บทที่หนึ่งร้อยสามสิบ
เยี่ยอวิ๋นจิ่นดึงหมวกของเสื้อคลุมบนศีรษะลงเผยใบหน้าออกมา
แสงเทียนไหววูบวาบส่องสะท้อนดวงหน้าของหญิงวัยกลางคนที่ยังคงความงามไว้ หากแต่สีหน้ากลับเย็นชามาก
“ฉันนึกว่าคุณใกล้จะไม่รอดแล้วเลยมีเรื่องอยากสั่งเสียซะอีก” เธอมองสำรวจอีกฝ่ายขึ้นๆ ลงๆ รอบหนึ่งก่อนเอ่ยเสียงกระด้าง
ความรู้สึกที่ซุกซ่อนไว้ลึกๆ ในใจมาตลอดหลายปีกำลังพลุ่งพล่าน พาให้น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยร่องรอยประชดประชันส่อเสียดทิ่มแทง
ร่างของจ้าวมังกรเจิ้งหยุดชะงักอยู่ใต้แสงไฟสลัวๆ ข้างโต๊ะในห้อง
“อวิ๋นจิ่น…ฉันขอโทษ ฉันทำให้เธอผิดหวัง…”
ชั่วขณะนี้ราชามังกรที่ผาดโผนโจนทะยานในวงการนักเลงมาตลอดชีวิตไม่หลงเหลือความห้าวหาญให้เห็นอีก เสียงพูดของเขาทุ้มเบา “เธอจะโทษฉันอย่างไรก็สมควรดีอยู่แล้ว…”
เยี่ยอวิ๋นจิ่นไม่อยากฟังเขาพูดแบบนี้แม้สักนิด
“ขอโทษอะไรกัน คุณไม่โทษที่ตอนนั้นฉันบังคับคุณ ฉันก็ต้องขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว” เธอยังพูดกระแทกแดกดันต่อ
จ้าวมังกรเจิ้งยิ้มฝืดๆ แล้วเงียบไป
“จู่ๆ อยากเจอฉัน มีธุระอะไรกันแน่” เธอพูดเสียงห้วนด้วยสีหน้าเคร่งเครียดยิ่งขึ้น
จ้าวมังกรเจิ้งยืนนิ่งๆ อีกชั่วอึดใจ ก่อนจะกล่าวเสียงเนิบนาบในที่สุด “เสวี่ยจื้ออยู่ทางโน้นมีคนรักแล้ว”
เยี่ยอวิ๋นจิ่นตกตะลึง เธอฉุกคิดถึงเรื่องที่ลูกสาวเคยทะเลาะกับเธอก่อนไปเมืองเทียนเมื่อปีก่อน “เป็นใครกัน”
“หลานชายสกุลเฮ่อ” จ้าวมังกรเจิ้งเอ่ยตอบ
“ใครนะ คุณบอกว่าใครนะ หลานชายสกุลเฮ่อ…” เยี่ยอวิ๋นจิ่นคิดตามทันแล้ว เธอเบิ่งตาอย่างประหลาดใจ เดินสองสามก้าวไปตรงหน้าจ้าวมังกรเจิ้งพลางยื่นสองมือไปจับแขนเขาสุดแรง
“คุณบอกว่าใครนะ เฮ่อฮั่นจู่หรือ ฉันว่านะ คุณนี่แก่จนชักจะหลงๆ ลืมๆ แล้ว พูดจาเลอะเทอะ จะเป็นเขาได้อย่างไรกัน เสวี่ยจื้อเรียกเขาว่าคุณน้า เดือนที่แล้วเขายังอุตส่าห์มาถึงบ้านฉัน ตกปากรับคำเองว่าจะช่วยดูแลเสวี่ยจื้อ…”
ทันใดนั้นเยี่ยอวิ๋นจิ่นนึกไปถึงตอนเฮ่อฮั่นจู่มาเยี่ยมบ้านแล้ววางตัวผิดจากทั่วไป ยังมีท่าทีเคารพอ่อนน้อมต่อเธอเป็นพิเศษ รวมถึงของขวัญล้ำค่าเกินไปพวกนั้น…
เธออ้าปากค้างอย่างตกใจ เสียงพูดขาดหายไปกะทันหัน
หรือจะเป็นความจริง
ลูกสาวไปอยู่ที่นั่นแล้วชอบพอกับหลานชายคนนี้ของสกุลเฮ่อจริงๆ หรือนี่
เยี่ยอวิ๋นจิ่นก็บรรยายความรู้สึกในใจขณะนี้ไม่ถูกเช่นกัน แค่รู้สึกว่าตะลึงพรึงเพริดไปหมดและสุดแสนจะประหลาดชอบกล เธอไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น
เธอพยายามสงบสติอารมณ์แล้วเพ่งตามองคนตรงหน้า “ลูกสาวฉันกับหลานชายสกุลเฮ่อมันอย่างไรกันแน่ คุณบอกฉันมาให้รู้เรื่องนะ”
เธอขบกรามแน่น แทบจะพูดประโยคนี้ลอดไรฟันออกมาแบบช้าๆ ชัดๆ
จ้าวมังกรเจิ้งพูดเสียงต่ำๆ “นั่งลงก่อน…”
“บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ เรื่องของสองคนนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหน” สุ้มเสียงของเยี่ยอวิ๋นจิ่นแฝงโทสะระคนวิตก
แม้ว่าตอนนี้กาลเวลาจะขัดเกลาเธอให้สุขุมเยือกเย็นขึ้น ไม่เป็นคนวู่วามใจร้อนอย่างเมื่อสมัยสาวๆ แต่พอเจอกับเรื่องที่เกี่ยวพันถึงลูกสาวคนเดียวแบบนี้ เธอจะอดกลั้นได้อย่างไรกัน
จ้าวมังกรเจิ้งรู้นิสัยของเธอดี เขาเริ่มพูดอธิบายโดยไม่รอช้า “อย่าเพิ่งร้อนใจ ตอนแรกที่ฉันรู้ว่าพวกเขาสองคนชอบพอกันเป็นความบังเอิญเท่านั้น ฉันมีเพื่อนเก่าอยู่ในเมืองเทียน หลังจากเสวี่ยจื้อไปที่นั่นเมื่อปีที่แล้ว ฉันขอให้เขาช่วยสอดส่องดูแลเสวี่ยจื้อ ประมาณหนึ่งเดือนก่อนวันสิ้นปีเก่า ฉันได้ข่าวว่าเสวี่ยจื้อเกือบต้องเคราะห์ร้ายเพราะหลานชายสกุลเฮ่อ”
เยี่ยอวิ๋นจิ่นจ้องเขาตาเขม็ง “เรื่องอะไร”