ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 124 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 124

“เขาบอกเอง” เยี่ยเสียนฉีจำต้องพูดอย่างไม่มีทางเลือก

“จู่ๆ เขาบอกเรื่องนี้กับพี่ทำไม” ซูเสวี่ยจื้อสงสัยมากขึ้น

ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดี บอกก็บอกเถอะจะเป็นไรไป…

เขาเล่าเหตุการณ์ที่ตนเองไปหาเฮ่อฮั่นจู่ตั้งแต่ต้นจนจบให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไป

“ตอนนั้นคุณคิมูระคนนั้นยังเป็นลมไปเลยไม่ใช่หรือ หน้าซีดอย่างกับคนตายอย่างไรอย่างนั้น ฉันตกใจแทบตาย! กลัวร่างกายเธอจะแย่ไปด้วย แล้วเธอน่ะยอมฟังฉันซะที่ไหน ฉันถึงได้ไปหาเขา คิดจะขอให้เขาช่วยเตือนเธอ ฉันคิดไม่ถึงว่าเขาไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ไปโรงพยาบาลจะให้เลือดแทนเธอเอง”

“เย็นวันนั้นฉันไม่เห็นเขามาที่โรงพยาบาลสักหน่อย” ซูเสวี่ยจื้อจำได้แม่นยำ

“เธอต้องไม่รู้แน่นอนสิ อย่าว่าแต่เธอเลย ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ตอนฉันกับเขาไปถึงโรงพยาบาล ฟู่หมิงเฉิงตามคนที่ให้เลือดได้กลับมาพอดี พอหมดปัญหาเธอก็ออกจากห้องตรวจแล้ว ส่วนเขาหันหลังออกมาเลย ทั้งยังกำชับฉันว่าห้ามบอกเรื่องที่เขาไปที่นั่นให้เธอรู้ หลังจากนั้นก็กลับไป”

ซูเสวี่ยจื้ออึ้งงันไปครู่เดียวก็แจ่มแจ้งในบัดดล เธอถามเป็นเชิงต่อว่า “ทำไมพี่เพิ่งมาบอกตอนนี้ล่ะ”

เยี่ยเสียนฉีโอดครวญ “โธ่ คุณน้องสาวขอรับ ก็เขาไม่ให้ฉันบอกนี่ จริงสิ เธออย่าบอกเขาว่าเธอรู้เด็ดขาดนะ ปกติฉันปิดปากสนิทที่สุด วันนี้ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”

เขามองดูท้องฟ้า “เอาล่ะ เธอรีบขึ้นมาเถอะ ฟ้าจะมืดอยู่แล้ว”

หญิงสาวรู้สึกว่ามีกระแสไออุ่นจางๆ เจือความหวานซึ้งใจแผ่ซ่านในอก เธอไม่พูดต่ออีก กลับขึ้นไปนั่งบนเบาะหลังจักรยานของญาติผู้พี่กลับถึงวิทยาลัย

จากนั้นเยี่ยเสียนฉีปั่นจักรยานเร็วฉิวกลับไปแบบเดียวกับตอนขามาอีกครั้ง

เมื่อหญิงสาวกลับเข้าห้องพัก เธอปิดประตูปิดม่านหน้าต่างแล้วเปิดไฟ จากนั้นก็นั่งลงหยิบแหวนที่เขามอบให้ออกมาสวมบนนิ้วแล้วส่องใต้ไฟพลางหมุนไปหมุนมาอีกครั้ง

ใต้แสงไฟเนื้อทองเกลี้ยงเปล่งประกายสีเหลืองหม่นแกมสีกุหลาบกับอักษรแบบเรียบๆ แค่ไม่กี่ตัวบนนั้น แต่เธอมองดูมันซ้ำๆ ตั้งกี่รอบแล้วก็สุดรู้

‘คำมั่นของฮั่นจู่’

ความรู้สึกหวานล้ำระคนตื้นตันพลุ่งขึ้นกลางใจอีกครั้งหนึ่ง

เพราะอะไรต้องรอเขาเป็นฝ่ายติดต่อเธอก่อนด้วยเล่า

เพราะอะไรเธอจะติดต่อเขาก่อนไม่ได้

บางทีติงชุนซานอาจลืมถ่ายทอดคำพูดที่เธอฝากไปบอกเขา เขากังวลว่าเธอยังตะขิดตะขวงใจกับเรื่องนั้นและโกรธเขาอยู่ ดังนั้นเขาถึงไม่กล้าติดต่อเธอก็เป็นได้

ดูเหมือนเขามักเป็นแบบนี้เสมอ ภายนอกดูมีอำนาจบารมีเป็นที่ยำเกรงของใครๆ แต่หลังจากทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน เวลาอยู่กับเธอตามลำพังสองคน พอถึงจังหวะสำคัญทีไรเขากลับทำท่าโลเลไม่เด็ดขาดเหมือนพวกไม่มีความมั่นใจในตนเองเอาเสียเลย

เอาเป็นว่าไม่ว่าเธอจะเดาถูกหรือไม่ หรือเขามีเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ไปถามเขาตรงๆ ให้รู้ดำรู้แดงไปเลยก็หมดเรื่อง ดีกว่ามัวนั่งสงสัยคาดเดาสะเปะสะปะอยู่แบบนี้ให้ทรมานใจเอง

เลือดในตัวหญิงสาวสูบฉีดแรงขึ้นทีละน้อย

ซูเสวี่ยจื้อหมดความลังเลใจ เธอเก็บแหวนแล้วลุกออกไปทันที

 

ห้องทำงานของผู้อำนวยการเหอในเวลานี้ไม่มีคนอยู่แล้ว ตอนซูเสวี่ยจื้อกลับเข้าเมือง กรมไปรษณีย์โทรเลขก็ปิดประตูไปแล้ว เธอจึงตรงดิ่งไปที่คฤหาสน์สกุลเฮ่อ

เฮ่อหลันเสวี่ยวิ่งทะยานลงมาจากชั้นบนด้วยความตื่นเต้นแกมประหลาดใจ “คุณมาได้อย่างไรคะ มีธุระใช่ไหม”

“ไม่ได้มีธุระหรอก แค่จะขอยืมใช้โทรศัพท์ครับ” ซูเสวี่ยจื้อบอกยิ้มๆ “อยากโทรหาพี่ชายคุณ” เธออธิบายต่ออีกคำ

เฮ่อหลันเสวี่ยได้ยินแล้วทำหน้าดีใจในทีแรก ต่อจากนั้นเธอชะงักไปนิดหนึ่ง ถึงบอกให้เหมยเซียงที่ยืนอยู่ด้านข้างออกไป จนกระทั่งไม่มีคนอื่นอยู่ใกล้ๆ ค่อยมองอีกฝ่ายแวบหนึ่ง พูดเสียงกระซิบว่า “ตอนนี้พี่ชายฉันน่าจะไม่อยู่ค่ะ…ฉันได้ยินจากป้าเฮ่อว่าหลังจากเขากลับมา หลายวันนี้งานยุ่งมาก กลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ ทุกวัน”

“ไม่เป็นไร ฉันแค่จะฝากคำพูดถึงเขากับป้าเฮ่อ”

เฮ่อหลันเสวี่ยถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วพยักหน้าทันที

ซูเสวี่ยจื้อหยิบหูโทรศัพท์ต่อสายทางไกลไปที่เมืองหลวง เธอรออยู่ครู่หนึ่งสายโทรศัพท์ก็ถูกโอนต่อไปที่บ้านพักสวนดอกไม้สกุลติงตามคำขอของเธอ

คนที่รับสายคือป้าเฮ่อ ป้าเฮ่อตอบเหมือนที่เฮ่อหลันเสวี่ยบอกไว้เมื่อครู่นี้ตามคาดว่าเขาไม่อยู่ ไม่รู้จะกลับมาได้เมื่อไร

“สองสามวันนี้คุณชายยุ่งจนหัวปั่น หลังกลับมาถึงฉันเห็นเขาไม่ได้นอนเต็มอิ่มสักคืน มีคนมาหาที่บ้านตั้งแต่เช้ายันเย็น คุณชายซูมีธุระใช่ไหม หรือมีเรื่องอะไรอยากบอก ฝากฉันไว้ได้นะ รอคุณชายกลับมา ฉันจะบอกต่อให้ทันทีเลย” ป้าเฮ่อแสดงความกระตือรือร้นเต็มเปี่ยม

“ไม่ได้มีธุระอะไรหรอกครับ แค่ฝากป้าบอกคุณน้าสักคำว่าผมโทรมาหา ถ้าคุณน้ามีเวลาว่างช่วยติดต่อกลับด้วยครับ”

“ได้ๆ ฉันจะบอกให้”

ซูเสวี่ยจื้อกล่าวขอบคุณแล้ววางหูโทรศัพท์

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com