ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย บทที่ 110 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย บทที่ 110

รอจนในโถงไร้ผู้อื่น ฮ่องเต้ค่อยเหลือกตาใส่บุตรบุญธรรมอย่างหัวเสีย “เจ้าทำงานเยี่ยงนี้น่ะหรือ ถึงกับเบิกตาดูเหลียงอู๋จี้ฆ่าเหลียงสยาปิดปาก ตอนนั้นเจ้ามัวแต่ห่วงเซ่าซางกระมัง หาไม่พอเหลียงอู๋จี้พาดเกาทัณฑ์น้าวคันธนู เจ้าก็ต้องจับสังเกตได้สิ!”

แม้สิ่งที่บิดาบุญธรรมกล่าวมานั้นเป็นความจริง ทว่าหลิงปู้อี๋ไม่มีทางยอมรับแต่โดยดี ทั้งยังเอ่ยพลิกประเด็นว่า “ทูลฝ่าบาท อันที่จริงสถานการณ์ในตอนนี้เหมาะเจาะกว่าไต่สวนเหลียงสยาอีกมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ถลึงตาใส่บุตรบุญธรรม

หลิงปู้อี๋กล่าวต่อ “พระประสงค์ดั้งเดิมเพียงหมายจะล้างมลทินให้รัชทายาท วันนี้นับว่าจับพลัดจับผลู ทำให้ผู้คนรู้กันทั่วแล้ว เช่นนี้ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเค้นสอบได้คำตอบบางอย่างจากปากเหลียงสยาจริงๆ เสียอีก”

“มีคำพูดจงว่ามาตรงๆ ไม่ต้องมาพูดครึ่งซ่อนครึ่ง” ฮ่องเต้กล่าว

“ชวีหลิงจวินแม้เป็นสะใภ้สกุลเหลียง ทว่านับแต่ออกเรือนสิบปี นางไม่เคยย่างเท้าเข้าเมืองหลวงเลย หนนี้มาเมืองหลวง นับถึงวันนี้เพิ่งจะแค่สิบวัน นางไม่รู้รายละเอียดในจวนสกุลเหลียงชัดแจ้ง ไม่คุ้นเคยกับเรื่องราวผู้คนในเมืองหลวง ในเวลาอันฉุกละหุกจะวางแผนการอันรัดกุมรอบด้านเช่นนี้ได้อย่างไร จริงอยู่วัยเด็กเหลียงสยาอาศัยอยู่ที่เมืองหลวงหลายปี ทว่ากระหม่อมพิจารณาดูอุปนิสัยของเขาแล้วไม่คล้ายเป็นผู้มีแผนการระดับนี้ได้ ถ้าเช่นนั้น…เป็นผู้ใดอยู่เบื้องหลังวางแผนทุกสิ่งนี้กันแน่ เป็นผู้ใดแย้มพรายข่าวต่อรัชทายาทว่าชวีหลิงจวินถูกเหลียงซั่งตบตี เป็นผู้ใดรู้ล่วงหน้าว่ารัชทายาทกับชวีหลิงจวินจะพบปะกันที่คฤหาสน์ดอกกุ้ยม่วง และเป็นผู้ใดกันที่ซื้อตัวซุนเซิ่ง

ฝ่าบาท นับแต่เกิดเหตุเมื่อสามวันก่อน จวนสกุลเหลียงมีบ่าวชายสามคนตายโดยไม่รู้สาเหตุ คนหนึ่งจมน้ำ คนหนึ่งเมาสุราล้มฟาด อีกคนหนึ่งพลั้งกินเห็ดพิษ คฤหาสน์ดอกกุ้ยม่วงก็มีบ่าวหายไปสี่ห้าคน บัดนี้ซุนเซิ่งอยู่ในมือกระหม่อม แต่หากปล่อยเขาออกไป กระหม่อมกล้าพนันได้เลยว่าเขาเองก็จะอยู่รอดอีกไม่กี่วัน แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ หากฝ่าบาททรงอยากสืบสาวจนถึงที่สุดจริงๆ ก็มิใช่ไม่อาจสืบพบตัวคนในมุมมืด เพียงแต่…ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ พระองค์จะทรงสืบต่อไปแน่หรือ”

ฮ่องเต้นั่งนิ่งไม่ไหวติง ผ่านไปเนิ่นนาน นานจนราวกับใบไม้ที่ปลิวโปรยนอกโถงผนึกค้างอยู่กลางอากาศ พระองค์ค่อยเอ่ยวาจา “เจ้าไปดูฮองเฮากับรัชทายาทเถิด”

หลิงปู้อี๋มองฮ่องเต้ ก่อนค้อมกายกล่าวอำลา

 

เพียะ! หนึ่งฝ่ามือตบฉาดบนใบหน้าของเยวี่ยโหวเล็กอย่างหนักหน่วง บนผิวแก้มที่เขาบำรุงดูแลอย่างเข้าทีผุดรอยฝ่ามือสีแดงสดทันตา

เยวี่ยโหวใหญ่ชี้นิ้วด่าทอน้องชายคนเล็กเสียงเบา “เจ้ากินดีหมีหัวใจเสือเข้าไปหรือ ถึงได้กล้าบังอาจลอบทำเรื่องเยี่ยงนี้ออกมา!”

“พี่ใหญ่ ท่านต้องเบาเสียงกว่านี้” เยวี่ยโหวรองเดินไปถึงริมหน้าต่าง มองแล้วมองอีกอย่างกระสับกระส่าย

เยวี่ยโหวเล็กไม่แม้แต่จะป้องแก้ม ตรงข้ามยังเอ่ยปนยิ้ม “พี่ใหญ่ไม่ต้องวิตก ข้าไม่ได้ทิ้งร่องรอยไว้แม้แต่น้อย”

“ไม่ได้ทิ้งร่องรอย? เจ้าฆ่าคนไปตั้งเยอะถึงเพียงนั้น!” เยวี่ยโหวใหญ่แย้ง

“นั่นเป็นกลพรางตา” เยวี่ยโหวเล็กชี้แจง “หากจะฆ่าคนที่เกี่ยวข้องทิ้งทั้งหมดจริงๆ ไม่ใช่แค่ไม่กี่คนนั้นหรอก ข้าจงใจฆ่าบางส่วน เก็บไว้บางส่วน ก็เพื่อปกป้องตนเอง”

เยวี่ยโหวใหญ่มองน้องชายคนเล็กอย่างเย็นชา

เยวี่ยโหวเล็กยิ้มกล่าว “หรือพี่ใหญ่นึกจริงๆ ว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือข้าคนเดียว? จริงอยู่ข้าเป็นคนออกความคิด แต่ครอบครัวที่พัวพันกับเรื่องนี้มีเยอะเชียวล่ะ อย่างอื่นยังไม่เอ่ยถึง เฉพาะซุนเซิ่งผู้นั้นมีหรือชั่วครู่ชั่วยามจะซื้อตัวกันได้ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนสกุลซุนนะ เพื่อยึดกุมหลักฐานที่เขาฆ่าผู้อื่นเพื่อฮุบทรัพย์สิน มีคนแอบเฝ้ารอถึงห้าหกปีก็เพื่อจะมีสักวันที่ได้ใช้ประโยชน์”

“เจ้าทำเยี่ยงนี้เพื่ออะไรกันแน่! รัชทายาทเป็นวิญญูชนที่โอบอ้อมจริงใจผู้หนึ่ง…”

“เพื่ออะไร! แน่นอนว่าเพื่อระบายแค้นน่ะสิ!”

เยวี่ยโหวเล็กตะโกนตอบพร้อมคลื่นโทสะที่ซัดโหม

“เจ้าเบาเสียงหน่อย!” เยวี่ยโหวรองเอ่ยเสียงค่อย “คิดจะเรียกคนทั้งจวนออกมาให้ได้หรือไร!”

เยวี่ยโหวเล็กไม่แยแสพี่ชายคนรอง เพ่งมองตรงไปยังเยวี่ยโหวใหญ่ “สามสิบปีแล้ว เหตุที่พวกเราสกุลเยวี่ยทำเพื่อฮ่องเต้สกุลเหวินโดยไม่คำนึงถึงความเป็นตาย ออกทั้งคนทั้งเงิน มอบชีวิตของผู้เฒ่าผู้เยาว์ทั้งตระกูลไว้ในมือเขา เป็นเพราะเมื่อแรกพวกเราสิ้นไร้หนทางอย่างนั้นหรือ!

พี่น้องบุรุษเจ็ดคนตายไปจนตอนนี้เหลือแค่พวกเราสามคนแล้ว! ส่วนคนอื่นๆ ในตระกูลก็เจ็บตายไปนับไม่ถ้วน! พี่ใหญ่ลองกลับไปดูเครือญาติที่อำเภอเหราสิ มีหญิงม่ายเด็กกำพร้าตั้งเท่าไร นี่ล้วนทำไปเพื่อใครกัน! สกุลเยวี่ยแห่งอำเภอเหราอยู่ดีๆ เดิมทีมั่งมีสุขสงบ กลับกินอิ่มแล้วอยู่ว่างไปติดตามพวกเขาสกุลเหวินก่อกบฏ!

เพราะฮ่องเต้พี่น้องที่แสนดีท่านนั้นอวดตนเป็นวีรบุรุษผู้กล้า เป็นทายาทรุ่นหลังของเกาจู่ฮ่องเต้ราชวงศ์ก่อน ดึงดันจะไปชิงแผ่นดินให้ได้ ผลปรากฏว่ายังไม่ทันจะสำเร็จ กลับทำให้คนในบ้านกับพี่น้องเดือดร้อน ถูกทางการประกาศจับกุม ก็เป็นพวกเราสกุลเยวี่ยช่วยปกป้องบรรดาเด็กกับสตรีของพวกเขาสกุลเหวินที่หนีไปไม่รอด”

“ยังมีสกุลฮั่ว” เยวี่ยโหวรองเอ่ยแทรก “หากมิใช่ฮั่วชงเสี่ยงตายคุ้มกัน ตั้งแต่แรกฝ่าบาทก็คง…”

เยวี่ยโหวเล็กแค่นหัวเราะเย็นชา “พี่ฮั่วชงข้านับถือเลื่อมใส เป็นวีรบุรุษที่แสนจริงใจ ไม่มีใครเทียบได้จริงๆ แต่ก็เพราะการตายของพี่ฮั่วชง ข้าถึงได้มองฮ่องเต้สกุลเหวินถนัดชัดเจน มองเรื่องราวในโลกนี้ได้ชัดแจ้ง

สกุลฮั่วเป็นวีรชนทั้งตระกูลแล้วอย่างไร น่าสะท้อนใจทายาทสูญสิ้น บัดนี้เหลือหลานชายแซ่หลิงอยู่แค่คนเดียว! หากฮ่องเต้เป็นคนเด็ดขาดจริง คงเนรเทศหลิงอี้ทั้งตระกูลออกจากเมืองหลวงระบายโทสะให้ฮั่วจวินหวาไปแต่แรกแล้ว ทว่าเขาเห็นสกุลหลิงดองญาติหลายสกุล ทั้งสงบเสงี่ยมระวังตัว หดหัวใช้ชีวิต ไม่เคยกระทำผิดใดๆ เขาจึงใจอ่อน ปล่อยให้สามพี่น้องสกุลหลิงให้กำเนิดบุตรธิดา แตกกิ่งก้านสาขา ดองญาติขยายการคบหากับผู้เรืองอำนาจ…รอจนวันที่เขาลาโลกไปจริงๆ ยังไม่รู้เลยว่าหลิงปู้อี๋จะกลับคืนสกุลหลิงหรือไม่!

ฮ่องเต้สกุลเหวินเป็นคนเยี่ยงนี้เอง! อดกลั้นเก่งมาแต่เล็ก ในชีวิตหวังให้ทุกคนสุขสันต์ปรองดอง ใกล้ชิดกันดุจคนในครอบครัวเดียวกัน ยอมถอยผ่อนปรนให้กัน ทว่าเรื่องราวบนโลกไม่ได้เป็นดังความต้องการของเขาทั้งหมดหรอก! เลือดไหลออกไปแล้วไม่อาจย้อนคืนสู่ร่าง ปมแค้นผูกเงื่อนแล้วมีหรือจะคืนดีโดยง่าย!”

เยวี่ยโหวเล็กสีหน้าดุร้าย เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “กลุ่มขุนนางเมืองจิ่งเซิงที่มีหนี้เลือดกับสายตระกูลของเฉียนอันอ๋องผู้เฒ่าไม่ได้มีแค่ตระกูลสองตระกูล! เมื่อแรกที่จับมือเป็นพันธมิตรกัน โจรเฒ่าเฉียนอันอ๋องหน่วงเหนี่ยวไม่ส่งไพร่พล ดีแต่ให้พวกเราเป็นกองหน้าตะลุยฆ่า ฮึ ลุยก็ลุยสิ ใครกลัวกันเล่า! แต่ทั้งที่ตกลงกันไว้ดิบดี เขากลับจงใจเตะถ่วงจนเสียโอกาสในการศึก ซ้ำเป็นเหตุให้พี่ชายสกุลหลี่สองคนถึงแก่ชีวิต ท่านลุงสกุลหลี่กระอักเลือดออกมาทันที โกรธจนสิ้นใจไปต่อหน้าต่อตา ต่อมาโจรเฒ่าเฉียนอันอ๋องเห็นพวกเรามีขุมกำลังกล้าแข็งขึ้นเรื่อยๆ ในใจนึกกริ่งเกรง จึงจงใจให้พวกเราไปบุกค่ายใหญ่ของกลุ่มโจรที่มีกำลังคนจำนวนมาก ฮึ ตอนนั้นเขาแอบเล่นไม่ซื่อ พี่ใหญ่พี่รองอย่าบอกนะว่าไม่รู้…สกุลหวัง สกุลเหยียน สกุลไท่สื่อ มีบุตรหลานตายไปตั้งเท่าไร! ทว่าสถานการณ์สำคัญกว่าตัวบุคคล เมื่ออยู่ต่อหน้าศัตรูที่ยิ่งใหญ่ ฮ่องเต้สกุลเหวินเอาแต่ให้พวกเราอดกลั้นไว้ พวกเราก็ได้แต่อดกลั้น!”

“ไม่ต้องพูดให้ชวนฟังเช่นนี้หรอก ที่เจ้าอาฆาตแค้นเป็นเพราะเฉียนอันอ๋องผู้เฒ่าทำให้พี่น้องร่วมสาบานของเจ้าตายเสียมากกว่า” เยวี่ยโหวใหญ่กล่าว

เยวี่ยโหวเล็กไม่แสดงความเห็นในประเด็นนี้ เพียงเอ่ยต่อไปว่า “สรุปคือหนี้เลือดยากสะสาง…รอจนฮ่องเต้ขึ้นครองราชย์ ในที่สุดโจรเฒ่าเฉียนอันอ๋องก็อดรนทนไม่ไหว เริ่มวางแผนกบฏอย่างโจ่งแจ้ง ยังดีฮ่องเต้จะอย่างไรก็ไม่ใช่คนเลอะเลือน มีการป้องกันอยู่ก่อนแล้ว จึงจับกุมได้ในคราวเดียว โจรเฒ่าเฉียนอันอ๋องฆ่าตัวตาย บริวารที่เหลือล้วนแตกฉานซ่านเซ็น ทว่า…”

เยวี่ยโหวเล็กแค่นหัวเราะอย่างเย็นชา “ฮ่องเต้กลับเก็บฮองเฮากับรัชทายาทไว้! จุดประสงค์เพื่ออะไรกันเล่า นึกว่าผู้อื่นเป็นคนโง่เดาไม่ออกหรือ เพราะกลัวว่าพวกเราจะขยายอำนาจ เขาจึงเล่นลูกไม้ถ่วงดุลอันใดนั่นน่ะสิ”

เยวี่ยโหวใหญ่หลับตาถอนหายใจ “พวกเราสกุลเยวี่ย…ตอนนี้ก็เรืองอำนาจถึงขีดสุดแล้ว”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com