กระวานน้อยแรกรัก
ทดลองอ่าน กระวานน้อยแรกรัก บทที่ 17
บทที่ 17
คนที่หอฮุยโหลวนั่งชมการแสดงร้องรำจบไปหนึ่งชุด ผ่านไปพักใหญ่ก็มีคนเข้ามารายงานอวี้ป๋อจงว่าหญิงสาวเหล่านั้นได้ถูกส่งเข้าจวนอย่างราบรื่นแล้ว
อวี้ป๋อจงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เขาวางจอกสุราลง เลือกสรรคำพูดที่เหมาะสมแล้วเอ่ยวาจาว่า “ท่านอ๋อง แม่นางชิงอวี่ปรนนิบัติท่านได้ถูกใจหรือไม่ขอรับ”
ถึงแม้ตั้งแต่ต้นจนจบติ้งเป่ยอ๋องผู้นี้จะกินหน่อไม้เขียวไปเพียงแค่ชิ้นเดียวแล้วก็มิได้มองนางตรงๆ อีกเลย แต่ความคิดในใจของบุรุษด้วยกันเองนั้นเขามีหรือจะไม่เข้าใจ ในเมื่อไม่ปฏิเสธ เช่นนั้นก็หมายความว่ายอมรับแล้ว
เขากล่าวยิ้มๆ “ท่านอ๋องเดินทางออกมาข้างนอก ข้างกายก็ต้องมีคนที่เข้าอกเข้าใจเอาใจใส่ไว้คอยปรนนิบัติบ้าง พวกสาวใช้ผู้ติดตามพรรค์นั้นเงอะงะงุ่มง่าม ไหนเลยจะเทียบกับความนุ่มนวลละเอียดอ่อนของเหล่าสาวงามได้ เพียงแต่ผู้น้อยคิดว่าหากมีแค่แม่นางชิงอวี่คนเดียว ถ้านางยุ่งขึ้นมาก็อาจจะทำผิดพลาดบกพร่องได้ ดังนั้นจึงส่งพวกหญิงสาวก่อนหน้านี้ไปให้ที่จวนล่วงหน้าแล้วขอรับ”
อวี้ป๋อจงรู้สึกภาคภูมิใจกับการตระเตรียมวางแผนอย่างเอาใจใส่นี้อยู่ไม่น้อย ซ้ำยังรีบเอ่ยโยงไปถึงเรื่องจังกอบการค้าทางทะเลอย่างอดรนทนรอไม่ไหว “…แต่ว่าเรื่องการจ่ายจังกอบการค้าทางทะเลย้อนหลังที่ท่านอ๋องบอกไว้ก่อนหน้านี้ พูดกันตามความจริง ช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ในทะเลมีคลื่นลมมาก กองเรือได้รับความเสียหายรุนแรง บัดนี้กองการค้าทางทะเลแค่ดึงสาบเสื้อก็เห็นไปถึงข้อศอก* แล้วขอรับ เรื่องจ่ายจังกอบย้อนหลังสองปีนี้จะขอ…”
เจียงซวี่ตัดบทขึ้นมาอย่างกะทันหัน “เจ้าส่งคนไปในที่ว่าการเมือง?”
น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบขึ้นมาทันใด ชิงอวี่ที่กำลังคิดจะรินสุราให้เขาสะดุ้งเฮือกไปเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่ หยาดสุราหยดกระเซ็นลงบนถุงหอมของเขา
นางตื่นตระหนกไปเล็กน้อย คิดอยากจะหยิบผ้าเช็ดหน้าไปเช็ดให้ด้วยสัญชาตญาณทันที แต่เจียงซวี่กลับรีบชิงกดถุงหอมเอาไว้ก่อน “อย่าแตะ”
เขาลุกพรวดขึ้นอย่างไม่สนใจใคร ปัดหยดสุราที่สาดกระเซ็นลงบนถุงหอมออก ยามนี้เองถึงได้สังเกตเห็นลวดลายเย็บปักอันวิจิตรบรรจงที่อยู่ด้านบน
ชิงอวี่ “ท่านอ๋อง…”
“ถอยไป”
เจียงซวี่ไม่หันไปมองนางแม้แต่เศษเสี้ยวสายตา เขาเอามือไพล่หลังหมายจะลุกออกจากที่นั่ง ซูจิ่งหรานเองก็ลุกตามขึ้นมาเช่นเดียวกัน
อวี้ป๋อจงงุนงงอึ้งงันไป ไม่รู้เหมือนกันว่าอยู่ดีๆ เกิดอันใดขึ้น
“ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง ผู้น้อย…”
เจียงซวี่หยุดฝีเท้าลงเล็กน้อย “ใต้เท้าอวี้ทุ่มเงินก้อนโตหาหญิงงามมาได้มากมายเพียงนี้ ดูท่าถุงเงินของกองการค้าทางทะเลคงจะตุงน่าดู จ่ายจังกอบการค้าทางทะเลย้อนหลังสองปีคงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอันใด ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ขอให้ใต้เท้าอวี้จ่ายดอกเบี้ยในอัตราสองส่วนตามราคาตลาดพร้อมกันในทีเดียว เติมท้องพระคลังให้มั่งคั่ง และยังถือเป็นการสร้างความสุขให้แก่ราษฎรชาวแคว้นต้าเสี่ยนด้วยเช่นกัน”
อวี้ป๋อจง “…”
ติ้งเป่ยอ๋องผู้นี้เปลี่ยนสีหน้าปุบปับกะทันหันเหลือเกิน อวี้ป๋อจงได้แต่นิ่งชะงักอยู่ที่เดิม เรียกสติกลับคืนมาไม่ได้อยู่พักหนึ่ง
กลับเป็นแม่นางชิงอวี่ผู้นั้นที่ได้สติขึ้นมาก่อน รีบร้องเรียกว่า “ท่านอ๋อง” จากนั้นก็อดไม่ไหวไล่ตามออกไป
ชิงอวี่เป็นหญิงสาวที่โดดเด่นสะดุดตาที่สุดในหอฮุยโหลว มามาผู้สอนวิชาคอยอบรมสั่งสอนนางอย่างเอาใจใส่มาตั้งแต่เยาว์วัย เดือนหน้าเมื่อถึงเวลาออกเรือนก็จะส่งนางไปยังจวนสกุลซู่
ถึงแม้สกุลซู่จะเป็นผู้ปกครองในอาณาเขตหลิงโจว แต่ก็เห็นคนเป็นของเล่น หนทางในภายภาคหน้าก็มีแต่ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนแห่งนั้น อีกทั้งด้วยอายุอานามของนายท่านรองสกุลซู่ ให้เป็นบิดาของนางก็ยังเหลือแหล่ อนุภรรยาในบ้านมีถึงสิบกว่าคน คนที่ไร้ตำแหน่งไร้ฐานะยิ่งมีมากมายเหลือคณานับ
ที่สำคัญที่สุดคือคุณชายสี่ที่จวนนายท่านรองก็น้ำลายสออยากจะครอบครองนางเช่นกัน ถ้าหากนางเข้าจวนสกุลซู่ไปจริงๆ เส้นทางข้างหน้าที่รอคอยนางอยู่ไม่รู้ว่าจะเป็นชีวิตเช่นไรกันแน่
ทีแรกชิงอวี่ยอมรับในโชคชะตาแล้ว แต่คืนนี้พอได้เจอกับติ้งเป่ยอ๋องผู้นี้นางก็รู้ว่าโอกาสของนางมาถึงแล้ว
องครักษ์ลับเห็นนางไล่ตามออกมาก็ชะงักลังเลไปชั่วอึดใจ ไม่รู้ว่าควรจะเข้าไปขวางดีหรือไม่ เพราะว่าอย่างไรเมื่อครู่ยามนางปรนนิบัติข้างกายนายท่าน นายท่านก็มิได้ปฏิเสธจริงๆ
ทว่าการละล้าละลังเพียงแค่ชั่วอึดใจนี้กลับทำให้ชิงอวี่ไล่ตามเจียงซวี่ทันจนได้ ไม่รู้ว่านางไปเอาความกล้ามาจากที่ใด ถึงได้เดินเข้าไปอ้าแขนทั้งสองข้างขวางทางเดินของเจียงซวี่เอาไว้ทันที
เจียงซวี่ชะงักฝีเท้าลงเล็กน้อย
ชิงอวี่จ้องมองเขาตรงๆ รวบรวมความกล้าเอ่ยถามว่า “ติ้งเป่ยอ๋อง บ่าวขอไปกับท่านได้หรือไม่เจ้าคะ”
ท่านอ๋องผู้นี้อายุยังน้อย รูปโฉมหล่อเหลาสง่างาม ฐานะสูงส่งอำนาจล้นฟ้า อย่าว่าแต่เป็นอนุภรรยาเลย ต่อให้ไม่มีตำแหน่งไม่มีฐานะใดๆ ขอแค่ได้ติดตามอยู่ข้างกายเขา นางก็ถือว่าได้ยกระดับฐานะตนเองแล้ว ต่อไปในภายภาคหน้าย่อมมีอนาคตอันสดใสรออยู่แน่นอน
นางมองถุงหอมปักลายนกยวนยางเล่นน้ำที่อยู่ตรงข้างเอวของเจียงซวี่แวบหนึ่ง จากนั้นพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “บ่าวไม่เรียกร้องอันใดทั้งสิ้น ขอแค่ได้อยู่เคียงข้างท่านอ๋องตลอดไปก็พอเจ้าค่ะ”
ความรู้สึกควรเป็นเช่นไรเมื่ออยู่เบื้องหน้าภาพเหตุการณ์เช่นนี้…ขณะหญิงสาวโฉมสะคราญกำลังคร่ำครวญวิงวอน
กระทั่งซูจิ่งหรานเองก็ยังอดไหวหวั่นมิได้ เขามองไปทางเจียงซวี่แวบหนึ่ง
เห็นได้ชัดว่าแม่นางชิงอวี่ผู้นี้ฉลาดปราดเปรื่องเป็นที่สุด รู้ดีว่าบุรุษอย่างเจียงซวี่คงเคยพบเจอหญิงงามมามากมายนับไม่ถ้วน ข้างกายไม่ขาดแคลนสตรีเลอโฉม ครั้นเห็นว่าความนุ่มนวลอ่อนโยนก่อนหน้านี้ของนางมิอาจสั่นคลอนหัวใจของเขาได้ นางจึงตัดสินใจแสดงความใจกล้าอาจหาญออกมาเพื่อหวังจะให้เขาเห็นความพิเศษในตัวนางเพิ่มขึ้นมาสักสามส่วน
ทว่าเจียงซวี่นั้น…