ทดลองอ่าน ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา เล่ม 1 บทที่ 11 – 12 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา

ทดลองอ่าน ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา เล่ม 1 บทที่ 11 – 12

4 of 4หน้าถัดไป

แดนมาร

มีมารหน้าดำคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่เบื้องหน้าคนผู้หนึ่งซึ่งสวมชุดคลุมสีดำ ใบหน้ามีหน้ากากสีดำอันหนึ่งปิดคลุมอยู่ เพียงเผยให้เห็นแค่ดวงตาคู่หนึ่ง

“ผู้น้อยสืบข่าวมาแน่ชัดแล้ว สี่คนในวันนั้นเป็นศิษย์สำนักหมิงหวา ในบรรดาคนเหล่านี้ สตรีผู้หนึ่งมีร่างหยกไขกระดูกหงส์ที่หาได้ยากยิ่ง บุรุษที่มีพลังวัตรสูงสุดผู้นั้นเป็นศิษย์คนโตของเมิ่งชิงเหิงเจ้าสำนักหมิงหวา สกุลมู่ นามหวาฮุย คนผู้นี้ยังมีอีกฐานะหนึ่งคือบุตรชายของเจ้าเมืองเชียนเฮ่อ”

คนที่สวมชุดคลุมสีดำเป็นผู้อาวุโสที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ของเผ่ามาร นามโม่เซียว

ตอนแรกเขายังนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทางผ่อนคลายไม่ได้เอาคำพูดของคนผู้นี้มาใส่ใจ ฟังมาถึงช่วงหลังเขากลับลุกพรวดขึ้นมานั่งตัวตรง

“บุตรชายของเจ้าเมืองเชียนเฮ่อ”

เสียงของเขาหยาบแหบเหมือนเอาตะไบไปฝนกับหินแข็ง และคล้ายเอาเล็บไปกรีดแก้วที่เกลี้ยงเกลา ฟังแล้วแสบแก้วหูยิ่ง ทนไม่ไหวอยากจะหลบไป

คนที่คุกเข่าอยู่กลับยังคงมีสีหน้าเคารพยำเกรง ท่าทางในการคุกเข่าไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

“เรียนผู้อาวุโส ใช่ขอรับ” จากนั้นก็เอ่ยถาม “ขอถามผู้อาวุโส จะให้ส่งคนไปสังหารคนเหล่านี้หรือไม่”

ถึงกับบังอาจมาขัดขวางการทำงานของพวกเขา ย่อมต้องสังหารทิ้ง อย่าว่าแต่พวกเขาแดนมารกับคนของแดนบำเพ็ญเซียนแต่ไรมาก็ไม่อาจอยู่ร่วมโลกกันได้

“ไม่อาจแตะต้องเขา!” โม่เซียวเอ่ยปากเตือนเสียงเฉียบขาดด้วยสัญชาตญาณ

แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ลุกขึ้นยืน เดินกลับไปกลับมาในห้องสองสามรอบ แล้วสั่งกำชับ “มู่หวาฮุยผู้นี้ เจ้าส่งคนไปเฝ้าดูการเคลื่อนไหวเขาด้วยตนเอง ถ้าเขาออกจากสำนักหมิงหวา รีบสั่งคนให้ทุ่มกำลังเล่นงานเขาทันที แต่ถ้าเขาปราชัย พวกเจ้าไม่อาจเอาชีวิตเขา พากลับมาพบข้า!”

ลูกสมุนรีบรับคำ

โม่เซียวจมอยู่ในความครุ่นคิดถึงข่าวนี้ ไม่ได้ใส่ใจเรื่องอื่นใด

ยังคงเป็นลูกสมุนที่อดรนทนไม่ไหว เอ่ยปากเตือน “ผู้อาวุโส ศิษย์หญิงของสำนักหมิงหวาผู้นั้นมีร่างหยกไขกระดูกหงส์ที่พบเห็นได้ยากยิ่ง ทั้งอยู่ในขั้นสร้างฐานแล้ว จะช่วยบำรุงกำลังให้ท่านจอมมารได้อย่างมาก…”

เขาพูดออกมาเช่นนี้ โม่เซียวจึงนึกถึงต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ขึ้นมาได้

นั่นก็คือเวลานี้พลังวัตรของจอมมารเข้าสู่ระยะคอขวด ถึงได้สั่งคนให้ไปขโมยยาวิเศษที่เมืองเหิงหยาง คิดไม่ถึงว่ายาวิเศษได้มาอยู่ในมือแล้ว ระหว่างทางกลับถูกศิษย์สำนักหมิงหวาหลายคนนั้นช่วงชิงกลับไป ยังสังหารคนที่พวกเขาส่งไปจนหมดเกลี้ยง เหลือเพียงคนเดียวที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสลากสังขารกลับมาแจ้งข่าว แต่หลังจากพูดไม่ปะติดปะต่อได้ไม่กี่คำก็ขาดใจตาย

เรื่องนี้ทำให้จอมมารเดือดดาลยิ่ง สั่งให้คนตรวจสอบเบื้องหลังของสี่คนนั้นทันที และหลังจากตรวจสอบได้แล้ว ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครจะต้องสับร่างพวกมันเป็นหมื่นชิ้น แล้วโยนเข้าไปในถ้ำพิษเพื่อเป็นอาหารแมลงพิษและงูพิษ

คิดไม่ถึงว่าหนึ่งในนั้นถึงกับเป็นนายน้อย ส่วนอีกผู้หนึ่งถึงกับมีร่างหยกไขกระดูกหงส์

เล่าลือกันว่าในร่างหยกไขกระดูกหงส์นี้มีปราณวิเศษที่เกิดขึ้นมาโดยธรรมชาติ ถ้าได้ร่วมหลับนอนกับบุรุษก็จะทำให้บุรุษเปลี่ยนเส้นเอ็นชำระไขกระดูก พลังวัตรก้าวรุดหน้าอย่างมาก ถ้าเรื่องนี้เป็นจริง สตรีผู้นี้ก็ดีกว่ายาวิเศษของเมืองเหิงหยางเม็ดนั้น

ในดวงตาโม่เซียวมีประกายเอือมระอาพาดผ่านจางๆ

เขาย่อมไม่หวังให้จอมมารแข็งแกร่ง กระทั่งอยากให้จอมมารตายไปเสียแต่โดยเร็วจึงจะดี แต่เรื่องสังหารจอมมาร ได้แต่ต้องมอบให้นายน้อยเป็นคนลงมือ

อีกทั้งพลังวัตรของจอมมารยิ่งสูง รอนายน้อยสังหารเขาแล้ว คนในเผ่ามารก็ย่อมยิ่งจะหวาดกลัวและเชื่อฟังนายน้อย จึงบอก “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็จับตัวหญิงผู้นั้นมามอบให้จอมมารเสพสุขก็แล้วกัน”

ลูกสมุนรับคำ ค้อมตัวถอยออกไป

จิตใจของโม่เซียวยังไม่อาจสงบลง เอามือไพล่หลังเดินไปเดินมาอยู่ในห้อง

ปีนั้นเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเกือบตาย ถูกบังคับให้ต้องซ่อนตัวรักษาอาการบาดเจ็บเป็นเวลาหลายปี จากนั้นก็ถูกทำลายรูปโฉมทำลายเสียง กลับมาแดนมารอีกครั้ง เวลานี้ในที่สุดก็ก้าวทีละก้าวขึ้นมานั่งในตำแหน่งผู้อาวุโส

ที่ผ่านมาไม่มีเวลาจะมาคำนึงถึงนายน้อย เดิมคิดว่ารอให้ตำแหน่งผู้อาวุโสมั่นคงแล้ว ค่อยไปเมืองเชียนเฮ่อ คิดไม่ถึงว่าเวลานี้นายน้อยถึงกับกลายเป็นศิษย์คนโตของสำนักหมิงหวาไปแล้ว

เมิ่ง-ชิง-เหิง!

เพียงนึกถึงชื่อนี้ สีหน้าของโม่เซียวก็เยียบเย็นขึ้นทันที

เรื่องที่เมิ่งชิงเหิงสังหารนายท่านในปีนั้นยังปรากฏชัดเจนอยู่ในใจ คิดไม่ถึงว่าเวลานี้เมิ่งชิงเหิงถึงกับรับนายน้อยเป็นศิษย์!

รอวันหน้าเมื่อเมิ่งชิงเหิงรู้ถึงฐานะที่แท้จริงของนายน้อย และถูกกระบี่ในมือนายน้อยแทงทะลุดวงจิต ไม่รู้ถึงตอนนั้นใบหน้าของเขาจะมีสีหน้าเช่นไร

โม่เซียวแทบอดใจรอไม่ไหวอยากจะเห็นภาพนี้แต่เร็ววัน

แต่ก่อนจะถึงเวลานั้นเขาจะต้องทำให้นายน้อยแข็งแกร่งขึ้น ค่อยๆ ให้นายน้อยรู้ถึงข้อเท็จจริงของเรื่องทั้งหมดในปีนั้น ให้นายน้อยสมัครใจเป็นมารด้วยตนเอง เช่นนี้พลังมารที่เกิดขึ้นมาโดยธรรมชาติในฐานะเผ่าพันธุ์มารของเขาจึงจะถูกปลุกเร้าออกมาทั้งหมด กลายเป็นจอมมารที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของแดนมาร

 

 

* หนึ่งถ้วยชา ใช้เปรียบถึงช่วงเวลาที่สั้นมาก บางตำราเทียบว่าประมาณ 10-15 นาที

* ชั่วยาม หน่วยนับเวลาของจีนโบราณ 1 ชั่วยามเทียบได้กับ 2 ชั่วโมง

* แมลงฤดูร้อนไม่อาจพูดคุยเรื่องน้ำแข็ง เป็นสำนวน หมายถึงคนที่มีความรู้ตื้นเขิน ไม่เข้าใจหลักการยิ่งใหญ่ อย่างแมลงบางชนิดมีอายุขัยอยู่ในช่วงฤดูร้อน ไม่เคยผ่านฤดูหนาวจึงไม่รู้จักน้ำแข็ง

 

(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็มเดือนมกราคม 66)

4 of 4หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com