ทดลองอ่าน ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา เล่ม 1 บทที่ 7 – 8 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา

ทดลองอ่าน ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา เล่ม 1 บทที่ 7 – 8

หน้าที่แล้ว1 of 4

บทที่ 7

เมิ่งถังมองฝูงชนข้างกายที่เดินขวักไขว่กันอย่างไม่ขาดสาย ผ่านไปครู่หนึ่งเมื่อได้สติกลับคืนมาก็รู้สึกว่าศิษย์พี่ช่างตามใจเด็กน้อยอย่างนางยิ่งนัก นางเองก็มีความรู้สึกถูกคุ้มครองอย่างหนึ่ง

ช่างทำให้คนตื่นเต้นอย่างแท้จริง

เมิ่งถังเดิมก็มีนิสัยชอบสนุก เวลานี้ด้วยความตื่นเต้นก็ดึงแขนเสื้อของมู่หวาฮุย จะไปยังจุดที่คึกคักที่สุดกลับถูกมู่หวาฮุยเรียกเอาไว้ “ช้าก่อน”

เมิ่งถังหยุดลงแล้วหันหน้ากลับมา “ศิษย์พี่ มีอะไรหรือ”

แสงโคมสองข้างถนนสายยาวสว่างไสว ส่องสะท้อนดวงตารูปเมล็ดซิ่งที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มคู่นั้นของนาง ชั่วขณะนั้นคล้ายมีแสงดวงดาวแตกกระจายวิบวับอยู่ภายใน

มู่หวาฮุยยกมือขึ้นหยิบของอย่างหนึ่งออกมาจากเส้นผมของนาง

เป็นกลีบดอกไห่ถังกลีบหนึ่ง

ความจริงก่อนหน้านี้ตอนเมิ่งถังเดินออกมาจากป่าต้นไห่ถัง มู่หวาฮุยก็สังเกตเห็นว่ามีกลีบดอกไห่ถังติดผมนางอยู่กลีบหนึ่งแล้ว เดิมคิดจะหยิบออก แต่เขาไม่เคยชินต่อการแสดงความใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้อื่น ภายหลังก็คิดว่าตอนขี่กระบี่อยู่บนท้องฟ้ากลีบดอกไม้ก็คงจะปลิวหายตามลมไป คิดไม่ถึงว่าเขาเก็บกระบี่ลงถึงพื้นดินแล้วกลับพบว่ากลีบดอกไม้ยังคงติดอยู่บนเส้นผมของเมิ่งถัง

ในใจครุ่นคิดลังเลอยู่นาน ในที่สุดยังคงยื่นมือไปช่วยหยิบออกให้นาง

มองเส้นผมยาวสลวยของเมิ่งถังที่กลับมาราบเรียบไม่มีอะไรติดอยู่แล้ว ความรู้สึกไม่สบายในหัวใจของมู่หวาฮุยในที่สุดก็สงบลง

โรคเจ้าระเบียบของเขานับว่าใช้ได้เลย

เมิ่งถังยื่นมือไปรับกลีบดอกไม้ กล่าวขอบคุณ จากนั้นก็ร้องเร่งเขา “ศิษย์พี่ ไป ทางด้านโน้นดูคึกคักยิ่ง เราไปดูกัน”

พวกเขาเดินผ่านฝูงชนอย่างว่องไว รอจนเข้ามาใกล้ก็เห็นภูเขาโคมแก้วหลากสีสันขนาดใหญ่ลูกหนึ่ง สว่างไสวโชติช่วงพร่างพราวละลานตา รอบบริเวณยังมีการแสดงกายกรรมต่างๆ รวมทั้งการแสดงเชิดสิงโต คึกคักสนุกสนานเป็นที่สุด

เมิ่งถังอยู่สำนักหมิงหวาตลอดครึ่งปีมานี้ นอกจากไปกระโจมห้องเรียน เวลาที่เหลือก็ฝึกฝนวิชากับมู่หวาฮุย วันเวลาเรียกได้ว่าผ่านไปอย่างสงบเงียบจืดชืดยิ่งนัก เวลานี้เมิ่งถังได้มาเห็นงานเทศกาลที่คึกคักสนุกสนานเช่นนี้ ทั่วร่างก็พลอยคึกคักฮึกเหิมขึ้นมาราวกับฉีดเลือดไก่*

ไม่ว่าการแสดงอะไรก็ต้องขอเข้าไปดูใกล้ๆ สักแวบหนึ่ง เห็นการแสดงอะไรที่ยอดเยี่ยมโดดเด่นเป็นต้องตบมือร้องว่าดีตามคนที่อยู่รอบด้านไปด้วย เห็นข้าวของอะไรน่าสนุก หรือของกินอร่อยอะไรก็ต้องซื้อมา

อย่างไรเสียหินวิเศษก็มีมากพอ แหวนเก็บทรัพย์ก็ยังมีพื้นที่ว่างอีกมาก ไม่ว่าจะซื้อของมากเท่าใดก็ยังยัดเข้าไปได้ ไม่ต้องถือเอง เป็นของดีงามที่จำเป็นต้องมียามออกมาเที่ยวเล่น

เดินเที่ยวมาถึงข้างแผงขายโคมดอกบัวแห่งหนึ่ง ได้ยินเจ้าของแผงบอกด้านหน้าห่างออกไปไม่ไกลก็คือแม่น้ำลั่ว สามารถซื้อโคมดอกบัวไปอธิษฐานที่ริมแม่น้ำ จากนั้นก็ปล่อยโคมดอกบัวให้ลอยไปตามสายน้ำในแม่น้ำลั่วได้ เช่นนี้ความปรารถนาที่อธิษฐานไว้ก็จะเป็นจริง เมิ่งถังรีบควักหินวิเศษซื้อโคมดอกบัวมาสองดวง

หมุนตัวมายื่นโคมดวงหนึ่งให้มู่หวาฮุย เมิ่งถังใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ

“ศิษย์พี่ เราไปลอยโคมดอกบัวกัน”

มู่หวาฮุยแม้จะรับโคมมาถืออยู่ในมือกลับบอก “ข้าไม่เชื่อในสิ่งนี้”

ถ้าเพียงทำเท่านี้ก็สามารถทำให้ความมุ่งมาดปรารถนาของตนเป็นจริงได้ ในโลกนี้คงไม่มีคนเสียใจผิดหวังแล้ว

“ข้าก็ไม่เชื่อสิ่งนี้ แต่ในเมื่อทุกคนต่างก็ทำเช่นนี้ เราก็ทำเช่นนี้ด้วยแล้วกัน”

เห็นมู่หวาฮุยยังยืนเฉยไม่ขยับ เมิ่งถังจำต้องไปดึงแขนเสื้อเขา “ไปเถิด ศิษย์พี่ เราต้องรู้จักหาความสนุกให้ตัวเองบ้างนะ”

ครึ่งปีกว่ามานี้นางก็มองออกแล้ว อย่าเห็นว่ายามอยู่ต่อหน้าผู้คน ใบหน้าของมู่หวาฮุยจะดูอ่อนโยนมีรอยยิ้มประดับอยู่เสมอ ความจริงแล้วในกระดูกของเขาก็เป็นคนเงียบเหงาคนหนึ่ง ปกตินอกจากฝึกฝนวรยุทธ์แล้วก็ไม่มีอย่างอื่นให้ทำอีก แต่ละวันก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิมทุกวัน

ชีวิตที่จืดชืดเช่นนี้น่าเบื่อเพียงใด ในเมื่อนางตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะเฝ้าปกป้องเขา เช่นนั้นก็ควรทำให้ชีวิตของเขามีสีสันขึ้นมา

ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ลากมู่หวาฮุยให้เดินไปข้างหน้า พอเดินมาตามทางที่เจ้าของแผงชี้ให้เมื่อครู่ ไม่นานเมิ่งถังก็หาแม่น้ำลั่วพบ

บนผิวน้ำมีโคมดอกบัวลอยอยู่จำนวนมาก ริมฝั่งยังมีผู้คนไม่น้อยกำลังเตรียมเอาโคมดอกบัวในมือลงไปลอยในน้ำ

โคมดอกบัวในมือเมิ่งถังยังไม่ได้จุดไฟให้สว่าง เห็นคนที่อยู่ด้านข้างมีที่จุดไฟ กำลังจะไปขอยืม มู่หวาฮุยก็เรียกนางไว้ เห็นเขายกมือขึ้นมาประกบนิ้วท่องอาคม ไส้เทียนของโคมดอกบัวในมือเมิ่งถังก็ลุกสว่างขึ้นทันที ภาพเบื้องหน้าเมิ่งถังก็พลอยสว่างตามไปด้วย

อาคมนี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง จึงอ้อนวอนมู่หวาฮุย “ศิษย์พี่ ข้าจะฝึกอาคมนี้ กลับไปแล้วท่านสอนข้าได้หรือไม่”

มู่หวาฮุยกลับดูเหมือนไม่ยินดีจะสอนอาคมนี้ให้นาง

“นี่เป็นเพียงอาคมอาคมๆ ไม่สูงส่งอะไร ฝึกไปก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าเจ้าต้องการโคมไฟ กลับไปแล้วข้าจะมอบโคมแก้วชีเป่า* สลักอาคมให้เจ้าดวงหนึ่ง เมื่ออยู่ในที่มืดจะส่องแสงสว่างขึ้นมาเอง”

เขายังหวังให้นางทุ่มเทจิตใจไปกับการฝึกฝนวรยุทธ์มากกว่า

โคมแก้วชีเป่าฟังดูเป็นของดี เมิ่งถังย่อมคล้อยตามความคิดเห็นที่ดีดุจสายน้ำที่ไหลจากที่สูงลงที่ต่ำแสดงกิริยา ‘น้อมรับ’ ไว้

แต่นางยังคงอยากฝึกฝนอาคมธรรมดาๆ นี้ เพราะหลังจากฝึกเป็นแล้ว คิดจะย่างปลาเอย ย่างปีกไก่เอย เหล่านี้ล้วนไม่ต้องลำบากลำบนใช้ที่จุดไฟแล้ว

สุดท้ายมู่หวาฮุยก็ขัดไม่ได้ต่อการขอร้องแล้วขอร้องอีกของนาง ยอมรับปากจนได้

เมิ่งถังบรรลุความปรารถนาแล้วก็ประคองโคมดอกบัวขึ้นมาด้วยความพออกพอใจ หลับตาทั้งสองเริ่มอธิษฐาน

มู่หวาฮุยมองนาง

คิ้วเรียวงาม ดวงตารูปเมล็ดซิ่ง จมูกเชิดรั้น ริมฝีปากแดงดุจผลอิงเถา* ภายใต้แสงเทียนนวลตาที่ส่องสะท้อนผิวพรรณดูละเอียดเกลี้ยงเกลาขาวใสดุจกระเบื้องเคลือบ

คล้ายว่าโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว เวลาที่เขานึกถึงเมิ่งถังในสมองก็จะมีใบหน้าของนางปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจน ยังมีอากัปกิริยายามแย้มยิ้ม มุ่นหัวคิ้ว รวมทั้งลักษณะท่าทางไร้เหตุผลและประจบออดอ้อนเหล่านั้น

ทั้งที่แต่ก่อนทุกครั้งยามเขานึกถึงศิษย์น้องผู้นี้ ในสมองจะนึกรูปร่างหน้าตาของนางไม่ออกแม้แต่น้อย

เมิ่งถังอธิษฐานเสร็จแล้ว โน้มตัวเอาโคมดอกบัวในมือวางลงไปในแม่น้ำลั่ว

จากนั้นก็เร่งรัดมู่หวาฮุย “ศิษย์พี่ ท่านรีบจุดโคมให้สว่าง แล้วอธิษฐานเถิด”

แม้มู่หวาฮุยจะรู้สึกว่านี่เป็นการกระทำแบบเด็กๆ แต่เมื่อมองสบดวงตาที่เปล่งประกายแวววาวคู่นั้นของเมิ่งถังแล้ว เขายังคงส่งเสียงอืมออกมาคำหนึ่ง

จุดโคมสว่างแล้ว เขาก็หลับตาทั้งสองลง

เมิ่งถังฉวยโอกาสนี้มองประเมินเขาอย่างกระตือรือร้น

หน้าที่แล้ว1 of 4

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com