ทดลองอ่าน กระวานน้อยแรกรัก บทที่ 14 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

กระวานน้อยแรกรัก

ทดลองอ่าน กระวานน้อยแรกรัก บทที่ 14

3 of 3หน้าถัดไป

“…พระชายาบอกว่าหากบ่าวไม่ยอมให้นางไป นางก็จะว่ายน้ำไปเอง แน่นอนว่าบ่าวจะฟาดพระชายาให้สลบไปเลยก็ได้ แต่บ่าวเห็นว่าพระชายาเป็นห่วงนายท่านมากจริงๆ จึงสงสารหักใจทำเช่นนั้นไม่ลง เป็นความบกพร่องของบ่าวเอง บ่าวน้อมรับโทษเจ้าค่ะ”

เมื่อกลับมาถึงที่ว่าการเมือง อวิ๋นอี่ก็อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ออกมาอย่างละเอียดยิบ

“สงสาร?” เจียงซวี่เหลือบมองนาง

“บ่าวมาจากหน่วยองครักษ์จินอวิ๋น จริงอยู่ที่ไม่ควรสงสาร ทว่าพอได้อยู่ข้างกายพระชายามาเป็นเวลานาน บ่าวเพิ่งได้เห็นพระชายาร้อนรนจนเสียอาการเช่นวันนี้เป็นครั้งแรก พระชายาไม่ทราบว่านายท่านจะทำอันใด เพียงแค่กลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับนายท่าน อยากจะไปช่วยนายท่านเท่านั้น ขอนายท่านอย่าตำหนิพระชายาเลยเจ้าค่ะ”

“นี่เจ้ากำลังโทษข้าติ้งเป่ยอ๋องอยู่หรือ”

“บ่าวมิกล้า”

อวิ๋นอี่คุกเข่าลงกับพื้น ทว่าแผ่นหลังกลับเหยียดตรงยิ่ง

เจียงซวี่เองก็ไม่รู้ว่ากำลังคิดอันใดอยู่ เขานิ่งเงียบไปเนิ่นนาน ทันใดนั้นก็เปิดปากเอ่ยขึ้นว่า “เจ้าหาตัวคนที่ข้าติ้งเป่ยอ๋องต้องการพบ ครั้งนี้จะถือว่าแล้วกันไป แต่ต่อไปหากเจ้าปล่อยปละให้พระชายาเข้าไปเสี่ยงอันตรายอีกครั้ง เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องปรากฏตัวให้ข้าผู้นี้เห็นอีก ไสหัวไปเสีย”

“เจ้าค่ะ”

หลังจากอวิ๋นอี่ถอยกลับออกไป เจียงซวี่ก็ยืนเงียบๆ อยู่ที่ห้องชั้นนอกพักใหญ่ แสงราตรีนอกเรือนมืดทะมึน มีเสียงสกุณาเสียงจักจั่นขานร้องเป็นครั้งคราว เขายกเท้าขึ้นก้าวเดินไปยังห้องชั้นใน

ห้องชั้นในเงียบสนิทไร้สรรพเสียง ทุกสิ่งที่ปรากฏให้เห็นในสายตาล้วนมีแต่ความหรูหราอวดร่ำอวดรวยที่ยามปกตินางมักจะรังเกียจว่าไม่น่าภิรมย์ แต่โชคดีที่ผ้าปูที่นอนและกำยานหอมสงบจิตล้วนเป็นของที่หมิงถานพกติดตัวมาเอง อาจจะด้วยสาเหตุนี้ ในเวลานี้นางถึงได้นอนหลับสบายเพียงนี้

เจียงซวี่นั่งลงตรงขอบเตียง มองรอยแผลไฟลวกเล็กๆ บนมือของนางแวบหนึ่ง ต่อมาก็หยิบผ้าเช็ดหน้าหมาดที่พาดอยู่ตรงขอบอ่างล้างหน้าขึ้นมา เช็ดฝุ่นสกปรกที่หลงเหลืออยู่บนใบหน้าของนางออก

จริงๆ แล้วที่เขาตอบรับคำเชื้อเชิญของเจ้าเมืองมุ่งหน้าไปยังร้านเซียนเฉวียนในค่ำคืนนี้ก็เพราะว่ามีเบาะแสเกี่ยวกับหลักฐานที่โจวเป่าผิงได้เหลือทิ้งเอาไว้

เขาได้สั่งให้องครักษ์ลับแฝงตัวเข้าไปในหลิงโจวตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อนหน้านี้แล้วเพื่อตรวจสอบคดีการตายอย่างกะทันหันของโจวเป่าผิง ทั้งยังได้ข้อสรุปมาอีกด้วย

เนื่องจากโจวเป่าผิงได้หลักฐานการปั่นราคาการซื้อขายสินค้าและแจ้งจังกอบเท็จของกองการค้าทางทะเลในหลิงโจวมาถึงได้ถูกคนฆ่าปิดปากอย่างไม่มีข้อสงสัย ซ้ำร้ายยังถูกป้ายสีด้วยสาเหตุการตายที่น่าเกลียดอย่างการเที่ยวหญิงคณิกา เสพสำราญอย่างไร้ขอบเขตเช่นนี้อีก

ทว่าการที่โจวเป่าผิงสามารถขึ้นมาเป็นคนที่ฮ่องเต้ไว้ใจให้ความสำคัญได้ก็แสดงว่าเขาเป็นคนฉลาดเฉลียวมีไหวพริบปฏิภาณมาก เมื่อรู้ว่าตนเองยากจะเอาตัวรอดได้ เขาจึงแอบเก็บซ่อนหลักฐานเอาไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว

ในช่วงระหว่างที่เขารับตำแหน่งเป็นผู้ตรวจการกองการค้าทางทะเลที่หลิงโจว เขามักจะไปไหนมาไหนเพียงลำพัง คบค้าสมาคมกับผู้อื่นน้อยครั้งยิ่ง แน่นอนว่าในอาณาเขตของสกุลซู่เช่นนี้ย่อมไม่มีผู้ใดกล้าผูกมิตรกับเขาเช่นกัน

องครักษ์ลับแฝงตัวเข้ามาสืบสวนอยู่ในหลิงโจวหลายวันก็พบว่าสิ่งเดียวที่เรียกได้ว่าเป็นงานอดิเรกของเขาก็คือการไปฟังดนตรีหาความสำราญที่เรือสำราญหนึ่งร้อยแปดสิบลำบนแม่น้ำหลิงอวี่ เขาแวะไปเยือนหลายร้าน แต่ว่าร้านที่เขาไปบ่อยที่สุดก็คือร้านมู่ชุนซึ่งมีชื่อเสียงทัดเทียมกับร้านเซียนเฉวียน

ทว่าหญิงสาวสองสามนางในร้านมู่ชุนที่โจวเป่าผิงเรียกตัวบ่อยๆ กลับกลายเป็นหลักฐานและสิ่งเสริมความน่าเชื่อถือให้แก่สาเหตุการตายอันเหลวไหลไร้สาระอย่างการเที่ยวหญิงคณิกา เสพสำราญอย่างไม่บันยะบันยังของเขา

จากการตรวจสอบขององครักษ์ลับ กองการค้าทางทะเลคงจะกุมตัวโจวเป่าผิงเอาไว้ทันทีที่รู้ว่าเขาได้หลักฐานมาอยู่ในมือ ไม่รู้ว่าเขาต้องประสบชะตากรรมเช่นไรบ้าง แต่อย่างไรโจวเป่าผิงก็ไม่ยอมปริปาก กองการค้าทางทะเลเห็นว่าล้วงความลับจากปากเขาไม่ได้จึงจัดการกับเขาเสีย หลังจากนั้นสืบสาวไปตามคนที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเขาในยามปกติ จนไปเจอพวกหญิงสาวจากร้านมู่ชุน

หญิงสาวเหล่านั้นไม่รู้เรื่องรู้ราวอันใดเลยแม้แต่กระผีกริ้น พวกนางกล่าวว่าปกติใต้เท้าโจวเรียกตัวพวกนางมาก็เพื่อฟังดนตรีบรรเลงคลายเครียดเท่านั้น ไม่เคยเล่าเรื่องของตนเองให้ฟังเลยสักครั้ง

แต่ในฐานะคนที่พบปะกับโจวเป่าผิงค่อนข้างมาก กองการค้าทางทะเลย่อมไม่มีทางปล่อยพวกนางไปง่ายๆ แน่นอน หลังจากทรมานให้รับสารภาพไม่ได้ผลก็สังหารพวกนางทิ้งทันที จากนั้นนำศพไปกองรวมกับโจวเป่าผิง สร้างสถานการณ์ปลอมๆ ว่าเขาเที่ยวหญิงคณิกาจนตายกะทันหัน

พอถึงตรงนี้ก็ไม่มีเบาะแสของหลักฐานที่โจวเป่าผิงเก็บซ่อนเอาไว้อีก องครักษ์ลับสืบเสาะอยู่หลายวันก็ยังไม่พบเงื่อนงำ สกุลซู่เองก็ยังไม่มีความคืบหน้าเช่นเดียวกัน

จนกระทั่งพวกเจียงซวี่เดินทางเข้าสู่หลิงโจว อยู่ๆ ก็มีคนแอบติดต่อองครักษ์ลับอย่างลับๆ บอกว่าใต้เท้าโจวได้มอบของให้ตนเองเก็บรักษาไว้ แต่นางได้รับการไหว้วานจากใต้เท้าโจวว่าจะต้องมอบให้คนที่ฮ่องเต้ส่งมาด้วยมือของตนเองเท่านั้น

คนที่ติดต่อกับองครักษ์ลับอย่างลับๆ ก็คือสาวใช้เล็กๆ ที่ไม่โดดเด่นสะดุดตาในร้านมู่ชุนคนหนึ่ง มีนามว่าชิวเยวี่ย

ในปีที่เกิดปัญหาข้าวของแพงผู้คนอดอยาก โจวเป่าผิงได้เมตตาช่วยชีวิตนางเอาไว้ นางจึงทำงานให้โจวเป่าผิงด้วยความจงรักภักดีมาตลอด

สามเดือนก่อนหน้าที่โจวเป่าผิงจะถูกโยกย้ายไปรับตำแหน่งที่กองการค้าทางทะเลในผิงโจว นางก็ได้เดินทางมาที่หลิงโจวเพียงลำพัง หางานเป็นสาวใช้คอยหุงหาอาหารอยู่ที่ร้านมู่ชุนเป็นการล่วงหน้า

ชิวเยวี่ยมีใบหน้าธรรมดาไม่มีความน่าสนใจ เห็นผ่านตาก็สามารถลืมเลือนได้ทันที ปกตินางเอาแต่ตั้งอกตั้งใจทำงานไม่พูดไม่หือไม่อือ ไร้ตัวตนเป็นที่สุด

ยามโจวเป่าผิงมาที่ร้านมู่ชุนเพื่อเรียกหญิงคณิกาเข้าไปขับร้องบรรเลงเพลง ชิวเยวี่ยก็ได้ปรนนิบัติยกน้ำชาเข้าไปในห้องหลายครั้ง แต่เพราะนางไร้ตัวตนมากเกินไป ไม่ว่าสกุลซู่หรือองครักษ์ลับ ตอนสืบเรื่องราวต่างก็มองข้ามนางไปทั้งสิ้น

แต่เพราะเกิดเรื่องโจวเป่าผิงขึ้น สูญเสียหญิงคณิกาดาวเด่นไปหลายคนติดๆ กันรวดเดียว กอปรกับกองการค้าทางทะเลมักจะมาสืบหาตัวคนแทบไม่เว้นแต่ละวัน ระยะนี้กิจการของร้านมู่ชุนจึงย่ำแย่ยิ่ง ทำให้ต้องส่งตัวสาวใช้กลุ่มใหญ่ซึ่งชิวเยวี่ยก็รวมอยู่ในนั้นด้วยออกไป

ชิวเยวี่ยจดจำคำสั่งเสียของผู้เป็นนายเอาไว้ในใจเสมอมา ต้องรอจนกว่าที่คนของฮ่องเต้ส่งมาปรากฏตัวขึ้นถึงจะมอบหลักฐานให้ได้ เพื่อป้องกันมิให้ถูกใครสังเกตเห็นว่านางมีพฤติกรรมน่าสงสัย นางจึงมิได้เคลื่อนไหวบุ่มบ่าม แต่กลับหางานทำในร้านเซียนเฉวียนเหมือนกับสาวใช้ส่วนใหญ่คนอื่นๆ

วันนี้เจียงซวี่ตอบรับคำเชิญไปยังร้านเซียนเฉวียนก็เพื่อไปพบแม่นางชิวเยวี่ยผู้นี้ด้วยตนเอง

แต่ว่าคงเป็นเพราะการที่ชิวเยวี่ยเป็นฝ่ายติดต่อองครักษ์ลับก่อนในคราวนี้เผยพิรุธออกไป คืนนี้หลังจากเจียงซวี่เข้ามาในร้านเซียนเฉวียนแล้ว เขายังไม่ทันได้พบหน้านาง สกุลซู่ก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติเสียก่อน จึงส่งคนมาหมายจะจับตัวนางไป

ทว่าบนเรือมีองครักษ์ลับอยู่ไม่น้อย ผู้มาเยือนจับตัวชิวเยวี่ยไปแต่กลับไม่สามารถพานางออกไปได้อย่างราบรื่น ด้วยอารามรีบร้อนจึงจับนางโยนลงในห้องเครื่อง หลังจากนั้นก็ราดน้ำมันจุดไฟเผาบริเวณโดยรอบ

ฤดูนี้อากาศแห้งติดไฟง่าย กอปรกับลมบนผิวแม่น้ำพัดพาให้เพลิงลุกลามกระจายไปได้ง่ายดายที่สุด บีบให้พวกเจียงซวี่ต้องหนีออกมาจากเรือสำราญก่อนชั่วคราว

ผู้มาเยือนคงคิดว่าถ้าหากเพลิงมอดดับแล้วชิวเยวี่ยยังไม่ถูกไฟคลอกตาย พวกเขาค่อยมาจับตัวไปอีกครั้งก็จะเป็นการดีที่สุด แต่หากคนตายไปแล้ว เกรงว่าพวกเจียงซวี่เองก็คงยากจะหาหลักฐานเจอเช่นกัน

การกระทำเช่นนี้ประสบผลสำเร็จจริงๆ พอร้านเซียนเฉวียนเกิดเพลิงไหม้ขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เจียงซวี่กับซูจิ่งหรานก็ไม่มีหนทางอื่น จำเป็นต้องล่าถอยกลับมาก่อนชั่วคราว

องครักษ์ได้จับตัวผู้มาเยือนเอาไว้ในขณะที่เขาคิดจะฉวยจังหวะโกลาหลวุ่นวายหนีออกจากเรือสำราญไป แต่ว่าผู้มาเยือนล้วนเป็นหน่วยพลีชีพ เจียงซวี่ยังไม่ทันได้ซักไซ้ไล่ถามคนพวกนั้นก็กัดยาพิษฆ่าตัวตายไปเสียก่อน สิ่งเดียวที่สามารถมั่นใจได้ในตอนนั้นก็คือ พวกเขายังไม่ทันได้พาตัวชิวเยวี่ยไปด้วย

เมื่อเห็นว่าเพลิงบนเรือมอดดับสนิทแล้วแต่ก็ยังหาตัวชิวเยวี่ยไม่พบ ทีแรกเจียงซวี่ก็ไม่คิดจะรั้งตัวอยู่อีกต่อไป แต่นึกไม่ถึงว่ากลับเกิดเรื่องหมิงถานแทรกขึ้นมา…ชายาตัวน้อยของเขาถึงกับขึ้นไปบนเรือสำราญด้วยตนเองเพื่อจะไปช่วยเหลือเขา

จริงๆ แล้วในยามที่เกิดเพลิงไหม้ ในสมองของเขาก็มีเสี้ยวพริบตาหนึ่งที่คิดว่าละครกลางแม่น้ำของหลิงโจวเป็นที่เลื่องชื่อยิ่ง คืนนี้ฮูหยินท่านเจ้าเมืองอาจจะเชิญพระชายาของเขาไปร่วมรับชม เช่นนั้นนางอาจจะเห็นก็ได้ว่ามีเพลิงไหม้บนเรือสำราญที่อยู่ห่างไกลออกไป

แต่ว่าเขาก็คิดเช่นนี้เพียงแค่เสี้ยวพริบตาเดียวเท่านั้น เห็นแล้วอย่างไรเล่า รู้แล้วอย่างไรเล่า แต่ไรมานางก็ฉลาดเฉลียวมีไหวพริบอยู่ไม่น้อย คงไม่ถึงขั้นคิดว่าเขาจะตกที่นั่งลำบากเพราะเรื่องแค่นี้

ดังนั้นตอนเขาได้ยินองครักษ์ลับมารายงานว่าพระชายาขึ้นไปบนเรือสำราญเพื่อไปช่วยเขา เขาจึงตกตะลึงอึ้งงันไปชั่วขณะ หลังจากได้สติกลับคืนมา เสี้ยวพริบตาหนึ่งเขารู้สึกว่าช่างเหลวไหลไร้สาระ อีกเสี้ยวพริบตาก็มีความตื้นตันใจอย่างยากจะพรรณนาออกมาเป็นถ้อยคำได้

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 20 เม.. 66 เวลา 12.00 .

3 of 3หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in กระวานน้อยแรกรัก

  • กระวานน้อยแรกรัก

    ทดลองอ่าน กระวานน้อยแรกรัก บทที่ 18

    By

    บทที่ 18   เจียงซวี่วางพัดลงอย่างไม่แสดงสีหน้าใดๆ หมิงถานมองพัดกลมแวบหนึ่งอย่างนิ่งอึ้ง ทันใดนั้นก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมา นางลุกขึ้นม...

  • กระวานน้อยแรกรัก

    ทดลองอ่าน กระวานน้อยแรกรัก บทที่ 17

    By

    บทที่ 17 คนที่หอฮุยโหลวนั่งชมการแสดงร้องรำจบไปหนึ่งชุด ผ่านไปพักใหญ่ก็มีคนเข้ามารายงานอวี้ป๋อจงว่าหญิงสาวเหล่านั้นได้ถูกส่งเข้าจวนอย่างราบรื...

  • กระวานน้อยแรกรัก

    ทดลองอ่าน กระวานน้อยแรกรัก บทที่ 16

    By

    บทที่ 16   อวี้ป๋อจงได้แต่ฉงนมึนงงตลอดการสนทนา เขาไม่คาดคิดเลยว่าตนเองอุตส่าห์ประดิดประดอยคำพูดมาตลอดทั้งคืนอย่างยากลำบาก แต่วันนี้ติ้ง...

  • กระวานน้อยแรกรัก

    ทดลองอ่าน กระวานน้อยแรกรัก บทที่ 15

    By

    บทที่ 15   หมิงถานรู้สึกว่าตนเองเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเหลือเกินราวกับนอนหลับไปนานแสนนาน เมื่อนางค่อยๆ ลืมตาขึ้นก็เห็นเพียงนอกห้องที่มืดส...

  • กระวานน้อยแรกรัก

    ทดลองอ่าน กระวานน้อยแรกรัก บทที่ 13

    By

    บทที่ 13   ที่ว่าการเมืองของเจ้าเมืองอยู่ใกล้กับแม่น้ำหลิงอวี่ซึ่งเป็นสถานที่ชมละครมาก ระหว่างทางฮูหยินท่านเจ้าเมืองยังเล่าที่มาที่ไปขอ...

  • กระวานน้อยแรกรัก

    ทดลองอ่าน กระวานน้อยแรกรัก บทที่ 12

    By

    บทที่ 12 หลังออกเดินทางจากผางซาน รถม้าก็แล่นไปอย่างไม่เร่งรีบแต่ก็ไม่เชื่องช้าเป็นเวลาสิบวัน ในที่สุดก็เดินทางมาถึงหลิงโจว แต่ก่อนหมิงถานไม่...

  • กระวานน้อยแรกรัก

    ทดลองอ่าน กระวานน้อยแรกรัก บทที่ 11

    By

    บทที่ 11 เมื่อกลับมาถึงที่ว่าการอำเภอ ฝ่ายห้องครัวก็กำลังตระเตรียมอาหารกลางวัน อวิ๋นอี่จึงใช้จังหวะนี้ไปจัดเก็บสัมภาระ หมิงถานสังเกตเห็นว่าแ...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com