ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 3 – หน้า 8 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 3

ฤดูร้อนมาเยือนแบบไม่รู้ตัว เรือนของอี้เจียงเล็กมาก เปิดประตูออกไปเดินแค่ไม่กี่ก้าวก็เจอดอกไม้ใบหญ้าขึ้นดารดาษ แสงอาทิตย์เจิดจ้า กลิ่นดอกไม้ตลบอบอวล ทั่วทั้งเรือนมีแต่บรรยากาศอันสดชื่น

อากาศที่หลินจือกำลังดี ตกบ่ายจะมีลมภูเขาพัดมาจากทางทิศเหนือ นางรู้สึกว่าช่วงเวลานี้สบายที่สุด หลายวันที่ผ่านมา พอคล้อยบ่ายทีไร นางจะเอาม้วนหนังสือไม้ไผ่ที่ได้จากกงซีอู๋มานั่งอ่านตรงริมหน้าต่าง

ว่าไปก็แปลก ทั้งที่เป็นความเห็นเกี่ยวกับเรื่องหนักๆ ของแผ่นดิน บางเรื่องก็ลึกซึ้งยากที่จะเข้าใจ แต่บทขยายความที่เขาเขียนไว้มักจะโผล่มาได้ถูกจังหวะเสมอ ทำให้นางอ่านต่อไปได้อย่างราบรื่น อี้เจียงอดคิดไม่ได้ ว่าถ้าให้เขาเป็นอาจารย์คงเป็นทางเลือกที่ดี เพราะเขาเข้าใจว่าผู้เรียนต้องการอะไร

อี้เจียงอดยิ้มไม่ได้เมื่อจินตนาการภาพชายหนุ่มสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสอนหนังสือในยุคปัจจุบัน ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นด้านนอก นางรีบปรับสีหน้าให้เคร่งขรึม เห็นเผยยวนที่สวมเสื้อสีเขียวอ่อนเนื้อบางเดินเข้ามาในเรือน

“ผู้ทรงภูมิพอจะมีเวลาหรือไม่”

อี้เจียงเก็บม้วนหนังสือแล้วนั่งตัวตรง “มี ทำไมหรือ”

ฝ่ายตรงข้ามยิ้มอย่างเกรงใจ “ยวนรู้ว่าระยะนี้ผู้ทรงภูมิไม่อยากพบใคร แต่สหายเก่าคนหนึ่งของยวนอยากเจอท่านมาก ไม่ทราบว่าผู้ทรงภูมิจะให้พบหน่อยได้หรือไม่”

แน่นอนว่าอี้เจียงไม่อยากพบ แต่นานๆ เผยยวนจะขอร้องนางสักที ที่นางนั่งอ่านหนังสืออย่างตอนนี้ได้ก็เพราะเขา ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ลง พยักหน้าเอ่ยว่า “ก็ได้”

เผยยวนเอ่ยขอบคุณแล้วเดินออกไป อี้เจียงรีบลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นก็เก็บของออกจากโต๊ะ ก่อนนั่งตัวตรงอย่างสำรวม

สักพักเผยยวนก็กลับมาอีกครั้ง “เชิญผู้ทรงภูมิคุยกันตามสบาย ยวนไม่รบกวนแล้ว” เขาเบี่ยงตัวให้คนที่อยู่ข้างหลังเดินเข้ามา จากนั้นตนเองก็หมุนตัวเดินออกไป

อี้เจียงมองไปที่ประตูเรือน สิ่งแรกที่ปรากฏสู่สายตาคือชุดสีเขียว เสื้อปลายแขนสอบ เข้ารูปตรงเอว เหมือนชุดชาวหู* ผู้มาใหม่ผิวขาวสะอาด หน้าตาหมดจด รูปร่างผอมบาง ไม่สูง แต่ชุดที่สวมใส่ทำให้ดูทะมัดทะแมงอย่างยิ่ง

“ผู้น้อยเซ่าจิว คารวะผู้ทรงภูมิหวนเจ๋อ”

อี้เจียงฟังเสียงถึงเพิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นสตรี นางทั้งแปลกใจทั้งดีใจ รู้สึกตื่นเต้นเหมือนตนเองถูกจับไปปล่อยเกาะร้าง ท่ามกลางความเวิ้งว้างก็ได้พบพวกเดียวกันอยู่ใกล้ๆ เพราะเจ้าคนชอบแต่งชุดสตรีนั่นแท้ๆ ตอนนี้นางจึงแทบแยกแยะสตรีบุรุษไม่ออกแล้ว

“แม่นางเซ่าจิวมาจากที่ใดหรือ” อี้เจียงรู้สึกว่าคำถามของตนเองฟังดูตีสนิทเกินไปสักหน่อย

อีกฝ่ายนั่งคุกเข่าตรงข้ามอี้เจียง “เซ่าจิวเป็นศิษย์สำนักโม่จื่อ เป็นคนบ้านเดียวกันกับเผยยวน เพิ่งมาจากเมืองต้าเหลียงแคว้นเว่ยเมื่อเดือนก่อน เห็นใครต่อใครพูดกันว่าผู้ทรงภูมิเย่อหยิ่งทะนงตน ไม่ยอมให้ใครเข้าพบ เท่าที่ข้าเห็น ผู้ทรงภูมิก็เป็นกันเองดีนี่”

อี้เจียงหัวเราะแห้งๆ ขณะเลื่อนชาที่อุ่นแล้วไปให้ “แม่นางเซ่าจิวมาหาข้ามีธุระอะไรหรือ”

เซ่าจิวยกชาขึ้นจิบอึกหนึ่ง ก่อนจะขมวดคิ้วพลางแลบลิ้น “ฝีมือต้มชาของผู้ทรงภูมิไม่ได้เรื่องเลย ดีนะข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อดื่มชา”

อี้เจียงไม่โกรธแม้แต่น้อย กลับชอบนิสัยโผงผางปากไวของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ ส่วนใหญ่คนเช่นนี้ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมหรอก

เซ่าจิววางจอกชาลง พอเหลือบตาขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าก็ดูเคร่งเครียดจริงจังขึ้น “วันที่ผู้ทรงภูมิเกลี้ยกล่อมอันผิงจวินที่สำนักศึกษาจี้ซย่า เซ่าจิวก็อยู่ด้วย ที่มาวันนี้ก็มีจุดประสงค์เหมือนบัณฑิตคนอื่น นั่นคือใคร่อยากถามผู้ทรงภูมิว่าไฉนถึงได้มั่นใจว่าแคว้นฉินคิดจะชิงแผ่นดิน ไม่ใช่แค่วางตัวเป็นใหญ่”

ที่แท้คนพวกนั้นมาหาข้าเพราะอยากถามเรื่องนี้เองหรือ อี้เจียงรู้สึกขบขันนิดๆ ขณะย้อนถามไปว่า “แล้วพวกเจ้าไม่ได้คิดเช่นนี้หรือ”

เซ่าจิวตาหงส์ หางตายกเฉียงขึ้นเล็กน้อย ดูซุกซนน่ารักแต่น้ำเสียงกลับเย็นชา “แน่นอนว่าไม่ใช่”

อี้เจียงประหลาดใจ หลังจากใคร่ครวญคำพูดและน้ำเสียงของอีกฝ่ายอยู่สักพักก็เข้าใจแจ่มแจ้ง นางรู้จุดประสงค์ของแคว้นฉินเพราะมองผ่านอดีต แต่คนในยุคนี้เป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินไป จะรู้เจตนาของแคว้นฉินชัดเจนได้อย่างไร แคว้นฉินไม่ได้ประกาศให้คนทั้งใต้หล้ารู้เสียหน่อยว่าข้าจะรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่ง

นางขยุ้มน่องตนเองอย่างแรง คิดน้อยไปจริงๆ มิน่าตอนนั้นเถียนตันถึงได้ดูตกตะลึงนัก จะบอกว่าคำพูดของนางในวันนั้นเปิดโปงความจริงก็ยังได้

อยู่ๆ คนที่นั่งตรงข้ามก็ชะโงกหน้าเข้ามาจ้องอี้เจียงเขม็ง “ผู้ทรงภูมิคิดว่าเหตุใดกงซีอู๋ถึงได้ยอมรับความคิดของท่าน”

“นั่นเพราะ…”

“เพราะเขาก็คิดเช่นนี้เช่นกัน” เซ่าจิวต่อให้เสียเอง ความเหยียดหยามสะท้อนออกมาทางสีหน้า “กงซีอู๋ผู้นี้มองแคว้นฉินเป็นศัตรูตัวฉกาจของแคว้นฉีมาโดยตลอด แต่เป็นการปักใจเชื่อที่ไร้เหตุผลเกินไป”

ต้องเรียกว่ามองการณ์ไกลต่างหากเล่า อี้เจียงเถียงในใจ

เซ่าจิวพูดขึ้นมาอีก “คนผู้นี้เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก ตนเองไม่พูด แต่ยืมปากผู้ทรงภูมิพูด”

ท่าทางนางจะไม่ชอบกงซีอู๋มากทีเดียว อี้เจียงลอบพินิจเงียบๆ

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

  • กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

    ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 5

    By

    บทที่ 5 มนุษย์เราคุ้นเคยกับสิ่งที่อยู่ในขอบเขตการรับรู้ของตน น้อยนักที่จะออกไปสำรวจสิ่งที่ไม่รู้จัก นี่เป็นข้อเสียที่มนุษย์เรามีกันทุกคน ที่...

  • กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

    ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 4

    By

    บทที่ 4 อี้เจียงเพิ่งรู้ว่าที่แท้เขาอยู่ห่างจากตนเองแค่ชั่วผนังกั้น นางถามขึ้นอย่างระมัดระวัง “ศิษย์พี่ไม่เป็นไรใช่หรือไม่” ฝ่ายตรงข้ามส่ายห...

  • กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

    ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 2

    By

    บทที่ 2 เดือนสี่ดำเนินมาถึงช่วงปลาย แสงแดดแรงขึ้นทุกที แม้แต่ลมยังเจือไอร้อน สีสันดอกไม้ใบหญ้าด้านหลังจวนฉางอันจวินก็สดใสขึ้นเป็นลำดับ ต้นไม...

  • กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

    ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 1

    By

    บทที่ 1 เมืองหานตัน แคว้นจ้าว ผิงหยวนจวิน ในตอนนี้รู้สึกปวดใจยิ่ง เจ้าแคว้นผู้เป็นพี่ชายสิ้นบุญ รัชทายาทที่จะสืบทอดบัลลังก์ต่อไม่ใคร่ชอบหน้า...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com