บทที่หนึ่งร้อยยี่สิบหก
สิบเก้านาฬิกาตรง เฮ่อฮั่นจู่ไปถึงคฤหาสน์สกุลเฉาตรงเวลา เฉาเจาหลี่ ลูกชายคนโตที่เกิดกับภรรยาหลวงของท่านประธานาธิบดีออกมาต้อนรับเขาด้วยตนเอง
เฉาเจาหลี่อายุสามสิบเศษ ไว้หนวดเขี้ยวเหนือริมฝีปากงามโก้เก๋ สวมสูทคู่รองเท้าหนังแลดูภูมิฐานมีสง่าราศี แม่ของเขาเป็นภรรยาคนแรกของท่านประธานาธิบดี นิสัยอ่อนหวานเป็นกุลสตรีและเป็นแม่ศรีเรือน โชคร้ายที่เธอด่วนจากไปก่อนสามีจะก่อร่างสร้างตัวได้ ด้วยเหตุนี้แม้ว่าพ่อของเขาจะมีผู้หญิงอื่นอีกหลายคน แต่ยังระลึกถึงภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากไม่เคยลืมเลือน ส่งผลให้ลูกชายคนนี้พลอยได้รับความสำคัญไปด้วย อีกทั้งอบรมบ่มเพาะเขาทุกทางตั้งแต่วัยเยาว์ ช่วงสมัยราชวงศ์ชิงในอดีตยังเคยส่งเขาเดินทางตามคณะทูตซึ่งเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในราชสำนักไปต่างประเทศเพื่อเปิดหูเปิดตา
หลังพ่อของเขาได้เป็นประธานาธิบดี เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาว่าใช้ระบบอุปถัมภ์ ประธานาธิบดีเฉาพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกชายและเครือญาติรับตำแหน่งใดๆ เท่าที่จะทำได้มาโดยตลอด ยกเว้นลูกชายคนโตคนนี้เป็นกรณีพิเศษ เพราะเป็นลูกที่ได้ดั่งใจเขามาก อีกทั้งมีความสามารถโดดเด่น ชั้นเชิงแพรวพราว จึงให้ติดตามอยู่ข้างกายเสมอ โดยเฉพาะช่วงหลายปีนี้ เมื่อก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด ท่านประธานาธิบดีรับรู้ถึงคลื่นใต้น้ำรอบตัวได้อย่างชัดเจน ผู้อยู่ใต้อาณัติแบ่งฝักแบ่งฝ่ายชิงดีชิงเด่นกัน เกิดปัญหาขัดแย้งไม่น้อย เขาเริ่มผลักดันส่งเสริมลูกชายคนโตอยู่ลับๆ ก็เหมือนคำภาษิตที่ว่าน้ำขึ้นเรือย่อมลอยสูงตาม* รอบตัวเฉาเจาหลี่จึงรายล้อมไปด้วยคนเก่งจากทุกสาขาอาชีพกลุ่มหนึ่ง จนมีพวกช่างสังเกตตั้งฉายาเป็นเชิงกระเซ้าให้ลับหลังว่า ‘กลุ่มรัชทายาท’
เฉาเจาหลี่พูดคุยยิ้มแย้มขณะนำทางเฮ่อฮั่นจู่เข้าสู่ด้านใน
ขณะนี้โถงรับแขกของคฤหาสน์สกุลเฉาประดับประดาด้วยแสงไฟสว่างไสว ท่านประธานาธิบดียังไม่ออกมา เฉาเจาหลี่จึงพาแขกไปพบท่านผู้หญิงเฉาก่อน
ท่านผู้หญิงเฉานั่งอยู่บนที่นั่งล้อมรอบด้วยบรรดาสะใภ้และลูกชายหลานชายมากมายของสกุลเฉา เธอแต่งกายหรูหรา ท่าทางสูงศักดิ์น่าเกรงขาม
แต่คุณหนูสิบสองไม่ได้ปรากฏตัวด้วย
เหตุผลที่เธอไม่ออกมา ข้อแรกเพราะสกุลเฉาเป็นครอบครัวยุคเก่า ยึดถือขนบธรรมเนียมอย่างเคร่งครัด ยามมีแขกมาเยี่ยมเยือน นอกจากพวกสะใภ้ที่มีอาวุโสแล้ว เด็กรุ่นหลานอย่างเธอไม่มีสิทธิ์ออกมาพบแขกได้ตามใจชอบ ข้อสองเพราะทุกคนรู้จุดประสงค์ที่เฮ่อฮั่นจู่ได้รับเชิญมางานเลี้ยงที่คฤหาสน์สกุลเฉาคืนนี้ ในเมื่อเกี่ยวกับการผูกดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะออกมาตอนนี้เป็นการลดเกียรติตนเอง
พ่อบ้านสกุลเฉายื่นของขวัญเยี่ยมคารวะมอบให้ท่านผู้หญิงเฉาแทนแขก
เป็นขนมหวานห้ามงคลจากร้านชื่อดังของย่านเหล่าซีเหมินสองกล่องกับไม้เท้าทำจากไม้จันทน์สลักลายนูนต่ำเป็นตัวอักษรจีนหุ้มทองสองตัวแปลว่าอายุมั่นขวัญยืน
ไม่ถือเป็นของล้ำค่าราคาแพงนัก แต่ก็แสดงถึงความตั้งใจจริง
หลังมอบของขวัญและคำนับท่านผู้หญิงเฉา เฮ่อฮั่นจู่ยืนอยู่กลางห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์สกุลเฉาด้วยใบหน้าประดับรอยยิ้มน้อยๆ ท่ามกลางสายตานับไม่ถ้วนที่จับจ้องอยู่อย่างพินิจพิจารณาจากรอบทิศทาง
ถึงคืนนี้เขาจะแต่งตัวธรรมดาๆ สวมเครื่องแบบทหารตามปกติเท่านั้น ทว่าท่วงท่าสง่าผึ่งผาย สีหน้าสงบเยือกเย็น ประกอบกันเป็นบุคลิกลักษณะที่เด่นสะดุดตาไม่เหมือนใคร
ท่านผู้หญิงเฉาเกิดในครอบครัวคหบดีชนบท ยังถือความเชื่อที่ว่าผู้หญิงที่ดีไม่ต้องมีวิชาความรู้ เธออ่านหนังสือไม่ออกสักตัว แต่ช่วงบั้นปลายชีวิตได้พึ่งใบบุญลูกชาย กลายเป็นชนชั้นสูงถึงพร้อมด้วยทรัพย์สินเงินทองและชื่อเสียงเกียรติยศในชั่วข้ามคืน ตามความรู้สึกของเธอ ตนเองในเวลานี้ก็ไม่ต่างจากไทเฮาในอดีต แม้ว่าเธอจะใจดีดุจแม่พระและเอื้อเฟื้อเจือจานคนยากคนจน แต่กับเด็กรุ่นหลังที่บังอาจหยามหน้าครอบครัวเธอมาก่อน เธอกลับอภัยให้ง่ายๆ ไม่ได้
วันนี้ท่านผู้หญิงเฉาได้ยินว่าเวลานี้หลานชายสกุลเฮ่อที่เคยสร้างวีรกรรมเจ้าชู้จนลือกระฉ่อนไปทั่วคนนั้นไม่มีคนหนุนหลังแล้ว เลิกวางท่าหยิ่งยโสอย่างก่อนหน้านี้ จะกลับมาขอสานสัมพันธ์ดังเดิม
บ้านสกุลเฉาเป็นที่ที่อยากมาก็มาอยากไปก็ไปรึ ในความนึกคิดของท่านผู้หญิงเฉา สำหรับคนที่ไม่รู้ดีรู้ชั่วพรรค์นี้ ถ้าไม่สั่งสอนให้รู้สำนึกสักตั้งก็ถือว่าให้เกียรติเหลือหลายแล้ว เผอิญว่าคืนนี้ลูกชายที่เป็นประธานาธิบดีเป็นคนเชิญอีกฝ่ายมา เธอจะคัดค้านก็ทำไม่ได้
ท่านผู้หญิงเฉามองสำรวจชายหนุ่มตรงหน้าปราดหนึ่งก่อนเอ่ยขึ้นว่า “เธอคือหลานชายสกุลเฮ่อหรือ ได้ยินชื่อเธอมานานแล้ว ในที่สุดก็ได้เห็นหน้าค่าตาสักที ถ้าไม่ใช่เพราะคราวก่อนเสียเวลาไป อาหารมื้อนี้คงไม่ต้องรอเก้อจนตอนนี้ถึงได้กิน ช่างเถอะ มาแล้วก็ดี เธอทำใจสบายๆ บ้านสกุลเฉาเราไม่ใช่พวกใจแคบคิดเล็กคิดน้อยว่าใครถูกใครผิดพรรค์นั้น”
สิ้นเสียงหญิงชราภายในห้องโถงก็เงียบกริบ ชาวสกุลเฉาพากันมองเฮ่อฮั่นจู่ด้วยสีหน้าแตกต่างกันไป
เฮ่อฮั่นจู่ยังยิ้มน้อยๆ ดังเก่าขณะพูดอย่างอ่อนน้อมว่า “คำอบรมสอนสั่งของผู้อาวุโส ผมขอน้อมรับไว้ครับ”