เขาสบตาฉันแล้วยิ้มเล็กน้อย ฉันจึงพยักหน้ารับ ตลอดเวลาที่เราคุยกัน ฉันมัวแต่สนใจเรื่องราวที่เขาเล่าให้ฟังจนไม่ได้สังเกตเลยว่าเราสองคนอยู่ใกล้ชิดกันมาก แล้วเขาก็ต้องก้มมากระซิบที่ข้างหูฉันตลอดเวลาเพราะเสียงบนเวทีดังกลบเสียงคุยของเราจนหมด เมื่อรู้สึกตัวฉันก็ไม่สามารถถอยหนีไปไหนได้ ผู้คนจำนวนมากเบียดเสียดเข้ามาทุกทิศทุกทางจนเราต้องยืนในพื้นที่แคบๆ ฉันรู้สึกร้อนวูบวาบที่แผ่นหลังเพราะเขายืนซ้อนด้านหลังอยู่ ฉันพยายามยืนบนรองเท้าส้นสูงของตัวเองอย่างมั่นคงเพื่อไม่ให้เซไปชนกับแผงอกของเขา
ในที่สุดการแสดงบนเวทีก็สิ้นสุดลง พิธีกรในงานกล่าวเชิญชวนให้ทุกคนออกมาเต้นรำ แล้วดนตรีก็บรรเลงเพลงจังหวะสนุกสนานขึ้น ผู้คนเริ่มทยอยกันไปที่ฟลอร์เต้นรำ จึงทำให้บริเวณรอบๆ ตัวเรามีผู้คนบางตาลง ฉันค่อยๆ ขยับตัวออกมาจากช่องว่างเล็กๆ ระหว่างโต๊ะกับตัวคุณณัฐได้สำเร็จ ไม่นานเจ๊กี้ก็เดินหาเราจนพบ
“เป็นไง สนุกไหมบัว”
“สนุกค่ะ”
“แล้วคุณณัฐล่ะฮะ”
“สนุกมากครับ คนเยอะอย่างนี้น่าภูมิใจนะครับ”
เจ๊กี้ยิ้มแป้น “ไม่ออกไปเต้นรำกันหน่อยเหรอฮะ”
“ผมว่าจะชวนคุณบัวอยู่เหมือนกัน” คุณณัฐหันมามองหน้าฉันเหมือนจะหาคำตอบ
“เอ่อ…ก็ได้ค่ะ” ฉันไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ
แล้วคุณณัฐก็โค้งศีรษะให้ ฉันจึงถอนสายบัวกลับไปบ้างแล้วเราก็หัวเราะให้กัน เจ๊ก็พลอยหัวเราะไปด้วย คุณณัฐยื่นมือออกมา ฉันจึงวางมือลงบนมือของเขา รู้สึกว่ามือของเขาใหญ่โตและแข็งแรงมาก สัมผัสนี้ทำให้รู้สึกร้อนวูบวาบตั้งแต่ปลายนิ้วจนถึงปลายเท้า เจ๊ขอตัวออกไปหาคู่เต้นของตัวเองบ้าง คุณณัฐดึงมือฉันไปที่ฟลอร์เต้นรำ เมื่อเราก้าวขึ้นไปดนตรีก็จบลงพอดี เราปรบมือให้กับนักดนตรีพร้อมคนอื่นๆ และหัวเราะให้กัน จากนั้นดนตรีท่วงทำนองอ่อนหวานก็ดังขึ้นแทน
ทุกคนหันหน้าเข้าหาคู่ของตัวเองอีกครั้ง บางคนซบลงที่บ่าของคู่เต้นรำ บางคนก็โอบกอดกัน คุณณัฐมองตาฉันแล้วเลิกคิ้วเหมือนจะถามครั้งสุดท้ายว่าจะเปลี่ยนใจหรือไม่ ฉันพยักหน้าให้น้อยๆ แล้วเอามือซ้ายวางไว้บนบ่าของเขา ส่วนกระเป๋าที่ถืออยู่ในมือขวานั้นเขาดึงมันออกไปแล้วเหน็บไว้ในกระเป๋าเสื้อด้านในของสูทแทน แล้วจึงกุมมือขวาของฉันไว้ เอามืออีกข้างโอบฉันไว้อย่างสุภาพ เรารักษาระยะห่างระหว่างกันไว้ได้อย่างดี ฉันได้กลิ่นอาฟเตอร์เชฟของเขาแล้วจินตนาการก็เตลิดเปิดเปิงไปในทันที ฉันอยากรู้ว่ากล้ามเนื้ออกและหัวไหล่ที่อยู่ใต้เนื้อผ้านี้จะแข็งแรงและสวยงามเพียงใด ตลอดเวลาที่ล่วงเกินคุณณัฐทางความคิดอยู่นั้นฉันไม่กล้าสบตาเขาเลย เพราะกลัวถูกจับได้ว่าฉันประทุษร้ายเขาทางความคิดอยู่ แม้คืนนี้ฉันจะใส่รองเท้าส้นสูง แต่เมื่อยืนเทียบกับเขาแล้วสายตาของฉันก็อยู่แค่ระดับไหล่ของเขาเท่านั้น
“ผมเต้นรำเก่งไหมครับ” เขาทำลายความเงียบระหว่างเรา
“เก่งค่ะ อย่างน้อยคุณก็ยังไม่ได้เหยียบเท้าดิฉัน” ฉันเงยหน้าคุยกับเขาครั้งแรกตั้งแต่เราเริ่มเต้นรำกัน
“นั่นถือว่าเป็นคำชมสำหรับผม” เขาหัวเราะเบาๆ “คืนนี้คุณชลธรไม่มาหรือครับ”
“ไม่มาค่ะ ฉันมาในฐานะที่เป็นเพื่อนกับพี่กี้ค่ะ ไม่ได้มาในนามบริษัท” สงสัยจัง ทำไมคุณณัฐจึงถามถึงยายน้ำนะ “คุณณัฐจะฝากความคิดถึงไปถึงน้ำรึเปล่าคะ เดี๋ยววันจันทร์บัวจะบอกให้” ฉันรู้สึกว่าหางเสียงตัวเองสะบัดนิดหน่อย