บทที่ 3
โรงเตี๊ยมพลันสับสนวุ่นวายขึ้นมา องครักษ์แคว้นฉียืนเรียงเป็นสองแถว สาวใช้รูปร่างหน้าตางดงามยืนประจำที่ นี่สิถึงจะเรียกได้ว่าต้อนรับขับสู้ แต่จ้าวจ้งเจียวไม่ซาบซึ้งด้วยสักนิด
เขามองกระบี่ที่ปักอยู่บนพื้นทีหนึ่ง จากนั้นก็ปรายตาไปยังฝักกระบี่ที่ห้อยอยู่ตรงเอวกงซีอู๋ แค่นเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นชา “นี่น่ะหรือธรรมเนียมรับรองแขกของแคว้นฉี”
กงซีอู๋ตอบด้วยสีหน้าและแววตาราบเรียบ “ฉีหวังประชวรหนัก ทั่วทั้งแผ่นดินจะมีการต่อสู้จนเลือดตกยางออกมิได้ ผู้น้อยจำเป็นต้องลงมืออย่างไม่มีทางเลือก”
“เช่นนั้นการที่ท่านมหาอำมาตย์แคว้นฉีให้ข้าเป็นฝ่ายไปพบเขา ก็เป็นธรรมเนียมรับรองแขกเหมือนกันหรือ”
“อันผิงจวินเป็นแม่ทัพ เพิ่งดำรงตำแหน่งมหาอำมาตย์ได้ไม่นาน จึงบกพร่องในเรื่องธรรมเนียมอยู่บ้าง”
จ้าวจ้งเจียวเหยียดมุมปาก “แล้วเหตุใดตัวท่านที่ทำหน้าที่นี้ถึงได้มาช้านัก นี่ก็เป็นธรรมเนียมรับรองแขกหรือ”
กงซีอู๋เหลือบตามองอย่างมีนัยลึกซึ้ง “ฉางอันจวินไม่ใช่แขก”
จ้าวจ้งเจียวเบิกตากว้าง พอจะสาวเท้าออกเดินก็ถูกอะไรรั้งไว้ เขาตวัดกระบี่ฟันชายเสื้อคลุมที่ถูกตรึงไว้กับพื้นด้วยความโมโห
กงซีอู๋เบี่ยงตัวพลางผายมือเชิญราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น “ทางเราเตรียมจวนตัวประกันไว้พร้อมแล้ว เชิญฉางอันจวินเข้าพักได้”
จ้าวจ้งเจียวเก็บกระบี่ ใบหน้าบึ้งตึงขณะมองฝ่ายตรงข้ามด้วยสายตาเย็นชา ทว่าสุดท้ายก็สะบัดแขนเสื้อเดินออกไปอย่างทนไม่ไหว
เมื่อทุกคนออกไปกันหมดแล้ว ตันคุยก็ประคองอี้เจียงขึ้นมาแล้วชักกระบี่ออกจากพื้น ใช้สองมือประคองส่งคืนกงซีอู๋ “คุยดูแลแม่นางได้ไม่ดี รู้สึกผิดต่อบุญคุณอันยิ่งใหญ่ของท่านกุ่ยกู่ยิ่งนัก ผู้ทรงภูมิกงซีโปรดอย่าได้ถือสา”
กงซีอู๋เก็บกระบี่เข้าฝัก “ท่านมีใจผดุงคุณธรรมในแบบจอมยุทธ์ ทำถูกต้องแล้วล่ะ”
ตันคุยทำท่าจะก้มลงคำนับอีกครั้ง แต่ถูกอีกฝ่ายจับข้อมือเอาไว้
อี้เจียงกำลังแอบขยับออกไปยืนให้ไกลๆ ก็ได้ยินเสียงกงซีอู๋พูดกับตนเองเสียก่อน “ไม่ได้พบกันนาน ศิษย์น้องไม่อยากคุยกับข้าหรือ”
นางปัดเศษดินออกจากตัว สูดหายใจลึกๆ พอหันกลับมาสีหน้าก็นิ่งสงบดุจสายน้ำ “พวกเรายังมีอะไรให้คุยกันได้อีกเล่า”
กงซีอู๋กวาดตามองนางอยู่นาน ก่อนจะยิ้มเรียบๆ “นึกว่าในสถานการณ์เช่นนี้ ศิษย์น้องจะมีเรื่องอยากพูดกับข้าเสียอีก”
อี้เจียงมองลายปักงดงามบนชุดที่เขาสวม ไหนจะหยกประดับมีพู่ห้อยตรงเอว พอมองสภาพตนเองแล้วนางก็กระตุกมุมปาก “ศิษย์พี่คิดจะให้ไปพูดกันที่ใด”
กงซีอู๋ล้วงป้ายไม้แผ่นหนึ่งจากในแขนเสื้อส่งให้ “พรุ่งนี้หลังยามอู่ สามเค่อ ข้าจะรอเจ้าที่สำนักศึกษาจี้ซย่า”
อี้เจียงรับป้ายไม้ พอเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็เดินออกไปแล้ว