“เรียนพระชายา เรียนฮูหยิน เพลิงไหม้ลุกลามขึ้นจากร้านเซียนเฉวียน เหนือผิวน้ำมีลมพัด เปลวเพลิงกำลังไหม้ลามออกไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ยังหาพวกท่านอ๋องไม่เจอขอรับ!”
ฮูหยินท่านเจ้าเมืองใบหน้าซีดเผือด เอ่ยด้วยสุ้มเสียงสั่นเครือว่า “ยังหาไม่เจอแล้วจะมารายงานด้วยเหตุใดกัน ยังไม่รีบไปหาอีก!”
“อย่าลืมใต้น้ำ ส่งคนไปหาใต้น้ำด้วย” หมิงถานกำชับอย่างสุขุมรอบคอบ
“ขอรับ!”
เมื่อคนผู้นี้รายงานเสร็จแล้วเดินจากไป ไม่นานนักก็มีคนวิ่งเข้ามาพลางกล่าวรายงานข่าวคราวเสียงดังลั่นว่า “จะ…เจอตัวท่านเจ้าเมืองแล้วขอรับ!”
หมิงถานรีบรุดเข้าไปถาม “เจอตัวท่านเจ้าเมืองแล้ว? แล้วท่านอ๋องกับคุณชายรองสกุลซูเล่า”
คนผู้นั้นหอบหายใจหนักหน่วง เสียงขาดห้วง “ระ…เรียนพระชายา เจอแต่ท่านเจ้าเมืองที่ใต้น้ำ ท่าน… ท่านอ๋องกับคุณชายรองสกุลซูยังไม่มีวี่แววเลยขอรับ”
ฮูหยินท่านเจ้าเมืองรีบพุ่งปรี่เข้าไปถามไถ่ “ใต้เท้าเป็นอย่างไรบ้าง คนเล่า!”
“ใต้เท้าสำลักน้ำหมดสติไป ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ตะ…แต่คงไม่มีอันตรายถึงชีวิต ทหารของที่ว่าการเมืองกำลังจะพาตัวใต้เท้ากลับจวนขอรับ”
แรกเริ่มเดิมทีฮูหยินท่านเจ้าเมืองได้รับความกระทบกระเทือนใจแตกตื่นเสียขวัญ ยามนี้พอพลันได้ยินว่าใต้เท้าของตนเองไม่มีอันตรายถึงแก่ชีวิต นางก็เอามือกุมอก ปากพร่ำพูดว่า “ใต้เท้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ใต้เท้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” แต่ใครเล่าจะคิดว่าเสี้ยวพริบตาต่อมาเรี่ยวแรงของนางก็พลันหายไปทั้งกายา ตัวอ่อนยวบหงายหลังล้มตึงลงไป
“ท่านแม่!”
“ฮูหยิน!”
ทุกคนแตกตื่นจนทำอะไรไม่ถูก รีบร้อนประคองฮูหยินท่านเจ้าเมืองที่เป็นลมหมดสติไปเอาไว้
เรื่องแค่นี้ก็เป็นลม?
หมิงถานเม้มปากแน่น พอนึกถึงเจียงซวี่ที่ยังไม่มีวี่แววข่าวคราวใดๆ มือที่กำอยู่ในแขนเสื้อกว้างก็บีบแน่น บีบจนขอบปลายนิ้วปรากฏสีขาวซีด
ในความเป็นจริงสติสัมปชัญญะกำลังบอกนางว่าไม่มีข่าวคราวก็คือข่าวดีที่สุด ขนาดท่านเจ้าเมืองยังไม่เป็นไร แล้วเทพแห่งสงครามผู้เข่นฆ่ากรำศึกมานับไม่ถ้วนจะเกิดเรื่องได้อย่างไร แต่ในใจนางก็เอาแต่คิดไม่ยอมหยุดว่าหากมีคนจ้องเล่นงานสามี เจตนาวางเพลิงเพื่อปกปิดความผิดเล่าจะทำอย่างไรดี
ทุกชั่วขณะในสมองของนางล้วนมีความคิดมากมายสุดจะนับปรากฏวูบผ่าน ถึงขนาดคิดไปว่าฮูหยินท่านเจ้าเมืองเองก็รู้เห็นเป็นใจในเหตุการณ์นี้ด้วยหรือไม่ จุดประสงค์ก็เพื่อหลอกให้นางออกมาข้างนอก จะได้ใช้นางเป็นตัวประกันต่อกรกับสามี
ความคิดเหล่านั้นยุ่งเหยิงวุ่นวาย แต่ทั้งหมดล้วนบอกเตือนนางว่านางควรเชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดเรื่องใดขึ้นกับสามี นางควรจะอยู่รอข่าวดีที่นี่ นางควรจะรักษาตัวให้ปลอดภัยอย่ากระทำการหุนหันพลันแล่น นางคือชายาติ้งเป่ยอ๋อง ทุกการตัดสินใจที่บุ่มบ่ามไม่ผ่านการไตร่ตรองให้รอบคอบสามารถก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มิอาจแก้ไขย้อนคืนได้
แต่ไม่ว่านางจะเกลี้ยกล่อมบอกให้ตนเองใจเย็นเช่นไร เพียงนางคิดว่าสามีอาจจะมีโอกาสหนึ่งในหมื่นถูกคนสร้างสถานการณ์ลอบทำร้าย ยามนี้กำลังพลาดพลั้งอยู่กลางทะเลเพลิง นางก็ไม่อาจทนให้ตนเองอยู่รอที่นี่เฉยๆ ให้คนเอาข่าวคราวมาบอกเช่นนี้ได้อีก
เวลาคล้อยผ่านไปทีละนิดทีละน้อย
ในที่สุดนางก็นั่งไม่ติดที่
“พาฮูหยินกลับไปพักผ่อนเสีย ทุกคนเองก็แยกย้ายกันก่อน ตรงนี้มีข้าคอยจัดการก็พอ” จู่ๆ หมิงถานก็เอ่ยสั่งการเสียงสงบนิ่ง
ในเมื่อเจอตัวบิดาแล้ว มารดาก็เป็นลมหมดสติไปอีก บรรดาคุณหนูจวนท่านเจ้าเมืองก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อตั้งแต่แรกแล้ว พวกนางจึงกล่าวขอตัวลาแล้วรีบประคองมารดากลับจวน
ฮูหยินและคุณหนูคนอื่นๆ ที่เหลือเห็นเช่นนั้นก็คิดว่าไม่ใช่ธุระกงการอันใดของบ้านตน จึงพากันตอบรับ แยกย้ายกลับไปคนละทิศละทางอย่างรวดเร็ว
หลังจากคนกลับกันไปหมดแล้ว หมิงถานก็มองไปทางอวิ๋นอี่โดยพลัน เอ่ยด้วยสายตามุ่งมั่นแรงกล้าว่า “อวิ๋นอี่ ข้าจะเข้าไป”
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 18 เม.ย. 66 เวลา 12.00 น.