งแต่เช้า รอคอยจวบจนตอนใกล้เที่ยง ได้ยินพี่ชายก่นด่าโย่วถงหญิงชั้นต่ำนั่น ทั้งยังผลักชั้นวางหนังสือล้มลงอย่างเกรี้ยวกราด ข้ารอกระทั่งโย่วถงจากไปไกลค่อยดันผนังออกไป พี่ชายตกใจยิ่ง เขาไม่เคยรู้เลยว่ามีห้องลับนี้ ความจริงข้าก็ค้นพบมันโดยบังเอิญเช่นกัน ข้าแสร้งพูดล้อเล่น ฉวยจังหวะขณะสนทนาแทงเขาตายในมีดเดียว แล้วผลักเขาไปนั่งข้างผนัง งอพับสองเข่าของเขา ให้ศพดูเหมือนเคยอยู่ในหีบตำรา จากนั้นใส่ยาสลบเล็กน้อยลงในป้านสุรา ค่อยกลับมาซ่อนตัวในห้องลับ ถอดเสื้อนอกออก ผลัดเปลี่ยนเป็นชุดบ่าวชาย รอจนช่วงบ่ายชวีหลิงจวินค้นพบศพ ข้างนอกชุลมุนวุ่นวาย ข้าจึงฉวยโอกาสปะปนจากไป”

“แผนการเยี่ยม!” เฉิงเซ่าซางพูดสนับสนุนเต็มที่ “เห็นทีคนข้างนอกล้วนมองคุณชายผิดถนัด ท่านมิเพียงวรยุทธ์สูงส่ง ยังเจ้าปัญญามากแผนการ เรียกว่าเพียบพร้อมทั้งบุ๋นบู๊โดยแท้”

เหลียงสยาหัวเราะร่าอย่างกระหยิ่มใจ จากนั้นสีหน้าพลันขรึมวูบ คุกคามเข้าใกล้นางทีละก้าว “เจ้าไม่ต้องถ่วงเวลาหรอก หึๆ เพียงแต่…ดูเจ้าโฉมงามปานบุปผาหยก มิสู้ก่อนตายให้ข้าได้สำราญใจสักหน่อย”

เดิมเฉิงเซ่าซางหวาดกลัวยิ่งยวด ครั้นได้ยินถ้อยคำนี้กลับจุดประกายความคิดบางอย่าง ที่แท้ก็จะขืนใจก่อน เช่นนั้นนางก็มีโอกาสแล้วน่ะสิ นิ้วมือนางลอบแตะไปที่มีดสั้นฝังอัญมณีเล่มเล็กตรงข้างเอว

ห้องลับมืดทึมเป็นทุนเดิม ประกอบกับมีดสั้นเล่มเล็กนั้นถูกท่านลุงวั่นสั่งทำมาแบบหรูหราอลังการ เต็มไปด้วยอัญมณีไม่พอ ปลายสองด้านยังโค้งขึ้นดุจจันทร์เสี้ยว คนทั่วไปได้เห็นล้วนต้องนึกว่ามันเป็นเพียงเครื่องประดับของเด็กสาวจำพวกเดียวกับหยกครึ่งวงกลม

ขณะที่เหลียงสยากำลังจะโถมตรงมา เสียงอึกทึกก็ดังขึ้นที่เบื้องนอก ได้ยินแต่เสียงตะโกนขององครักษ์ดังติดต่อกัน…

“แม่นางเฉิงเล่า แม่นางเฉิงหายตัวไป!”

“ห้องนี้ข้าดูแล้ว นางไม่อยู่! ห้องนั้นเล่า”

“ก็ไม่อยู่เหมือนกัน!”

“รีบปิดล้อมสามห้องนี้ไว้ ห้ามใครเข้าออก อาเฟย เจ้าไปแจ้งนายน้อยเร็วเข้า!”

เหลียงสยาสีหน้าเขียวคล้ำ เฉิงเซ่าซางยืดกายตรงเอ่ยเยาะหยัน “ตอนนี้ต่อให้ท่านฆ่าข้าก็ออกไปไม่ได้แล้ว!”

เหลียงสยาพุ่งตรงมาอย่างโกรธเกรี้ยว ปากก็ตะคอกลั่น “นางเด็กต่ำช้า!”

เฉิงเซ่าซางงอตัวกลิ้งหนึ่งตลบ ลอดผ่านใต้แขนของเขาไป ก่อนเอ่ยเสียงเย็น “ท่านกับข้าไม่มีความแค้นในปัจจุบัน ทั้งไม่มีเรื่องบาดหมางแต่หนหลัง ท่านไยต้องหาความกับข้าให้ได้เล่า มิสู้ปล่อยข้าจากไป ข้ารับรองว่าจะไม่พูดเรื่องของท่านออกไปแน่ รอจนเหล่าองครักษ์ถอนกำลังแล้วท่านค่อยหนีไป มิใช่ดีพร้อมหรอกหรือ”

เหลียงสยาอึ้งงันไปชั่วอึดใจ ครั้นได้สติแจ่มใสก็ตวาดด้วยโทสะ “ข้ามีหรือจะเชื่อเจ้า! นางเด็กต่ำช้ากลอกกลิ้ง มอบชีวิตมา!”

เฉิงเซ่าซางเล็งตำแหน่งอย่างแม่นยำ ก่อนพุ่งปราดไปฉวยแท่งจุดไฟที่เสียบอยู่บนผนัง ย่ำดับแล้วเก็บซ่อนเข้าแขนเสื้อทันที

ในห้องลับพลันมืดมิดไปทั่ว เหลียงสยาไม่ได้พกแท่งจุดไฟมาด้วย จึงได้แต่ด่าทอพลางคลำหาเด็กสาวท่ามกลางความมืด ฝ่ายเฉิงเซ่าซางที่รูปร่างเล็กอ้อนแอ้น สดับฟังเสียงหายใจอันหนักหน่วงของเหลียงสยาพลางลอดซ้ายหลบขวา ชั่วขณะเขาถึงกับไม่อาจจับตัวนางได้ ทว่าไม่ช้าเขาก็เข้าใจกุญแจสำคัญ เริ่มคว้าจับตั้งแต่ปลายด้านหนึ่งของห้องลับอันแคบยาว มือเท้ากางออกแกว่งไกว เดินหน้ารุกประชิดมาทีละก้าว ในที่สุดนางก็หมดหนทางจะหลบหลีก ถูกเขาจับกุมในกำมือจนได้

เหลียงสยาบังเกิดจิตอำมหิต มือกดบนลำคอเด็กสาวหมายจะบีบเค้นให้ตาย ขณะเดียวกันเฉิงเซ่าซางเองก็กำมีดสั้นเล่มเล็กไว้ในฝ่ามือ หมายจะกรีดหนึ่งมีดบนหลอดเลือดแดงใหญ่ตรงลำคอของเขา

ตอนนี้เองเสียงอันกังวานทว่าเร่งร้อนของชายหนุ่มผู้หนึ่งก็ดังขึ้นที่เบื้องนอก นี่เป็นเสียงซึ่งต่อให้อยู่ท่ามกลางผู้คนนับหมื่นก็จะไม่ถูกมองข้ามเป็นอันขาด “นางอยู่ที่ใด!”

“เรียนนายน้อย ทั้งสามห้องล้วนค้นจนทั่วแล้ว แม่นางเฉิงไม่อยู่จริงๆ ขอรับ!”

“จื่อเซิ่ง แม่นางเฉิงเดินเตร่ไปที่อื่นแล้วไม่ได้บอกเหล่าองครักษ์หรือไม่” นี่เป็นเสียงของผู้ว่าการเหลียง

“ไม่หรอก นางแม้อายุน้อย ทว่าเป็นคนระวังรอบคอบ ยามปกติเดินอยู่ในวัง น้อยครั้งนักจะไม่พานางกำนัลขันทีไปด้วย ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงสถานที่เช่นนี้ นางไม่มีทางจากไปโดยไม่บอกกล่าว!”

การเคลื่อนไหวของเหลียงสยากับเฉิงเซ่าซางหยุดชะงักโดยพร้อมเพรียง

ดวงตาของเฉิงเซ่าซางกลอกวูบหนึ่งก่อนกล่าว “ท่านอย่าฆ่าข้าจะดีกว่า ใช้ข้าเป็นตัวประกันเถิด”

เหลียงสยาแสยะยิ้มอย่างดุร้าย “พวกเขาหาที่นี่ไม่พบหรอก ข้าฆ่าเจ้าแล้ว ซ่อนตัวจนฟ้ามืด พวกเขาสลายตัวไป ข้าค่อยหลบหนี!”

ขณะคิดจะพูดว่า ‘แม้แต่ข้ายังหาห้องลับนี้พบ นับประสาอะไรกับหลิงปู้อี๋เล่า’ นางก็พลันได้ยินเสียงเคร้งคร้างระลอกหนึ่งดังขึ้นที่เบื้องนอก คล้ายเป็นหินเหล็กบางอย่างที่แสนหนักอึ้ง

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com