ทดลองอ่าน ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา เล่ม 1 บทที่ 7 – 8 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา

ทดลองอ่าน ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา เล่ม 1 บทที่ 7 – 8

ตอนเห็นมู่หวาฮุยครั้งแรก นางก็ส่งเสียงกรีดร้องอยู่ในใจ รู้สึกว่ามู่หวาฮุยหล่อเหลาสุภาพอ่อนโยนยิ่งกว่าที่ตนนึกภาพไว้ ยามนี้มองดูแล้วไม่ต่างอะไรกับหยกงามชิ้นหนึ่ง ท่ามกลางแสงเทียนสว่างไสวแวววาว ดูสุภาพอ่อนโยนละมุนละไม ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกสูงส่งเหนือผู้คน มีความศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่อาจล่วงเกินอย่างหนึ่ง

เคลิบเคลิ้มอยู่กับรูปโฉมของมู่หวาฮุยจนเกินไป ตอนอีกฝ่ายลืมตาขึ้นมาเมิ่งถังยังคงมองจ้องเขาอย่างโง่งม

“อะไร บนใบหน้าของข้ามีอันใดไม่เหมาะสมหรือ” มู่หวาฮุยถามเมิ่งถังด้วยความสงสัย

ใบหน้าของท่านไหนเลยยังจะมีอันใดไม่เหมาะสม ต้องบอกว่าเหมาะสมเกินไปแล้ว! ทุกจุดล้วนเหมาะเจาะเหมาะสม!

เมิ่งถังเก็บสายตาลุ่มหลงของตนกลับมา ตอบอย่างเคร่งขรึมจริงจัง “ไม่มี ข้ากำลังคิดว่าศิษย์พี่อธิษฐานสิ่งใดอยู่”

มู่หวาฮุยยิ้มน้อยๆ และไม่ได้ซักไซ้ต่อ ก้มตัววางโคมดอกบัวลงในแม่น้ำลั่ว

แสงเทียนนวลตาส่องสว่างผิวน้ำผืนเล็กที่อยู่รอบๆ เมื่อลมพัดมาระลอกคลื่นพลิ้วไหว โคมดอกบัวค่อยๆ ลอยห่างออกไป

เมิ่งถังอยากรู้มากว่ามู่หวาฮุยอธิษฐานว่าอะไร แต่ไม่ว่านางจะถามอย่างไร มู่หวาฮุยก็ได้แต่ยิ้มไม่พูด สุดท้ายยังย้อนถามนาง “เจ้าล่ะ อธิษฐานอะไร”

“ข้าหรือ”

เมิ่งถังรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรที่พูดไม่ได้ จึงตอบอย่างตรงไปตรงมา “ข้าหวังว่าชั่วชีวิตนี้ของศิษย์พี่จะสงบสุขราบรื่น ยิ้มแย้มเบิกบานไร้กังวล และหวังว่าต่อไปภายหน้าตนจะฝึกฝนวรยุทธ์ได้อย่างเหนื่อยน้อยได้ผลมาก แข็งแกร่งขึ้นมาได้โดยเร็ว” เช่นนี้ต่อไปจึงจะสามารถเฝ้าปกป้องท่านได้ดียิ่งขึ้น

มู่หวาฮุยตะลึงงันไปเล็กน้อย

เขาคิดไม่ถึงในความมุ่งมาดปรารถนาของเมิ่งถังถึงกับมีเขาอยู่ อีกทั้งยังเรียงลำดับเขาให้อยู่หน้าตัวนางเองอีกด้วย พลันนึกไปถึงแม่นมขึ้นมา

ในความทรงจำของเขาแม่นมอ่อนโยนมีเมตตา ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ให้ความสำคัญกับเขาเป็นอันดับแรก เป็นความอบอุ่นเพียงอย่างเดียวในวัยเด็กที่อ้างว้างเดียวดายของเขา แต่ภายหลังแม่นมกลับเสียชีวิตอย่างมีลับลมคมในยิ่ง

เบื้องหน้าพลันปรากฏภาพที่ทุกครั้งเมื่อนึกถึงก็จะทำให้ส่วนลึกของจิตวิญญาณเขาต้องสั่นสะท้าน

เขาในวัยเด็กผลักประตูห้องที่ปิดสนิทให้เปิดออก เห็นเงาร่างของแม่นมอยู่ด้านหลังฉากบังลมผ้าโปร่งบางสีขาว

ร้องเรียกแม่นมออกไปคำหนึ่ง เขาก้าวข้ามธรณีประตู รอจนเขาเดินอ้อมฉากบังลมไปก็ได้เห็นภาพที่ทำให้เขาต้องตื่นตระหนกหวาดผวา

แม่นมของเขานอนหงายอยู่บนเตียงใบหน้าซีดเขียว มือข้างหนึ่งห้อยตกลงมาอย่างไร้เรี่ยวแรง แต่กลับมีหนูรูปร่างใหญ่โตหลายตัวเกาะอยู่บนใบหน้าบนแขนของแม่นมกำลังกัดแทะเนื้อหนังของนาง

กระทั่งเขาใช้มือที่สั่นเทาทั้งสองข้างออกแรงที่มีอยู่ทั้งหมดผลักฉากบังลมให้ล้มลงไป เสียงฉากบังลมกระแทกพื้นทำให้หนูเหล่านั้นตกใจ พวกมันถึงได้ส่งเสียงจี๊ดๆ ลากหางเรียวยาววิ่งหนีหัวซุกหัวซุนไปคนละทิศคนละทาง

ทว่าใบหน้าทั้งของแม่นม แขน มือ เท้าที่อยู่ด้านนอกได้ถูกกัดแทะจนเห็นกระดูกขาวโพลนแล้ว…

เมิ่งถังกำลังมองโคมดอกบัวที่กะพริบวิบวับอยู่บนผิวน้ำ หางตาพลันสังเกตเห็นมู่หวาฮุยก้มหน้าค้อมเอว ไหล่ทั้งสองสั่นเล็กน้อย คล้ายกำลังข่มกลั้นต่อความเจ็บปวดทรมานอย่างมาก

เมิ่งถังตกใจ รีบยื่นมือไปประคองเขา ถามไม่ขาดปาก “ศิษย์พี่ ท่านเป็นอันใดไป”

ช่วงที่ผ่านมามู่หวาฮุยศิษย์พี่ผู้นี้ ในสายตาของนางไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้ ไม่มีอะไรที่เขาทำไม่เป็น ภูเขาไท่ซาน* ถล่มลงมาตรงหน้าก็สีหน้าไม่แปรเปลี่ยน ยังคงมีรอยยิ้มอบอุ่นอยู่บนใบหน้า แต่ไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสภาพเช่นนี้มาก่อน นี่จึงทำให้เมิ่งถังตกใจอย่างแท้จริง แม้แต่เสียงยังสั่นโดยไม่รู้ตัว

ดีที่ไม่นานมู่หวาฮุยก็ควบคุมอารมณ์ของตนเองได้

“ข้าไม่เป็นไร” เขาเงยหน้าขึ้น มุมปากแฝงรอยยิ้มจางๆ กลับไปเป็นศิษย์พี่ที่สุขุมเยือกเย็นเช่นปกติผู้นั้นแล้ว

เมิ่งถังเห็นชัดว่าไม่เชื่อ

คนอื่นอาจไม่รู้ แต่เมิ่งถังเป็นคนที่อ่านเนื้อหาในหนังสือนิยายในส่วนที่เกี่ยวกับมู่หวาฮุยมาอย่างละเอียด ไหนเลยจะไม่รู้ว่าภายใต้รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูสงบนิ่งของมู่หวาฮุยมีเงาดำที่น่ากลัวในวัยเด็กอยู่มากเพียงใด

เมื่อครู่ศิษย์พี่คงนึกถึงเรื่องไม่ดีในอดีตเหล่านั้นกระมัง

เมิ่งถังกังวลว่าจะถูกมู่หวาฮุยมองเห็นพิรุธในตัวนาง ชั่วขณะนั้นไม่รู้ควรปลอบใจอย่างไร จำต้องพูดเรื่องอื่นเรื่องโน้นนิดเรื่องนี้หน่อยไป เพื่อเบนความสนใจของมู่หวาฮุยไปจากเดิม

แล้วชี้ไปยังผู้คนบนฝั่งที่มาลอยโคม เริ่มพูดจาไปเรื่อยเปื่อยอย่างจริงจัง

“ศิษย์พี่ ท่านดูท่านตากับท่านยายคู่นั้นช่างรักใคร่กันดียิ่ง มาถึงวัยนี้แล้วยังจับจูงมือกันมาลอยโคมด้วยกันได้ ยังมีสามีภรรยาหนุ่มสาวคู่นั้น อุ้มบุตรสาวของพวกเขามาลอยโคมในแม่น้ำ แม่หนูน้อยหน้าตาหน้าเอ็นดูเสียจริง หนุ่มสาวคู่หนึ่งทางด้านนั้น ศิษย์พี่ ท่านเห็นหรือไม่ ข้าเดาว่าพวกเขาสองคนยังไม่ได้แต่งงานกัน ทั้งสองคนกระทั่งมองอีกฝ่ายแวบหนึ่งก็ยังหน้าแดงต้องเบือนหน้าหนี ยังมีสองคนทางด้านโน้น…”

เมิ่งถังพูดต่อไปไม่ได้แล้ว

เพราะนางพบว่าสองคนนั้นคือหลิงซิงเหยากับอวิ๋นชูเยวี่ย

ให้ตายสิ! อวิ๋นชูเยวี่ยที่เจอหน้ากันที่กระโจมห้องเรียนทุกวัน บางครั้งเจอหลิงซิงเหยาบ้างก็แล้วไปเถอะ เหตุใดตอนนี้มาถึงแดนมนุษย์แล้วก็ยังเจอสองคนนี้อีก

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com