ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 2 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 2

หากไม่ใช่เพราะโชคดี คราวนี้เกรงว่าพี่ชายคงจบชีวิตกลางทางไปแล้ว ถึงตอนนั้นคงพูดกันว่าเจอโจรป่าแล้วจะไปร้องทุกข์ที่ไหนได้

อีกอย่างเรื่องนี้ไม่ใช่ว่าสละตำแหน่งประธานสมาคมการค้าแล้วจะจบลง ต่อให้พี่ชายเธอยกตำแหน่งนี้ให้ แต่เสือสองตัวย่อมอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ สวินต้าโซ่วจะต้องหาทางฮุบกิจการและส่วนแบ่งทางการตลาดของสกุลเยี่ยไป ส่วนเธอทางนี้ก็ต้องโดนลูกหลงไปด้วย

เว้นแต่ว่าเธอกับพี่ชายเต็มใจยอมแพ้ ยกทุกสิ่งทุกอย่างที่บากบั่นทำมาครึ่งค่อนชีวิตให้คนอื่นไปเปล่าๆ

เธอไม่ได้วิตกกังวลมากเกินกว่าเหตุ แต่เรื่องในวันนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้น

เยี่ยอวิ๋นจิ่นย่นหัวคิ้วจนแทบชนกัน

“อวิ๋นจิ่น ที่พี่กลับมาคุยกับเธอก็เกี่ยวกับเรื่องนี้ล่ะ”

เยี่ยหรู่ชวนดูมีกำลังวังชาขึ้นมาในพริบตา “เธอยังจำสกุลเฮ่อได้ไหม สมัยก่อนครอบครัวเขามีหลานชายที่ร่างกายไม่แข็งแรงมาตั้งแต่เกิดต้องกินโสมป่าบำรุงอยู่ตั้งนานไม่ใช่เหรอ”

เยี่ยอวิ๋นจิ่นชะงักไป “สกุลเฮ่อ?” เธอนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง “พี่หมายถึงสกุลเฮ่อของท่านตาคนที่เป็นญาติห่างๆ ที่พวกเราเคยไปเยี่ยมตอนปีใหม่หลายครั้งเมื่อสิบกว่าปีก่อนหรือ”

“ใช่ สกุลเฮ่อนั้นนั่นล่ะ”

เยี่ยหรู่ชวนลืมตัวตบขาตนเองทีหนึ่งแล้วก็ทำหน้าเหยเกสูดปาดดังซี้ดทันควัน เขาเห็นน้องสาวลุกขึ้น ด้วยสีหน้าห่วงใยก็รีบโบกมือไปมา “ไม่เป็นไรๆ เธอฟังพี่พูดก็พอ ครั้งนั้นตอนเกิดเรื่องขึ้น หลานชายของสกุลเฮ่อคนนั้นอายุสิบกว่าขวบเท่านั้น ร่างกายก็ยังไม่ปกติดี นึกไม่ถึงเลยว่าไม่เพียงรอดตายมาได้ แต่เขายังรับราชการมีตำแหน่งไม่เล็กเลย เรียกได้ว่าเป็นคนหนุ่มอนาคตไกลในแวดวงสังคมตอนนี้ ดูเหมือนว่าสกุลเฮ่อจะกลับมาผงาดอีกครั้งแล้ว!”

เยี่ยอวิ๋นจิ่นนิ่งอึ้ง เธอนั่งลงช้าๆ ตามเดิม ก่อนพูดขึ้นว่า “แล้วจะมีอะไรล่ะ เดิมทีสกุลเฮ่อกับสกุลเยี่ยของเราก็ไม่ถือเป็นญาติกันจริงๆ สักหน่อย แต่ก่อนที่ไปมาหาสู่กันก็เป็นพวกเราเข้าหาเอง ทางเขาให้เกียรติถึงให้พวกเราเข้าไปโขกศีรษะคารวะผู้หลักผู้ใหญ่ พี่ไปนับพี่นับน้องกับหลานชายเขาอย่างเต็มปาก แล้วฝ่ายนั้นเคยเรียกพี่ว่าพี่ชายสักคำหรือเปล่า กลัวว่าแม้แต่พี่หน้าตาเป็นแบบไหนเขายังไม่รู้เลย ยิ่งกว่านั้นเมื่อก่อนตอนเกิดเรื่องกับสกุลเฮ่อ พวกเราไม่ได้ยื่นมือช่วยเหลืออะไร ตอนนี้เขาลืมตาอ้าปากแล้ว จะไปหาถึงบ้านเอ่ยปากนับญาติอีกได้อย่างไร”

แม่ของเธอกับนายหญิงสกุลเฮ่อเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ห่างกันหลายชั้นจนแทบไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดแล้ว ความสัมพันธ์ระดับนี้หากเป็นในอดีตมีตระกูลหนึ่งทำผิดต้องโดนประหารเก้าชั่วโคตร อีกตระกูลก็คงไม่ถูกตัดคอ เยี่ยอวิ๋นจิ่นถึงพูดอย่างนี้

เยี่ยหรู่ชวนพูดยิ้มๆ “เธอพูดถูกจุดเลย พี่จะบอกเธอตามตรง ตอนนั้นพี่เคยช่วยพวกเขาไว้ครั้งหนึ่ง”

พอเห็นน้องสาวทำสีหน้าแปลกใจ เขาก็อดลำพองอยู่บ้างไม่ได้ แต่ไม่อมพะนำต่อ “สิบกว่าปีก่อนตอนสกุลเฮ่อโดนยึดทรัพย์ คนทั้งตระกูลนับร้อยชีวิตที่หนีก็หนีไป ที่ถูกขายก็ถูกขายไป วันหนึ่งมีคนค้าทาสมาหาพี่ถามว่าอยากซื้อสาวใช้ไว้ปรนนิบัติพัดวีไหม บอกว่ามาจากสกุลเฮ่อ อ่านออกเขียนได้ ฉลาดหัวไว หน้าตาจัดว่าชั้นหนึ่ง แค่ว่าราคาแพงอยู่สักหน่อย พี่เลยไปดู ถึงรู้ว่าเป็นหลานสาวที่ชื่อเหมยอะไรสักอย่างของเหล่าหลิ่วพ่อบ้านเก่าแก่ของสกุลเฮ่อ พี่เคยเห็นหน้าเมื่อครั้งไปเยี่ยมเยียนสกุลเฮ่อคารวะท่านตา เวลานั้นหลานของเหล่าหลิ่วน่าจะยังอายุไม่ถึงยี่สิบเลย พี่คิดว่าถ้าต้องหมดอนาคตไปอย่างนี้ก็น่าเสียดายเลยซื้อไว้ พอได้ยินเธอบอกว่ายังมีญาติพี่น้องอยู่ที่บ้านเดิม ตอนหลังพี่ก็ส่งเธอไปที่นั่น

ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร แค่รู้สึกว่าสกุลเฮ่อตกอับเสียแล้ว แต่อย่างไรในอดีตก็เคยไปเยี่ยมเยียนแนะนำตัวเป็นญาติและเอื้อเฟื้อช่วยเหลือกันมาก่อน ในเมื่อเจอกันแล้ว จะไม่ยื่นมือช่วยก็ไม่ดี อีกอย่างใช้เงินไม่กี่ตำลึงเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าหลายเดือนก่อนเพื่อนเก่าของพี่ที่เป็นข้าราชการกรมศึกษาธิการในเมืองหลวงจะกลับมาปฏิบัติงานที่นี่ พี่จัดงานเลี้ยงต้อนรับแล้วได้ยินข่าวคราวของหลานชายสกุลเฮ่อคนนั้น บอกว่าเดี๋ยวนี้เขามีหน้ามีตามาก เพียงแต่ตอนแรกๆ ไม่รู้ว่ามีเสียงเล่าลือจากไหนว่าเขาเป็นพวกใจดำอำมหิต ไม่ใช่คนดิบดีอะไร มีคนจบชีวิตด้วยน้ำมือเขาตั้งมากเท่าไรก็ไม่รู้ เพื่อนพี่เชื่อว่าเป็นความจริงเลยเลิกสนใจไป ไม่นึกว่ามีหนหนึ่งได้พบกันโดยบังเอิญถึงรู้ว่าเป็นคนถิ่นเดียวกัน เขากลับอ่อนน้อมถ่อมตนเกินคาด มีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่ วางตัวดีเยี่ยม เพราะอย่างนี้เพื่อนพี่ถึงจำได้ไม่ลืม พูดชมเขากับพี่ไม่ขาดปาก ยังว่าพอพูดกันปากต่อปากมากเข้า จากเรื่องโกหกก็กลายเป็นเรื่องจริงได้ พวกข่าวลือนี่แย่จริงๆ ทำให้คนเสียชื่อเปล่าๆ ทีนี้พี่นึกไปถึงเรื่องสมัยก่อนโน้น เลยไหว้วานเพื่อนฝูงส่งจดหมายต่อให้ พี่เขียนเล่าไปในนั้นนิดๆ หน่อยๆ ทีแรกไม่ได้ตั้งความหวังอะไร แต่โดนบีบจนตรอกแล้ว ถึงได้ด้านหน้าลองเสี่ยงดวงดูเท่านั้นเอง คิดไม่ถึงว่าไม่นานก็ได้รับคำตอบจากทางนั้นแล้ว”

หงเหลียนยกน้ำแกงกระดูกหมูที่เคี่ยวจนเป็นสีขาวขุ่นเข้ามาเมื่อครู่ ตอนนี้จึงกำลังรับฟังอย่างใจจดใจจ่อ เธออดพูดเร่งไม่ได้ “นายท่านเยี่ย แล้วทางนั้นว่าอย่างไรเจ้าคะ”

“หลานชายสกุลเฮ่อฝากคนมาบอกว่าเขาได้ยินมาว่ามีลูกหลานครอบครัวเราเรียนแพทย์อยู่ในเมืองเฉิงตู ตอนนี้เขตที่เขาอยู่ทางนั้นมีวิทยาลัยแพทย์ทหารบกกำลังรับสมัครนักเรียนเลยบอกให้ไปสอบดู ขอแค่ผลคะแนนผ่านเกณฑ์และเรียนจบได้อย่างราบรื่น อีกหน่อยเขาอาจช่วยฝากเข้ารับราชการในกรมสาธารณสุขได้”

ดวงตาของเขาเป็นประกายวาววับ

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com