ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 2 – หน้า 8 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 2

ภายในตำหนักประดับประดาด้วยเครื่องสำริด แขวนม่านยาวจรดพื้น พระพันปีจ้าวนอนอยู่บนเตียง สวมเสื้อคลุมยาวสีดำดูสุขุมสง่างาม ทว่าถูกควันกำยานที่ลอยเป็นสายบดบังจนเห็นหน้าไม่ชัด

ช่วงที่ผ่านมาอี้เจียงได้พูดคุยเรื่องหลักมารยาทของสำนักข่งจื่อกับเผยยวน ได้เรียนรู้อะไรมามากมาย การแสดงความเคารพจึงไม่เป็นปัญหา แต่จ้าวจ้งเจียวไม่ให้โอกาสนางได้คำนับด้วยซ้ำ พอเขาเข้ามาในห้องก็ปรี่เข้าไปคุกเข่าตรงหน้าเตียงพระพันปีทันที

“เสด็จแม่ดีที่สุดเลย ไม่ทรงส่งลูกไปเป็นตัวประกันที่แคว้นฉีจริงๆ”

เสียงของพระพันปีจ้าวแผ่วเบาและเนิบช้า “แต่หากเป็นเช่นนี้ก็ช่วยแคว้นจ้าวไม่ได้”

จ้าวจ้งเจียวรีบกุมมือพระพันปีจ้าวไว้ “เสด็จแม่ตรัสอะไรเช่นนั้น พี่หญิงทรงเป็นถึงมเหสีแคว้นเยียน เหตุใดไม่ทรงขอความช่วยเหลือจากแคว้นเยียนเล่า แคว้นเยียนไม่มีทางเรียกร้องให้ลูกไปเป็นตัวประกันหรอก ไยต้องยอมก้มหัวให้แคว้นฉีกัน”

พระพันปีส่ายหน้า “พี่สาวเจ้าเป็นมเหสีแคว้นเยียน แต่คนที่มีอำนาจตัดสินใจในแคว้นเยียนไม่ใช่พี่สาวเจ้า เยียนหวังไม่อยากช่วย พันธมิตรที่แคว้นจ้าวเหลืออยู่ก็มีแต่แคว้นฉีเท่านั้น ถึงข้าจะปฏิเสธชู่หลงไปแล้ว แต่ก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี”

จ้าวจ้งเจียวเม้มปากแน่น ค่อยๆ ก้มหน้าลงซบตักมารดาราวกับเป็นลูกแกะแสนเชื่อง “เสด็จแม่จะทรงส่งลูกไปจริงๆ หรือ”

“ลูกแม่…” พระพันปีชันตัวขึ้นเล็กน้อย แล้วชะโงกตัวออกมา เผยให้เห็นใบหน้าที่ไร้เครื่องประทินโฉม

พระพันปียังสาวอยู่มาก ดูน่าจะอายุแค่สามสิบกว่าเท่านั้น ใบหน้าหมดจดงดงาม แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสามีเพิ่งตายจากไปหรือไม่ ถึงได้ดูซีดเซียวเปราะบางเหลือเกิน นางหลุบตามองกระหม่อมบุตรชายพลางตบไหล่เขาเบาๆ แม้น้ำเสียงจะเศร้าสร้อย ทว่าท่าทางแน่วแน่มั่นคง ไม่สะท้อนความรู้สึกในใจให้เห็น

อี้เจียงกำลังมองนางเพลินๆ ในฐานะบุคคลในประวัติศาสตร์ แต่อยู่ๆ อีกฝ่ายก็เหลือบตาขึ้นมา ทำให้ประสานสายตากันตรงๆ นางเลยนึกขึ้นมาได้ว่าตามกฎห้ามมองตามใจชอบ จึงรีบก้มหน้าอย่างรวดเร็ว

“ท่านนี้คงจะเป็นผู้ทรงภูมิหวนเจ๋อที่อยู่ในจวนเจ้ากระมัง”

จ้าวจ้งเจียวตอบว่า “อืม” อย่างใจลอย ไม่หันมามองนางด้วยซ้ำ

พระพันปีตบหลังบุตรชายให้ลุกขึ้น “เจ้าออกไปก่อน ข้ามีเรื่องอยากคุยกับผู้ทรงภูมิหวนเจ๋อตามลำพัง”

เด็กหนุ่มลุกขึ้นอย่างไม่เต็มใจ ตอนที่หมุนตัวเดินผ่านอี้เจียงยังเหลือบมองนางด้วยสายตาคมกริบทีหนึ่ง

แน่นอนว่าอี้เจียงเข้าใจดีว่าเขาขู่ให้นางช่วยพูดแทน มิเช่นนั้นคงไม่พานางมาด้วย

พระพันปีสั่งให้คนม้วนม่านขึ้นไป แล้วกวักมือเรียกอี้เจียง “เชิญผู้ทรงภูมิเข้ามาคุยกันตรงนี้”

อี้เจียงเดินเข้าไปหาช้าๆ

“ผู้ทรงภูมิอ่อนเยาว์กว่าที่ข้าคิดไว้มาก ตอนอายุเท่าเจ้า ข้ายังไม่ได้แต่งงานมาอยู่แคว้นจ้าวด้วยซ้ำ”

อี้เจียงกำลังว้าวุ่นใจ จึงได้แต่ตอบไปว่า “เพคะ”

พระพันปีถอนหายใจ “เจ้าอายุรุ่นราวคราวเดียวกับบุตรชายข้า ผู้ทรงภูมิกุ่ยกู่กลับวางใจปล่อยออกมาเผชิญโลกอันสับสนวุ่นวาย แต่ข้ากลับทำใจส่งบุตรชายไปแคว้นฉีไม่ลง ความคิดอ่านของข้าไม่อาจเทียบกับปราชญ์ได้เลยจริงๆ”

อี้เจียงเอ่ยถามออกไปอย่างอดใจไม่อยู่ “พระพันปีทรงปฏิเสธข้อเสนอแนะของชู่…ท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายจริงๆ หรือเพคะ”

พระพันปีแค่นยิ้มพลางพยักหน้า “สติปัญญาของขุนนางก็เหมือนภาษีของราษฎรนั่นแหละ บางครั้งจำเป็นต้องบังคับกันถึงจะมีให้ แต่ถ้าปีใดผลผลิตไม่ดี รีดเค้นเช่นไรก็ไม่มีจ่าย แคว้นจ้าวเวลานี้อยู่ในวิกฤตเป็นตาย ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าพวกเขาคิดหาทางออกไม่ได้อีกแล้วจริงๆ ข้าก็ยังอยากประวิงเวลาเพื่อบุตรชายตนเอง แต่อันที่จริงข้าได้ตัดสินใจแต่แรกแล้ว”

อี้เจียงไม่คิดเลยว่าคนที่ตัดสินใจส่งฉางอันจวินไปแคว้นฉีจะเป็นตัวพระพันปีเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับชู่หลงเลยสักนิด เรียกว่าเป็นคนละคนกับพระพันปีจ้าวที่หนังสือเรียนเขียนไว้ว่าดีแต่ปกป้องบุตรชายอย่างไม่สนใจเหตุผลใดๆ โดยสิ้นเชิง

พระพันปียิ้มให้อี้เจียงอย่างอ่อนโยน “วันนี้ต่อให้ผู้ทรงภูมิไม่มา ข้าก็ยังจะเชิญเจ้ามาพบกันสักครั้งอยู่ดี ข้ารู้ว่าผู้ทรงภูมิมาจากสำนักกุ่ยกู่ แต่ข้าไม่ได้อยากฟังเจ้าพูดถึงการปกครองแผ่นดิน และไม่ได้อยากให้เจ้าช่วยคิดวิธีรับมือกับแคว้นฉิน ข้าแค่อยากให้ผู้ทรงภูมิตามจ้งเจียวไปแคว้นฉีด้วย”

อี้เจียงผงะ “เกรงว่าหวนเจ๋อจะรับหน้าที่อันใหญ่หลวงนี้ไม่ไหว”

ฝ่ายตรงข้ามยกมือปราม “ผู้ทรงภูมิอย่าได้ถ่อมตัวไปเลย คนทั้งใต้หล้ารู้กันทั่วว่าเจ้ากับกงซีอู๋เป็นศิษย์สำนักเดียวกัน ข้าเคยได้ยินธรรมเนียมสำนักกุ่ยกู่มาบ้าง ได้เจ้าไปอยู่แคว้นฉีเป็นเพื่อนจ้งเจียว ข้าจะได้เบาใจ”

“…” อี้เจียงฉงนงงงวยกับคำพูดของพระพันปี

แต่พระพันปีไม่มีท่าทีว่าจะอธิบาย ราวกับกลัวว่าอี้เจียงจะไม่ยอมไป จึงสัญญาว่าต่อไปจะมอบเงินทองและที่ดินดีๆ ให้ จากนั้นก็เรียกนางกำนัลให้พานางไปส่งที่หน้าตำหนัก โดยไม่รอฟังคำตอบจากนาง

ดังนั้นคำพูดของพระพันปีไม่ใช่คำขอร้อง แต่เป็นคำสั่ง

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

  • กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

    ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 5

    By

    บทที่ 5 มนุษย์เราคุ้นเคยกับสิ่งที่อยู่ในขอบเขตการรับรู้ของตน น้อยนักที่จะออกไปสำรวจสิ่งที่ไม่รู้จัก นี่เป็นข้อเสียที่มนุษย์เรามีกันทุกคน ที่...

  • กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

    ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 4

    By

    บทที่ 4 อี้เจียงเพิ่งรู้ว่าที่แท้เขาอยู่ห่างจากตนเองแค่ชั่วผนังกั้น นางถามขึ้นอย่างระมัดระวัง “ศิษย์พี่ไม่เป็นไรใช่หรือไม่” ฝ่ายตรงข้ามส่ายห...

  • กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

    ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 3

    By

    บทที่ 3 โรงเตี๊ยมพลันสับสนวุ่นวายขึ้นมา องครักษ์แคว้นฉียืนเรียงเป็นสองแถว สาวใช้รูปร่างหน้าตางดงามยืนประจำที่ นี่สิถึงจะเรียกได้ว่าต้อนรับขั...

  • กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

    ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 1

    By

    บทที่ 1 เมืองหานตัน แคว้นจ้าว ผิงหยวนจวิน ในตอนนี้รู้สึกปวดใจยิ่ง เจ้าแคว้นผู้เป็นพี่ชายสิ้นบุญ รัชทายาทที่จะสืบทอดบัลลังก์ต่อไม่ใคร่ชอบหน้า...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com