ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 189-190 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 189-190

บทที่ 190

สองวันให้หลังที่เมืองเทียน ผู้อำนวยการเหอไปถึงวิทยาลัยแต่เช้าตามปกติ ช่วงเวลาอาหารเช้านักเรียนมากมายมายืนอออยู่หน้าจุดติดประกาศ ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์เซ็งแซ่ ดูเหมือนจะมีการติดประกาศใหม่ตรงนั้น

เขาจำไม่ได้ว่าวันนี้ทางวิทยาลัยมีเรื่องใหม่จะประกาศจึงสาวเท้าเข้าไป นักเรียนเห็นผู้อำนวยการมาก็พากันหันมาโค้งคำนับ พอได้ยินเขาถามว่าดูอะไรกันอยู่ ทุกคนต่างทำสีหน้าชอบกลๆ มองหน้ากันไปมา แต่กลับไม่มีคนตอบคำถาม

ผู้อำนวยการเหอฉงนใจจึงเดินฝ่ากลุ่มนักเรียนไปด้านหน้าจุดติดประกาศเองแล้วเงยหน้าขึ้นมอง เห็นกระดาษข้อความเขียนด้วยลายมือสิบกว่าแผ่นติดอยู่บนนั้นอย่างสะเปะสะปะ พอเขาอ่านจับใจความได้ ไฟโทสะก็พลุ่งขึ้นในอกทันควัน ยกนิ้วขึ้นชี้พร้อมถาม “ใครเป็นคนแปะ!”

พวกนักเรียนส่ายหน้ากันใหญ่ หนึ่งในนั้นบอกว่าตอนผ่านมาทางนี้เมื่อเช้าก็เห็นมันอยู่ตรงนี้แล้ว น่าจะเป็นใครก็ไม่รู้แอบเอามาแปะไว้ตั้งแต่เมื่อคืน

ผู้อำนวยการเหอดึงกระดาษข้อความหลายแผ่นด้านหน้าออก นักเรียนหลายคนที่อยู่ใกล้ๆ เข้ามาช่วยอีกแรง เขาสั่งให้แยกย้ายเดี๋ยวนี้ ทุกคนเห็นเขาโมโหโทโสแล้วไม่กล้ากระทั่งหายใจเสียงดัง รีบสลายตัวไปคนละทิศคนละทาง

ผู้อำนวยการเหอเข้าไปในห้องทำงานแล้วดูกระดาษข้อความที่เพิ่งถูกขยำจนยับหลายแผ่นนั่น พอจะอ้าปากเรียกผู้ช่วยให้ไปตามหัวหน้าฝ่ายวิชาการมาเพื่อตรวจสอบว่าเป็นฝีมือใครกันแน่ กลับเห็นผู้ช่วยทำท่าละล้าละลัง เลยถามว่ามีเรื่องอะไร

ผู้ช่วยรู้ว่าซูเสวี่ยจื้อเป็นลูกศิษย์คนโปรดที่ผู้อำนวยการเหอภาคภูมิใจมากที่สุด แม้จะเรียนจบไปแล้ว แต่อาจารย์กับลูกศิษย์คู่นี้ยังติดต่อส่งข่าวถึงกันบ่อยๆ จึงลังเลใจอยู่บ้าง ทว่าก็รู้แก่ใจว่าคงปิดบังเรื่องนี้ไม่ได้ เขายื่นหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าของวันนี้ส่งให้ พูดอึกๆ อักๆ ว่าเมื่อครู่นี้เขาบังเอิญเห็นข่าวเล็กๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ในหนังสือพิมพ์เหมือนกัน

ผู้อำนวยการเหอรับมาเปิดดูอย่างตกใจ เห็นหน้าในมีบทวิจารณ์ซึ่งใช้นามปากกาที่ไม่รู้จัก หัวข้อคือ ‘ว่าด้วยการยกระดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาล’ ส่วนเนื้อหาเป็นการเขียนแจกแจงถึงพฤติกรรมด้านลบต่างๆ นานาของหน่วยงานรัฐส่วนใหญ่ และเรียกร้องให้ปฏิรูประบบราชการ โดยยกตัวอย่างว่ามีนายทหารระดับสูงทรงอำนาจคนหนึ่งไม่คำนึงถึงเกียรติของตน มีความสัมพันธ์ต้องห้ามกับเจ้าหน้าที่ของรัฐอีกคนของกรมสาธารณสุขมาเป็นเวลายาวนาน การกระทำเช่นนี้ขัดต่อประเพณีและศีลธรรมอันดีงาม ก่อให้เกิดผลกระทบเลวร้ายต่อสังคม ถึงจะไม่ได้ระบุชื่อ แต่บอกตำแหน่งอย่างชัดเจน ขอแค่เป็นคนที่ปกติสนใจเรื่องนี้อยู่สักหน่อยก็เดาได้ไม่ยากว่าสองคนนี้เป็นใคร

พอผู้อำนวยการเหอเห็นคำว่า ‘เลี้ยงต้อย’ ในเนื้อความ เขาก็เอาหนังสือพิมพ์ฟาดโต๊ะเต็มแรงอย่างสุดทน “เหลวไหลทั้งเพ! เป็นถึงหนังสือพิมพ์ใหญ่ที่นำเสนอข่าวให้ประชาชนกลับลงบทความแบบนี้ ใส่ร้ายป้ายสี สกปรกสิ้นดี! ใครเป็นคนบงการ น่าอัปยศจริงๆ น่าอัปยศอดสูที่สุด”

ถึงเมื่อสองวันก่อนจะเกิดเหตุร้ายขึ้นในคืนงานแต่งงานของสกุลหวัง แต่เมื่อพิจารณาจากเหตุผลทุกด้านแล้วจึงมีคำสั่งให้ปิดเรื่องนี้ไว้ห้ามลงข่าว ด้วยเหตุนี้ผู้อำนวยการเหอจึงไม่รู้ว่าเฮ่อฮั่นจู่ปรากฏตัวอีกครั้งแล้ว ยังนึกว่าเขาอยู่ที่เมืองอื่น อีกทั้งไม่รู้ว่าซูเสวี่ยจื้อออกจากเมืองหลวงไปแล้วเช่นกัน

หลังจากความโกรธคลายลงผู้อำนวยการเหอก็สงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว คนพวกนั้นต้องการโจมตีเฮ่อฮั่นจู่เพื่อทำลายชื่อเสียงและบารมีของเขา และยังทำได้ทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ในเมื่อมีกระดาษข้อความถูกแปะติดไว้ที่นี่ ทางซูเสวี่ยจื้อก็ต้องโดนหางเลขด้วยแน่ ผู้อำนวยการเหอเป็นห่วงนักเรียนของตนเองเป็นอันดับแรก แต่ขณะคิดจะโทรศัพท์ติดต่อซูเสวี่ยจื้อ อาจารย์คนหนึ่งก็มาหาอย่างร้อนรน บอกว่ามีพวกรับจ้างเขียนข่าวซุบซิบอ้างตัวเป็นนักข่าวมาชุมนุมกันอยู่ด้านนอกเป็นโขยง ทำท่าทำทางลับๆ ล่อๆ อยากจะแอบเข้ามาสัมภาษณ์นักเรียนเลยโดนยามหน้าประตูขวางไว้ แต่ไล่ไปแล้วก็ย้อนมาใหม่ไม่ยอมกลับไปเหมือนแมลงวันตอม อาจารย์คนนั้นถามว่าจะทำอย่างไรดี

ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนรับมือไม่ทันยิ่งทำให้ผู้อำนวยการเหอมั่นใจว่าเรื่องนี้มีคนชักใยอยู่เบื้องหลัง เขาสะกดกลั้นความโกรธไว้แล้วสั่งให้ปิดประตูใหญ่อย่างแน่นหนา ไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาทั้งสิ้น จากนั้นโทรศัพท์ไปโรงงานที่ชานเมืองทิศตะวันตกโดยไม่รอช้า ทว่าไม่มีคนรับสาย เขาจึงโทรศัพท์ไปหาท่านจง แต่สายไม่ว่างตลอด ขณะร้อนอกร้อนใจผู้ช่วยของเขาก็วิ่งพรวดพราดเข้ามา ชูจดหมายในมือฉบับหนึ่ง บอกเสียงดังว่า “ผู้อำนวยการครับ เมื่อครู่มีคนส่งจดหมายมา บอกว่าได้รับไหว้วานจากเสี่ยวซู ขอให้ท่านเปิดอ่านด้วยตนเองครับ”

ผู้อำนวยการเหออึ้งไปแล้วรีบรับมาเปิดออกอย่างลุกลี้ลุกลน

ซูเสวี่ยจื้อเขียนจดหมายฉบับนี้ไว้ล่วงหน้าแต่แรก และถูกส่งออกมาเมื่อสองวันก่อน

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com