ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 1 – หน้า 8 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 1

ฝ่ายตรงข้ามตวาดลั่น “โง่เง่า! หวนเจ๋อเป็นแค่เด็กไร้ความรู้คนหนึ่ง มีคุณสมบัติให้ได้รับการยกย่องเพียงนั้นเสียที่ใด ก็แค่อาศัยชื่อเสียงสำนักกุ่ยกู่เที่ยวทำตัวสูงส่งหลอกใครต่อใครไปทั่วเท่านั้น!”

ปกติเวลาเซินซีโมโห เผยยวนจะรีบก้มหน้าสงบปากสงบคำ แต่ไม่รู้วันนี้เขาไปรวบรวมความกล้าจากที่ใด จึงได้ลุกพรวดขึ้นยืนแล้วถลึงตาใส่ “บัณฑิตอย่างเราๆ ถือมารยาทเป็นสำคัญ เจ้ายังไม่ทันได้พบผู้ทรงภูมิหวนเจ๋อก็ว่าร้ายเสียเพียงนี้ จะมีอะไรได้เล่า นอกเสียจากกลัวนางจะมาเด่นกว่าตนเอง!”

นี่เป็นครั้งแรกที่เผยยวนตอบโต้เซินซี เขาโมโหจนใบหน้าเขียวคล้ำพลางกัดฟันกรอด “บัณฑิตสำนักข่งจื่อหัวโบราณเช่นเจ้าทุกคน! บัณฑิตสำนักนิติธรรมอย่างข้าชิงชังพวกชอบทำตัวเลิศหรูให้คนเยินยอเช่นนี้ที่สุด นี่เจ้ายังจะไปเข้าพวกกับคนพรรค์นั้น? ข้ารู้สึกเหยียดหยามเจ้าเหลือเกิน!”

เผยยวนเบะปาก สองแก้มป่องด้วยโทสะ ทันใดนั้นเขาก็จับคอเสื้ออีกฝ่ายลากออกไปนอกเรือน

เซินซีตกใจอย่างมาก เขาเซไปตามแรงกระชาก ก่อนจะโดนเหวี่ยงออกไปล้มก้นจ้ำเบ้าอยู่หน้าเรือนจนมือเปื้อนดินเต็มไปหมด พอหันไปมองก็เห็นเผยยวนเกาะขอบประตูพูดเสียงดังลั่น “เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันแล้ว จำเอาไว้ว่าทีหลังหากยังว่าร้ายผู้ทรงภูมิหวนเจ๋ออีก ข้าไม่ละเว้นเจ้าแน่!” พูดจบก็กระแทกประตูปิดดังปัง

เซินซีอ้าปากกว้าง เจ้านี่เพี้ยนไปแล้วหรือไร

 

อี้เจียงเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้กำลังจะกินอาหารเย็น

จานหนึ่งเป็นเนื้อแพะต้มที่ใส่มาทั้งชิ้นโดยไม่ได้หั่น จานหนึ่งเป็นแป้งแผ่นกลมที่ผิวเป็นสีเหลืองแก่ จานหนึ่งเป็นปลา ดูแล้วไม่มีอะไรผิดปกติ นอกจากนั้นยังมีข้าวคลุกข้าวโพดอีกหนึ่งถ้วย แม้หน้าตาจะธรรมดาๆ แต่กลิ่นก็หอมฉุย

ธรรมเนียมของที่นี่ต้องแยกกันกิน ดังนั้นจึงมีอาหารสองชุดสำหรับตันคุยและอี้เจียงคนละชุด

ความจริงอี้เจียงค่อนข้างตื่นเต้นดีใจทีเดียว เพราะตอนอยู่ในเรือนชิงเฟิง พวกนางได้กินอาหารสองมื้อต่อวันเท่านั้น นางมักจะกินไม่อิ่มแต่ก็ไม่กล้าพูด พอเข้ามาอยู่ในจวนฉางอันจวินถึงได้กินวันละสามมื้อเหมือนเมื่อก่อน

ดูจากจุดนี้ การเป็นเหมินเค่อก็มีข้อดีอยู่เช่นกัน อย่างน้อยก็ได้กินอิ่ม

ตันคุยก้มหน้าก้มตากินโดยไม่พูดไม่จา เพียงครู่เดียวก็จัดการอาหารส่วนของตนจนเกลี้ยง เมื่อเช็ดปากเสร็จเรียบร้อยก็พูดกับอี้เจียงว่า “แม่นางค่อยๆ กินนะขอรับ ข้าจะออกไปข้างนอกสักครู่”

อี้เจียงพยักหน้า มองตามเขาเดินออกไปพ้นเรือนจึงค่อยลุกขึ้นมา หาม้วนหนังสือไม้ไผ่ที่ยังไม่ได้เขียนจากในห้อง ตั้งใจว่าจะจดบันทึกสิ่งที่ประสบพบเจอในวันนี้

น่าเสียดายที่ลายมือพู่กันของนางน่าเกลียดยิ่งนัก อีกอย่างม้วนหนังสือไม้ไผ่ก็มีพื้นที่จำกัด นางจึงต้องงัดความสามารถในการย่อประโยคมาใช้ แล้วปิดท้ายด้วยการเขียนสรุปว่า

 

‘ฉางอันจวินเป็นหนุ่มวัยรุ่นตอนปลายนิสัยจูนิเบียว เจ้าคิดเจ้าแค้น ทั้งยังมีรสนิยมชอบแต่งหญิง’

 

ไม่รู้ว่าตอนนี้คือวันเดือนปีอะไร นางจึงเขียนลงไปว่าวันที่แปดสิบสี่

เขียนเสร็จก็รู้สึกโล่งขึ้นมาก อี้เจียงเอาม้วนหนังสือไม้ไผ่ไปซ่อนแล้วกลับมานั่งกินข้าวต่อ

สักพักตันคุยก็เดินกลับเข้ามาในเรือน ระหว่างที่อี้เจียงจัดการกับเนื้อแพะทั้งชิ้น ก็ได้ยินเขาพูดขึ้นว่า “เรียนแม่นาง มีจดหมายถึงท่าน”

ความอยากอาหารของอี้เจียงหายไปกว่าครึ่ง นางเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย “ผิงหยวนจวินส่งมาหรือ”

ตันคุยสั่นหัว สีหน้าดูประหลาดชอบกลขณะยื่นจดหมายมาให้

อี้เจียงรับมาดู บนซองไม่ได้เขียนอะไรทั้งสิ้น แต่มีต้นหญ้าสีม่วงใบเรียวเล็กสามใบติดอยู่ นางพลิกกลับไปกลับมาอยู่สองรอบ ก่อนเงยหน้าขึ้นถามตันคุย “แน่ใจหรือว่าส่งมาให้ข้า?”

ตันคุยกำลังจะตอบ เสียงของใครบางคนก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน “ยามคนสำนักกุ่ยกู่ส่งจดหมายถึงกันจะใช้ต้นหญ้าสีม่วงใบเรียวเล็กเป็นสัญลักษณ์ ดังนั้นผู้รับย่อมต้องเป็นผู้ทรงภูมิอยู่แล้ว”

อี้เจียงหันไปมอง ชายหนุ่มคนหนึ่งเกาะอยู่นอกหน้าต่าง กำลังจ้องนางเขม็ง พอทั้งคู่ประสานสายตากัน เขาก็สูดหายใจเฮือกแล้วหันหลังก้าวเร็วๆ

ตันคุยตามออกไปอย่างรวดเร็วพลางตวาด “โจรถ่อยจากที่ใดกัน!”

ชายหนุ่มที่วิ่งออกไปไกลแล้วพลันลดฝีเท้าลง จากนั้นก็วิ่งกลับมา โต้ตอบตันคุยด้วยใบหน้าที่แดงก่ำจากโทสะ “คะ…ใครบอกว่าข้าเป็นโจร! ข้าเป็นเหมินเค่อในจวนฉางอันจวินต่างหาก!”

ตันคุยชะงัก อี้เจียงเดินออกมาตรงหน้าประตู แสงไฟตรงเฉลียงทางเดินสว่างไม่พอ จึงเห็นแค่ชุดสีเขียวอมเทาครึ่งหนึ่งกับแก้มป่องข้างหนึ่งซึ่งแสดงถึงความโกรธของอีกฝ่าย

“ในเมื่อเป็นเหมินเค่อ เหตุใดถึงต้องทำตัวลับๆ ล่อๆ ด้วย”

พอได้ยินเสียงอี้เจียง เด็กหนุ่มก็เบนสายตามาที่นางทันทีแล้วทำท่าตื่นเต้น “อ๊าก!…ผู้ทรงภูมิหวนเจ๋อพูดกับผู้น้อยแล้ว!”

“…” นางงงเป็นไก่ตาแตก

ดูเหมือนฝ่ายตรงข้ามจะรู้ตัวว่าเสียกิริยาจึงทำท่าเขินๆ จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เดินเข้ามาสองก้าวแล้วโค้งคำนับนาง “ผู้น้อยเผยยวน ชื่นชมผู้ทรงภูมิมานานแล้ว วันนี้ได้มีวาสนาเจอตัวเสียที ไม่คิดเลยว่าผู้ทรงภูมิจะอายุน้อยเพียงนี้”

คราวนี้อี้เจียงเข้าใจแล้ว ที่แท้ก็ผู้ชื่นชมนี่เอง

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

  • กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

    ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 5

    By

    บทที่ 5 มนุษย์เราคุ้นเคยกับสิ่งที่อยู่ในขอบเขตการรับรู้ของตน น้อยนักที่จะออกไปสำรวจสิ่งที่ไม่รู้จัก นี่เป็นข้อเสียที่มนุษย์เรามีกันทุกคน ที่...

  • กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

    ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 4

    By

    บทที่ 4 อี้เจียงเพิ่งรู้ว่าที่แท้เขาอยู่ห่างจากตนเองแค่ชั่วผนังกั้น นางถามขึ้นอย่างระมัดระวัง “ศิษย์พี่ไม่เป็นไรใช่หรือไม่” ฝ่ายตรงข้ามส่ายห...

  • กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

    ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 3

    By

    บทที่ 3 โรงเตี๊ยมพลันสับสนวุ่นวายขึ้นมา องครักษ์แคว้นฉียืนเรียงเป็นสองแถว สาวใช้รูปร่างหน้าตางดงามยืนประจำที่ นี่สิถึงจะเรียกได้ว่าต้อนรับขั...

  • กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

    ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 2

    By

    บทที่ 2 เดือนสี่ดำเนินมาถึงช่วงปลาย แสงแดดแรงขึ้นทุกที แม้แต่ลมยังเจือไอร้อน สีสันดอกไม้ใบหญ้าด้านหลังจวนฉางอันจวินก็สดใสขึ้นเป็นลำดับ ต้นไม...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com