ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 5 – หน้า 11 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 5

11 of 11หน้าถัดไป

จ้าวหวังตันผู้ขยันขันแข็งกำลังอ่านศาสตร์การปกครองอย่างหน้าดำคร่ำเครียด ยังไม่เข้านอน พอได้ยินว่าผู้ทรงภูมิหวนเจ๋อขอพบก็รู้สึกประหลาดใจ รีบเชิญนางเข้ามาในตำหนักทันที

อี้เจียงรู้ว่าจ้าวหวังตันไม่ชอบผิงหยวนจวิน มิเช่นนั้นผิงหยวนจวินคงไม่ส่งนางเข้าไปแฝงตัวอยู่ข้างกายจ้าวจ้งเจียวหรอก

นางคุกเข่าคำนับเขาแบบหน้าผากจรดพื้นภายใต้แสงเทียนวับแวม เตือนความจำเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง ในขณะเดียวกันดูคล้ายไม่มีเจตนา จากนั้นก็บอกอย่างจริงใจ “ต้าหวังกับฉางอันจวินเป็นพี่น้องที่รักกันมาก หวนเจ๋อยินดีไปรับฉางอันจวินที่แคว้นฉี”

จ้าวหวังตันเงียบอยู่นาน นานจนอี้เจียงนึกว่าเขาจะตอบตกลง ปรากฏว่าเขากลับส่ายหน้า “เรื่องนี้เสด็จแม่ทรงตัดสินพระทัยแล้ว หากเปลี่ยนแปลงคงไม่ดี”

อี้เจียงลืมไปว่าเขายังไม่ได้ครองราชย์อย่างเป็นทางการ อำนาจทางการปกครองอยู่ในมือพระพันปี ตัวเขาไม่มีสิทธิ์มีเสียง

เห็นทีครั้งนี้คงเลี่ยงไม่ได้แล้ว…

 

แคว้นเว่ยใกล้นิดเดียว ออกจากหานตันไม่ไกลคือเมืองเยี่ย ถึงเมืองเยี่ยก็เท่ากับเข้าเขตแคว้นเว่ย ทั้งสองเมืองนี้อยู่ห่างกันไม่ถึงหนึ่งวัน จากเมืองเยี่ยเดินทางต่อร่วมครึ่งเดือนก็จะถึงต้าเหลียง

โชคดีที่อากาศเย็นสบาย ดวงอาทิตย์ไม่โผล่หน้า ทั้งยังมีลมเย็นพัดโชย แต่ที่แย่คืออารมณ์ของอี้เจียง ตั้งแต่ออกเดินทาง นางได้แต่สัปหงกอยู่ในรถทั้งวันจนมีสภาพเหมือนมะเขือเหี่ยวๆ ตันคุยมองแล้วอ่อนใจอย่างยิ่ง

อากาศดีอยู่ได้ไม่นาน ไม่ทันไรดวงอาทิตย์ก็โผล่ออกมาส่องแสงร้อนแรง

แคว้นเว่ยอยู่ทางใต้ รวงธัญพืชจึงสุกเร็วกว่าที่อื่น ตลอดทางที่ผ่านมาเห็นราษฎรจำนวนไม่น้อยออกมาหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินทำงานอยู่ในที่นา เก็บเกี่ยวพืชผลกัน อี้เจียงเกาะประตูรถพลางถอนหายใจเฮือกๆ ราวกับตนเองเป็นรวงข้าวที่ถูกเกี่ยวเสียเอง

ระหว่างยุ่งมือเป็นระวิง ชาวไร่ชาวนาแคว้นเว่ยก็เห็นขบวนรถม้าหรูหราสวยงามผ่านไป ด้วยไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง จึงนึกว่าแคว้นจ้าวจับเด็กสาวส่งไปเป็นของขวัญแก่เว่ยหวัง

ข่าวแคว้นจ้าวต่ำช้าเล่าลือไปทั่วชนบท ชาวบ้านพากันซ่อนบุตรสาวของตนเองยกใหญ่

หลังจากผ่านที่นาและป่าผืนแล้วผืนเล่า ในที่สุดก็ได้เห็นเมืองอีกครั้งเสียที

จนถึงตอนนี้ อี้เจียงก็ยังรู้สึกต่อต้านงานรับหัวศพไม่หาย พอเข้าไปในจุดพักม้าก็เก็บตัวอยู่ในโรงเตี๊ยมไม่ยอมออกมา ราวกับต้องการจะตัดขาดจากโลกภายนอกจนถึงที่สุด

ความเป็นแม่ในตัวตันคุยพลุ่งพล่านอีกแล้ว เขาคอยปกป้องดูแลนางตลอดเวลา คอยสั่งสอนชี้นำนางอย่างใจเย็น ขณะเปิดหน้าต่างออก เขาก็ชี้ให้นางดูความคึกคักภายนอกเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ

อี้เจียงนั่งขัดสมาธิที่โต๊ะ เอามือเท้าคางหมุนพู่กันเล่นโดยไม่หือไม่อือ

ตันคุยบรรยายภาพนอกหน้าต่างให้อี้เจียงฟัง ทั้งเรือนที่อยู่ไกลออกไป แผงขายของที่อยู่ใกล้ๆ เด็กทโมนที่ตีกันวุ่นวาย อยู่ๆ เขาก็ชะโงกตัวออกไปข้างนอกแล้วหันมาอุทานด้วยความประหลาดใจ “หือ? แม่นาง มีทูตของแคว้นฉีมาที่นี่ด้วยขอรับ!”

อี้เจียงเพิ่งจะยอมเงยหน้าขึ้นมา “อะไรนะ!”

ทูตแคว้นฉีมาแคว้นเว่ยด้วยเหตุใดกัน นางฟังแล้วไม่เชื่อนักจึงเดินไปดูตรงหน้าต่าง หน้าประตูโรงเตี๊ยมมีฝุ่นฟุุ้ง คนกลุ่มหนึ่งเข้าออกกันเอะอะ มีองครักษ์หนึ่งกอง รถม้าหนึ่งคัน และม้าเร็วอีกหลายตัว องครักษ์แต่งชุดทหารฉีจริงๆ คนที่เป็นหัวหน้ายังถือธงที่มีตัวอักษรฉีอีกด้วย

อี้เจียงเดินออกไปดูข้างนอกด้วยความแปลกใจ ประจวบเหมาะกับที่เจ้าหน้าที่ของจุดพักม้านำทหารฉีนายหนึ่งเดินเข้ามา

“ทูตแคว้นจ้าวมาได้จังหวะ” เจ้าหน้าที่หันมาแนะนำกับอี้เจียงยิ้มๆ “ท่านผู้นี้เป็นองครักษ์ของทูตแคว้นฉี กำลังอยากพบท่านอยู่พอดี”

ทหารฉีนายนั้นประสานมือคำนับอี้เจียง “คารวะทูตแคว้นจ้าว ได้ยินว่าแคว้นจ้าวส่งทูตมาแคว้นเว่ย พระมเหสีจึงทรงส่งทูตมาช่วยเหลือโดยเฉพาะ เพื่อแสดงสายสัมพันธ์อันดีระหว่างสองแคว้น”

อี้เจียงยิ้มรับ แต่ในใจรู้สึกแปลกพิกล พระมเหสีจวินใจดีเพียงนี้เชียว?

“ไม่ทราบว่าทูตทางฝ่ายพวกท่านคือ…” ใจนางเต้นเร็วราวกับรัวกลอง ขออย่าให้เป็นกงซีอู๋…ขออย่าให้เป็นกงซีอู๋…ขออย่าให้เป็นกงซีอู๋…

“ศิษย์น้อง”

ให้ตายเถอะ! อี้เจียงปวดกระเพาะนิดๆ

เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นข้างหลังแผ่วเบาและมั่นคง นางพยายามปั้นหน้ายิ้มแล้วหันกลับไป “ศิษย์พี่”

กงซีอู๋สวมเสื้อคลุมยาวกรอมเท้าสีขาวราวกับหิมะ รัดเกล้าประดับหยกเขียว ทั้งๆ ที่แดดร้อนจ้า ใบหน้าของเขากลับนิ่งขรึมเป็นปกติ “ดูท่าจะมาทันเวลาพอดี”

อี้เจียงคำนวณเวลา จากเมืองหานตันมาถึงที่นี่ นางใช้เวลาสิบกว่าวัน เขาสามารถเดินทางจากเมืองหลินจือมาสมทบกับนางที่นี่ได้อย่างพอดีเช่นนี้ คงไม่ใช่ยังจับตามองนางอยู่หรอกนะ

กงซีอู๋มีสีหน้าท่าทางเหมือนเดิม ราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น เขาผายมือเชิญ เดินเข้าไปในจุดพักม้าพลางเอ่ย “พระพันปีจ้าวให้ศิษย์น้องเป็นทูตมาที่แคว้นเว่ยเพื่อผิงหยวนจวินสินะ”

อี้เจียงปั้นยิ้ม “หากผิงหยวนจวินรู้ว่าแคว้นฉีส่งศิษย์พี่มาช่วยเขาโดยเฉพาะ ไม่รู้ว่าจะซาบซึ้งใจเพียงใด”

ฝ่ายตรงข้ามตอบกลับมาอย่างเป็นทางการ “ฉีและจ้าวเป็นพันธมิตรกันแล้ว มีอะไรต้องช่วยเหลือกันสิ”

อี้เจียงไม่เชื่อคำพูดดูดีนี้หรอก ประสาททุกส่วนของนางตื่นตัวเต็มที่ หมายจะอ่านเขาให้ทะลุปรุโปร่ง

วันรุ่งขึ้นออกเดินทางกันอีกครั้งด้วยขบวนที่ใหญ่กว่าเดิมมาก

กงซีอู๋ไม่ได้นั่งรถ เขาเปลี่ยนมาใช้ม้า ทั้งยังสั่งให้ทหารจูงม้ามาให้อี้เจียงด้วยหนึ่งตัว

อี้เจียงปฏิเสธ บอกว่าตนชอบนั่งรถมากกว่า

ชายหนุ่มขี่ม้าเข้ามาใกล้ “เห็นศิษย์น้องขี่ม้าเก่ง ข้านึกว่าเจ้าชอบขี่ม้าเสียอีก”

อี้เจียงรู้สึกว่าตนเองโดนเหน็บแนมเรื่องที่หนีออกจากแคว้นฉีเลยรับบังเหียนมาจากทหาร แล้วปีนขึ้นหลังม้า

กงซีอู๋ขี่ม้าเข้ามาตีคู่ อี้เจียงเหลือบมองเขาเป็นระยะ แต่เห็นเขาทอดตามองตรงไปข้างหน้า ไม่มีเจตนาเป็นอื่นและไม่มีทีท่าว่าจะชวนนางคุย นางเองก็ไม่อยากคุยกับเขาอยู่พอดี จึงหนีบเข่าเข้ากับสีข้างม้าเร่งความเร็วเงียบๆ เพื่อแซงเขา

แต่ไม่ทันไรเสียงฝีเท้าม้าก็ดังขึ้นข้างตัว พอหันไปมองก็พบว่าม้าของกงซีอู๋วิ่งขึ้นมาตีคู่อีกครั้ง

นางหางตากระตุกแล้วเร่งความเร็วต่อ

เพิ่งจะทิ้งห่างมาได้นิดเดียว เสียงม้าวิ่งกุบกับก็ดังเข้าหูอีก นางหันไปมอง กงซีอู๋ทอดสายตาตรงไปข้างหน้าขณะขี่ม้าคู่กับนางอย่างมั่นคง

จงใจสินะ? จะต้องจงใจแน่ๆ! อี้เจียงกำบังเหียนในมือแน่น

 

 

(ติดตามอ่านฉบับเต็มได้ในรูปเล่ม)

11 of 11หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

  • กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

    ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 4

    By

    บทที่ 4 อี้เจียงเพิ่งรู้ว่าที่แท้เขาอยู่ห่างจากตนเองแค่ชั่วผนังกั้น นางถามขึ้นอย่างระมัดระวัง “ศิษย์พี่ไม่เป็นไรใช่หรือไม่” ฝ่ายตรงข้ามส่ายห...

  • กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

    ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 3

    By

    บทที่ 3 โรงเตี๊ยมพลันสับสนวุ่นวายขึ้นมา องครักษ์แคว้นฉียืนเรียงเป็นสองแถว สาวใช้รูปร่างหน้าตางดงามยืนประจำที่ นี่สิถึงจะเรียกได้ว่าต้อนรับขั...

  • กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

    ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 2

    By

    บทที่ 2 เดือนสี่ดำเนินมาถึงช่วงปลาย แสงแดดแรงขึ้นทุกที แม้แต่ลมยังเจือไอร้อน สีสันดอกไม้ใบหญ้าด้านหลังจวนฉางอันจวินก็สดใสขึ้นเป็นลำดับ ต้นไม...

  • กล่อมเกลาปราชญ์หญิง

    ทดลองอ่าน กล่อมเกลาปราชญ์หญิง บทที่ 1

    By

    บทที่ 1 เมืองหานตัน แคว้นจ้าว ผิงหยวนจวิน ในตอนนี้รู้สึกปวดใจยิ่ง เจ้าแคว้นผู้เป็นพี่ชายสิ้นบุญ รัชทายาทที่จะสืบทอดบัลลังก์ต่อไม่ใคร่ชอบหน้า...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com