ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 124 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 124

5 of 5หน้าถัดไป

เฮ่อหลันเสวี่ยรั้งตัวซูเสวี่ยจื้อให้นอนค้างที่บ้าน แต่เธอบอกปัดอย่างสุภาพ เฮ่อหลันเสวี่ยไม่กล้ารบเร้าต่อ เพียงบอกว่าจะให้คนขับรถไปส่ง

เธอไม่ปฏิเสธน้ำใจของอีกฝ่ายอีก ตอนเฮ่อหลันเสวี่ยเดินตามออกมาส่งเธอถึงหน้าประตูรั้วอย่างอาลัยอาวรณ์ อีกฝ่ายสบช่องที่คนอื่นไม่ทันสังเกตยื่นปากมากระซิบข้างหูเธออย่างฉับไว “พี่ซู พี่ช่างแสนดีจริงๆ ถ้าพี่ชายฉันคิดว่าตนเองได้เลื่อนตำแหน่งหนนี้แล้วทำหยิ่งยโส กล้ารังแกพี่ล่ะก็ ฉันสาบานว่าจะไม่สนใจเขาไปตลอดชีวิตเลยค่ะ”

ซูเสวี่ยจื้ออบอุ่นไปทั้งหัวใจอีกครา เธอพยักหน้ายิ้มๆ บอกให้เด็กสาวเข้าบ้าน ส่วนตนเองนั่งรถกลับวิทยาลัย

ขณะนี้เป็นเวลายี่สิบนาฬิกาเศษ

เมื่อโทรศัพท์เรียบร้อยเธอก็รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก จิตใจผ่อนคลายกว่าหลายวันที่ผ่านมาไม่น้อย เธอเห็นว่ายังไม่ดึกนัก เลยอยากไปดูที่ห้องปฏิบัติการสักหน่อย

งานนี้เป็นการเริ่มต้นจากศูนย์ ฉะนั้นอยากจะผลิตยาเพนิซิลลิน ขั้นแรกต้องหาเชื้อราเพนิซิลเลียม* ที่ใช้สกัดเป็นยาได้ จากนั้นทำการเพาะเชื้อกับคัดแยกสายพันธุ์ซ้ำๆ จนได้เชื้อบริสุทธิ์ซึ่งนำไปใช้ได้

ขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลานานเท่าไรไม่สามารถควบคุมได้โดยสิ้นเชิง ถ้าโชคดีอาจจะรวดเร็วมาก แต่ถ้าโชคไม่ดี หนึ่งปีหรือนานหลายปีก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

ดีที่เชื้อรามีอยู่ดาษดื่นในธรรมชาติ ช่วงหลังจากเปิดเรียนจนถึงตอนนี้ ซูเสวี่ยจื้อกับด็อกเตอร์อวี๋สองคนกำลังเก็บรวบรวมเชื้อราจากที่ต่างๆ อยู่ตลอด

ไม่ว่าจะเป็นถุงเท้า รองเท้า เสื้อผ้าเก่า ผักผลไม้และเนื้อที่เน่าแล้ว กระทั่งเหรียญโบราณ…ขอแค่เป็นสิ่งของหรือสถานที่ที่อาจจะมีเชื้อราอยู่กลายเป็นเป้าหมายของคนทั้งคู่หมด

ในสายตาของคนที่ไม่เข้าใจเหตุผล งานที่เธอกับเขาทำอยู่ก็แทบไม่ต่างจากการเก็บขยะ

เพราะมีกันแค่สองคนจึงส่งผลให้งานคืบหน้าอย่างอืดอาด อันที่จริงซูเสวี่ยจื้อก็ใคร่ครวญอยู่ว่าจะรับสมัครนักเรียนที่มีพื้นฐานด้านชีววิทยามาเป็นผู้ช่วยในห้องปฏิบัติการสองสามคน แต่เมื่อคำนึงถึงว่าต้องเก็บเป็นความลับ เธอก็ลังเลตัดสินใจไม่ได้อีก

หลายวันก่อนด็อกเตอร์อวี๋พบเชื้อราในเศษเนื้อสัตว์ชิ้นหนึ่ง เขาทำการย้ายเอาไปเพาะด้วยอาหารเลี้ยงเชื้อ

ซูเสวี่ยจื้ออยากไปดูความคืบหน้าสักนิด

วันนี้ด็อกเตอร์อวี๋ออกไปตระเวนเสาะหาเชื้อรา ยังไม่ได้มาที่ห้องปฏิบัติการ

เธอกลับเข้าห้องพักหยิบกุญแจห้องปฏิบัติการแล้วกำลังจะออกไป ทันใดนั้นได้ยินเสียงฝีเท้าถี่กระชั้นลอยมาระลอกหนึ่ง ตามมาด้วยเสียงคนเคาะประตู

เธอเปิดประตูออกก็เห็นด็อกเตอร์อวี๋มาหา

เขามีสีหน้าผิดปกติมาก ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ พอเห็นเธอแล้วกลับพูดอะไรไม่ออกชั่วขณะ

ด็อกเตอร์อวี๋มาหาเธอดึกดื่นป่านนี้ หนำซ้ำยังอยู่ในอารมณ์พลุ่งพล่านแบบนี้อีก

ซูเสวี่ยจื้อตกอกตกใจมาก เธอไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ก็รีบเชิญเขาเข้าห้อง

ด็อกเตอร์อวี๋ส่ายหน้าพลางพูดเสียงแหบพร่า “เสี่ยวซู น่าจะพบตัวชิงเฮ่อแล้ว” เขาพูดจบสองตาที่แดงก่ำก็มีน้ำตาคลอเบ้าอย่างกลั้นไม่อยู่อีกต่อไป

อู๋ชิงเฮ่อ? ผู้จัดการของโรงงานผลิตยาตงย่าที่สงสัยว่าถูกฆ่าตายแต่ยังหาศพไม่พบมาโดยตลอดก่อนหน้านี้คนนั้นหรือ

“เขาอยู่ไหนครับ” ซูเสวี่ยจื้อใจหายวาบ เธอซักไซ้ทันที แม้ว่าในใจเธอจะมีลางสังหรณ์ไม่ดีผุดขึ้นมาแล้ว

ดูจากท่าทางนี้ของด็อกเตอร์อวี๋ จะต้องเป็นข่าวร้ายมากกว่าข่าวดีแน่นอน

หลังจากโรงงานผลิตยาตงย่าล้มละลายเมื่อปีที่แล้วก็ถูกโรงงานผลิตยาอีกแห่งหนึ่งซื้อกิจการไป ขณะนี้อยู่ในระหว่างซ่อมแซมดัดแปลงอยู่ ตอนเที่ยงคนงานกำลังระบายน้ำในบ่อน้ำเสียที่ทิ้งร้างไว้ กลับพบศพในสภาพเน่าเปื่อยแทบเหลือแต่กระดูกตรงก้นบ่อ ทำให้ทุกคนนึกไปถึงอู๋ชิงเฮ่อที่หายสาบสูญไปพักก่อน จึงไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ซุนเมิ่งเซียนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก รีบรุดไปที่นั่นด้วยตนเอง ทว่ายังพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลไม่ได้ทันทีทันใด เขาสั่งปิดโรงงานชั่วคราวและห้ามคนนอกเข้าออก บอกว่าจะดำเนินการชันสูตรศพสรุปผลว่าเป็นใคร

“ต้องเป็นชิงเฮ่อแน่ๆ ต้องเป็นเขาแน่นอน คนพวกนั้นฆ่าเขาแล้วโยนทิ้งลงบ่อน้ำเสีย ชั่วช้าสารเลว! ไอ้พวกคนชั่วสมควรตาย”

ด็อกเตอร์อวี๋ร้องไห้น้ำตานองหน้า ตัวสั่นระริก หน้าซีดเผือดกะทันหัน เขายกมือเกาะผนังและล้มลงอย่างช้าๆ

สุขภาพของเขาไม่แข็งแรงอยู่แต่เดิม พอมาเจอเรื่องแบบนี้ เป็นเหตุให้สะเทือนใจมากเกินไปถึงหมดสติ

ซูเสวี่ยจื้อตกใจยกใหญ่ รีบเร่งปฐมพยาบาลจนเขาฟื้นขึ้นมา แต่เห็นว่าอัตราการเต้นของหัวใจกับความดันโลหิตของเขาไม่คงที่นัก กลัวเขาจะเป็นอะไรไป เธอจึงเรียกพวกเจี่ยงจ้งไหวมาช่วยพาเขาไปโรงพยาบาลในสังกัดโดยไม่รอช้า

เจี่ยงจ้งไหวไม่อิดออดสักคำ แบกด็อกเตอร์อวี๋ขึ้นหลังออกไปพร้อมกับเพื่อนนักเรียนสองสามคน ส่วนเธอตามอยู่ข้างหลัง ช่วยกันนำตัวเขาส่งโรงพยาบาล

หลังให้ยารักษาอาการของด็อกเตอร์อวี๋ก็เริ่มคงที่ในที่สุด เขานอนอยู่บนเตียงคนไข้อย่างสะลึมสะลือและหลับไป

เธอขอบอกขอบใจเจี่ยงจ้งไหวกับเพื่อนๆ แล้วบอกให้พวกเขากลับไปพักผ่อน

เมื่อเพื่อนนักเรียนไปแล้ว ซูเสวี่ยจื้อนั่งอยู่บนเก้าอี้นอกห้องฉุกเฉินคนเดียวอย่างใจลอย จังหวะนี้เองมีเสียงฝีเท้าระลอกหนึ่งลอยมาจากนอกประตูใหญ่กะทันหัน มีคนกำลังเดินมาทางนี้

เธอนึกว่าเป็นผู้ป่วยมาหาหมอกลางดึก พอเงยหน้าขึ้นกลับเห็นผู้ใต้บังคับบัญชาของอธิบดีกรมตำรวจซุนเมิ่งเซียนที่ชื่อว่าเหยาเหนิงคนนั้น เขาพาลูกน้องหลายคนตามมาหาเธอถึงที่นี่

ท่าทางของเหยาเหนิงอ่อนน้อมอย่างยิ่ง เขาเล่าเรื่องที่พบศพในบ่อน้ำเสียของโรงงานผลิตยาตงย่าตอนกลางวันจบแล้วพูดตบท้ายว่า “เพราะสภาพศพเน่าเปื่อยมาก พวกผมสุดปัญญาจะพิสูจน์ตัวบุคคลได้ แต่ว่าวันนี้ข่าวแพร่ออกไปแล้ว มีนักข่าวที่รู้เรื่องนี้แห่กันมาเป็นโขยงเพื่อรอฟังแถลงสรุป ผมรู้ว่าคุณมีความเชี่ยวชาญด้านนี้ ก่อนหน้าก็เคยช่วยพวกผมมาแล้วครั้งใหญ่ ดังนั้นท่านอธิบดีจึงส่งผมมาเชิญคุณ ไม่ทราบว่าคุณจะไปช่วยอีกสักครั้งได้ไหมครับ”

ซูเสวี่ยจื้อสงบสติอารมณ์แล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้ช้าๆ

ในเวลานี้เองรถยนต์คันหนึ่งห้อตะบึงมาถึงประตูทางเข้าโรงพยาบาล เหยียบห้ามล้อดังเอี๊ยดหยุดจอดอยู่หน้าประตู

เธอหันหน้าไปเห็นผู้ชายสวมชุดทหารคนนั้นเปิดประตูลงมาจากรถ

แสงไฟตรงหน้าประตูโรงพยาบาลส่องกระทบใบหน้าแฝงรอยเหนื่อยอ่อนจากการเดินทางของคนคนนั้น

เฮ่อฮั่นจู่เองหรือนี่!

เขาสาวเท้าก้าวใหญ่เดินฝ่าสายตาประหลาดใจของทุกคนเข้ามาหยุดอยู่หน้าเธอ หันไปบอกกับเหยาเหนิงเสียงราบเรียบ “ทางผมมีงานต้องให้เขาช่วยเหลือ บอกอธิบดีซุนให้หาคนอื่นมาทำงานนี้”

เขาพูดจบแล้วทิ้งเหยาเหนิงไว้ที่เดิม ไม่ได้ถามความเห็นของซูเสวี่ยจื้อก็ยื่นมือจับแขนเธอไว้เบาๆ กึ่งเชิญกึ่งบังคับพาตัวเธอออกจากประตูใหญ่ เดินตรงดิ่งที่ไปรถแล้วใช้มืออีกข้างเปิดประตูรถให้

“ขึ้นรถเถอะ” เขาบอกเสียงเบาๆ คำหนึ่งก่อนรุนหลังเธอให้เข้าไปในรถแล้วปิดประตู

 

* เดอะแลนซิต (The Lancet) วารสารทางการแพทย์ที่เก่าแก่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในโลกของประเทศอังกฤษ

* เพนิซิลเลียม (Penicillium) เป็นเชื้อราชนิดหนึ่งที่อยู่ในอาณาจักรฟังไจ (fungi) เพนิซิลเลียมบางชนิดใช้ในการผลิตยาเพนิซิลลิน บางชนิดสามารถนำมาใช้ในการทำเนยแข็ง และยังสามารถนำมาใช้ในการบำบัดสารมลพิษทางชีวภาพ

 

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 13 เม.. 67 

5 of 5หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com