เจียงซวี่อธิบายอย่างเรียบเฉยง่ายดายเพียงประโยคเดียว แต่ว่าความยากลำบากและอันตรายเบื้องหลังนั้น ถ้อยคำนับหมื่นนับพันก็มิอาจอธิบายจนหมดได้
ก่อนที่จะตียึดอวี๋โจวคืน เปลือกนอกแคว้นต้าเสี่ยนดูสงบสุขเจริญรุ่งเรือง ทว่าความจริงแล้วเป็นช่วงที่ทั้งศึกนอกศึกในล้วนอันตรายถึงขีดสุด
ซู่ไทเฮาคอยจ้องสบหาโอกาสลงมือเล่นงานฮ่องเต้เฉิงคังครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงขนาดใช้ภิกษุปลอมมั่วโลกีย์ที่อารามหานเยียนบีบบังคับคนในครอบครัวของขุนนางสำคัญหลายคนในราชสำนัก คุกคามข่มขู่ทีละก้าวๆ ทำให้สายเลือดทายาทสืบสกุลสับสนปนเป จุดประสงค์ก็เพื่อใช้พวกนางเป็นเบี้ยของตนเองให้ลอบขโมยข่าวสำคัญมา
เจียงซวี่แฝงตัวไปสืบสวนในอารามหานเยียน แต่เพราะประมาทศัตรูเกินไปจึงติดกับเข้า เขาได้รับบาดเจ็บหนักกำลังแอบซ่อนตัวอยู่ในห้องรับรอง บังเอิญเป็นห้องรับรองที่หมิงถานเปลี่ยนเสื้อผ้าห้องนั้นพอดี
ในตอนนั้นเขาซ่อนตัวอยู่หลังฉากกั้น ส่วนหมิงถานก็กำลังเปลี่ยนชุดอยู่อีกด้านของฉากกั้น
นางพาดชุดตัวนอกที่ถอดออกไว้เหนือฉากกั้น พู่ระย้าที่เปล่งประกายวาววับเจิดจรัสก็ถูกพาดเอาไว้อย่างส่งเดชเช่นกัน ไม่รู้เพราะเหตุใด จู่ๆ ก็มีแผ่นหยกเล็กๆ ชิ้นหนึ่งร่วงหล่นลงมาจากพู่ระย้า เสียงก้องดังเข้าหูอย่างชัดเจน
ในเสี้ยวพริบตานั้น…
เจียงซวี่เกิดความคิดจะสังหารนางขึ้นมา
แต่แม่นางน้อยที่อยู่ตรงข้ามกลับไม่สนใจของที่ร่วงหล่นลงมา นางเอาแต่บ่นกระปอดกระแปดว่าเซียมซีของอารามนี้ไม่แม่นยำเช่นไร เสื้อผ้าของนางเลอค่าราคาแพงเพียงใดอย่างฉุนเฉียว
ต่อมาก็มีคนมาสืบหามือสังหาร นางดูเหมือนจะโกรธจัดถึงขีดสุด จึงพูดตอกกลับไปทีละข้อๆ อย่างมีเหตุผลฉะฉานชัดเจน ตะเพิดคนจนหนีห่างจากห้องรับรองออกไปได้
เจียงซวี่มองออกไปผ่านรอยแยกของฉากกั้นแวบหนึ่งอย่างห้ามไม่อยู่ แม่นางน้อยที่อยู่ด้านนั้นดูเหมือนจะเพิ่งอายุสิบสามสิบสี่ปี รูปโฉมงามเลิศเลอ ระคนแฝงด้วยความเป็นเด็กเล็กน้อย
แต่หลังจากที่แม่นางน้อยผู้แฝงด้วยความเป็นเด็กผู้นี้ใช้หลักคุณธรรมจริยธรรมตอกกลับไปยกใหญ่ นางก็ยังจงใจผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างอืดอาดยืดยาด ช่วยยื้อเวลาหนึ่งเค่ออันสำคัญอย่างยิ่งยวดให้เขาได้โดยมิได้ตั้งใจ
เขาใช้เวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งเค่อนี้นั่งขัดสมาธิรักษาบาดแผล ฟื้นฟูกำลังภายในกลับคืนมาได้ห้าส่วน หนีออกไปจากอารามหานเยียนได้อย่างปลอดภัย
กลางคืนเผาอารามจับตัวศัตรู กลางวันคลื่นใต้น้ำโหมกระหน่ำซัดสาดในราชสำนัก เรื่องราวมากมายจนท้ายที่สุดแล้วก็มิได้เอามาพูดกันอย่างเปิดเผยโจ่งแจ้ง แต่ว่าพลิกผันราวกับคว่ำฟ้ากลับแผ่นดินในชั่วข้ามคืน
คดีอารามหานเยียนเรียกได้ว่าเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เมื่อปีนั้นฝ่ายอำนาจทางซู่ไทเฮาจำต้องเก็บตัวเงียบ เนื่องจากเรื่องนี้ทำเลยเถิดจนเกินขอบเขตไป ขุนนางคนสำคัญในหลายสำนักหลายคนซึ่งเดิมทีรักษาจุดยืนเป็นกลางถึงขั้นแสดงท่าทีชัดเจน ขอเป็นปฏิปักษ์กับฝ่ายอำนาจของซู่ไทเฮา
ชายาตัวน้อยของเขาเคยช่วยเขาไว้ที่อารามหานเยียนครั้งหนึ่งอย่างมิได้เจตนา แผ่นหยกสีดำที่เขาหยิบติดมือมาด้วยชิ้นนั้นก็ได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้อีกครั้งในสงครามที่อวี๋โจวหลังจากนั้นไม่นาน
การตียึดอวี๋โจวคืนเป็นศึกที่ลำบากและอันตรายมากที่สุดในชีวิตของเขา แนวหน้าตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากคับขัน ในราชสำนักกลับทุจริตฉ้อโกงเสบียงกรัง กองทัพต้าเสี่ยนถูกตีพ่ายถอยร่น ทหารบาดเจ็บล้มตายหลายหมื่นนาย
ในระหว่างที่เขาบาดเจ็บสาหัสใช้ตนเองเป็นเหยื่อล่อให้ศัตรูไล่ตามสังหารอยู่ในป่านั้น ทันใดก็พลันมีลูกธนูมากมายถูกยิงออกมาพร้อมกัน ลูกธนูดอกหนึ่งยิงตรงเข้าสู่หัวใจของเขา เขาคิดว่าคงยากจะรอดเคราะห์ภัยครั้งนี้ไปได้ ทว่าแผ่นหยกสีดำที่เขาเผลอใส่ไว้ในอกเสื้อชิ้นนั้นกลับเป็นหยกอูเหิงที่แข็งแรงทนทานไม่แตกหัก มันได้ช่วยเขาสกัดลูกธนูอาบยาพิษดอกนั้นเอาไว้
แต่ไหนแต่ไรมาการพบพานเนื้อคู่นั้นเป็นเรื่องแสนอัศจรรย์ยิ่ง บางครั้งรู้จักกันมาหลายปีแต่ก็ทำได้แค่พยักหน้าทักทายกันเท่านั้น ทว่าบางคนชั่วชีวิตได้พบเจอกันแค่เพียงครั้งเดียว แต่โชคชะตาก็ลิขิตให้ได้ครองคู่กัน
* การเล่นประชันใบหญ้า เป็นการละเล่นในจีนสมัยโบราณ โดยนำก้านพืชมาเกี่ยวกันแล้วออกแรงดึง หากของใครขาดก่อนก็ถือว่าแพ้
* ชิงหมิง หรือเช็งเม้ง (ตามสำเนียงแต้จิ๋ว) เป็นวันที่ลูกหลานจะไปที่สุสานเพื่อกราบไหว้บรรพบุรุษ และทำความสะอาดบริเวณสุสาน เพื่อแสดงความเคารพ และกตัญญูต่อบรรพบุรุษ
* เจียงหนาน คือแถบพื้นที่ใต้แม่น้ำแยงซีเกียง (ฉางเจียง) โดยมากหมายถึงทางตอนใต้ของมณฑลเจียงซู อันฮุย และแถบมณฑลเจ้อเจียง
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 14 เม.ย. 66 เวลา 12.00 น.