“จริงสิ!” หงหลิงเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ “ตอนจี๋ฟู่จากไป ได้ทิ้งของไว้ชิ้นหนึ่ง ข้าเก็บเอาไว้มาโดยตลอด ในเมื่อวันนี้รองตุลาการมาแล้ว ก็เอามันกลับไปด้วยเถอะ”
“เป็นของอะไรหรือ” ชิงโม่เหยียนเอ่ยถาม
“หุ่นไม้ตัวหนึ่ง”
ไม่นานหงหลิงก็หยิบของสิ่งนั้นกลับเข้ามา ก่อนจะมอบมันให้ชิงโม่เหยียน
ชิงโม่เหยียนตกตะลึง นั่นเป็นของที่เด็กเท่านั้นจะเล่น บนหุ่นไม้ยังสวมกระโปรงที่ตัดด้วยผ้าลายดอก มีขนาดเท่ากับความสูงของหรูเสี่ยวนันเท่านั้น
แต่หุ่นไม้ธรรมดาตัวหนึ่งนี้กลับมีใบหน้าที่ใช้หยกขาวแกะสลัก ดูแล้วทำให้คนเกิดความรู้สึกประหลาดใจจริงๆ
ชิงโม่เหยียนถือหุ่นไม้ในมือพลิกดูไปมาพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย ตามที่เขารู้มา เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนสารศาลต้าหลี่จี๋ฟู่ไม่มีลูก
“นี่เป็นของที่เขาทิ้งไว้จริงหรือ” ชิงโม่เหยียนรู้สึกไม่อยากเชื่อ
หงหลิงพยักหน้าเอ่ย “จริงเจ้าค่ะ”
รุ่นเอ๋อร์เจี่ยพูดอย่างไม่พอใจนัก “ถ้าเป็นของที่แขกทิ้งเอาไว้ สาวๆ ในหอนี้ล้วนจะเก็บรักษาไว้ให้แขกทุกคนชั่วคราว พวกนางไม่มีทางจำผิดแน่นอน”
ชิงโม่เหยียนพยักหน้าพลางกล่าวว่า “เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะเอามันกลับไปก่อน”
จากนั้นชิงโม่เหยียนมือหนึ่งถือหุ่นไม้ อีกมืออุ้มหรูเสี่ยวนันออกจากหอเชียนเล่อไป
ตอนที่จะขึ้นม้า ชิงโม่เหยียนเอาหุ่นไม้มาใส่ไว้ในมืออีกข้างหนึ่ง หุ่นไม้แตะโดนตัวหรูเสี่ยวนัน
เพียงพริบตา หรูเสี่ยวนันรู้สึกเหมือนมีลมชั่วร้ายปะทะเข้ามา ทำให้ขนทั่วตัวของนางพองขึ้นมาทันที
ชิงโม่เหยียนขึ้นไปนั่งบนม้าแล้ว ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเจ้าตัวเล็กในอ้อมอกเตะขาหลังอย่างแรง ก่อนที่จะกระโดดออกมาจากอ้อมอกของเขาในทันใด
“เจ้าตัวเล็ก?!”
หรูเสี่ยวนันกระโดดออกจากอ้อมอกของชิงโม่เหยียนแล้ว เท้าทั้งสี่แตะพื้นดิน ขนทั่วตัวก็พองขึ้นทันที
“มานี่” ชิงโม่เหยียนเรียก สีหน้าดูไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง
ในลำคอของชะมดเช็ดส่งเสียง “ครืดๆ” ดูท่าทางเหมือนข่มขู่ ไม่ยอมเข้าใกล้ชิงโม่เหยียนแต่โดยดี
ชิงโม่เหยียนจึงต้องลงจากม้า เดิมคิดจะจับเจ้าตัวเล็กนั้นไว้ ผลปรากฏว่าชะมดเช็ดกระโดดคล่องแคล่ว หลบมือของเขาได้
ชิงโม่เหยียนคว้าลมและเห็นเจ้าตัวเล็กถอยหลังไปอีกครั้งก็เกิดความหงุดหงิดในใจขึ้นมา
“หยุดอยู่ตรงนั้นอย่าขยับ” เสียงของชิงโม่เหยียนดูเย็นชามาก
นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวเล็กแสดงอาการรังเกียจเขาตอนที่เข้าใกล้ เขารู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง