“อะไรกันคะ ลูกค้าธนาคารของคุณให้ของขวัญมา คุณก็เลยเอากับเขาด้วยเหรอ”
เฉิงจยาโหย่วหัวเราะอย่างกระอักกระอ่วนนิดๆ “ถ้าไม่พูดแบบนั้นคุณจะยอมรับไว้เหรอ บูธโรงพยาบาลของคุณอยู่ด้านตะวันตกของห้องจัดเลี้ยงครับ”
“ฉันต้องทำอะไรบ้างคะ…ผู้จัดการเฉิง”
“มีงานเสวนาเรื่องการดูแลสุขภาพของสัตว์เลี้ยง หลังจากนั้นก็จะเป็นช่วงฟรีครับ ถึงตอนนั้นถ้าคุณเหนื่อยจะกลับก่อนก็ได้นะ”
เฉิงจยาโหย่วรับสายจูงไปจากมือของสวีเจ้าอิ่ง เขาอุ้มพีพีไว้ในอ้อมแขนแล้วไปทักทายแขกเหรื่อในงานพลางแนะนำพีพีกับลูกสุนัขตัวอื่นๆ แต่น่าเสียดายที่พีพีดูไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
ตอนนี้เองที่สวีเจ้าอิ่งเพิ่งรู้ว่างานมีตติ้งสัตว์เลี้ยงแสนรักนี้จัดขึ้นเพื่อลูกค้าที่มากันเป็นครอบครัว พวกแขกวีไอพีล้วนพาครอบครัวมาออกงานด้วยกัน มิน่าเธอกับเฉิงจยาโหย่วถึงต้องสวมชุดคู่รักเพื่อให้เข้ากับงาน และไม่น่าแปลกที่เฉิงจยาโหย่วจะขอเธอว่าอย่าโมโหและไว้หน้าเขาบ้าง เพราะพวกเขายังไม่ทันได้บอกชะตาแปดอักษร ก็ถูกมองว่าเป็นครอบครัวเดียวกันเสียแล้ว ถ้าเธอไม่ถูกตาต้องใจเฉิงจยาโหย่ว คาดว่าคงชักสีหน้าใส่เขาไปนานแล้ว
ธนาคารฮุ่ยต๋าจัดกิจกรรมเพื่อตอบแทนลูกค้ารายใหญ่ด้วยความเอาใจใส่อย่างดีมาก ไม่เพียงมีโรงพยาบาลสัตว์เท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมส่งเสริมธุรกิจประเภทความสวยความงามและการบำรุงสุขภาพอีกด้วย ภายในห้องจัดเลี้ยงมีแต่แบรนด์ดังๆ เจ้าขนปุยทั้งหลายก็ล้วนมีแต่ตัวที่ขนสวยสุขภาพดี นิสัยร่าเริง มองปราดเดียวก็รู้ว่าได้รับการเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี
ทว่าพีพีไม่ใช่สุนัขพันธุ์แท้ แถมยังไม่สบายด้วย ดังนั้นเรื่องความร่าเริงจึงแทบไม่ต้องพูดถึง สวีเจ้าอิ่งเห็นแล้วก็อดรู้สึกสะท้อนใจไม่ได้ เพราะโชคชะตาของสัตว์เลี้ยงก็เหมือนมนุษย์ บางตัวเกิดมามีอาหารกระป๋องและนมสำหรับสุนัขในชามให้กินได้ไม่มีหมด แต่บางตัวกลับมีอาหารกินไม่ครบสามมื้อ และยังต้องหัดดูสีหน้าคนเลี้ยงอีก ดีที่ดวงของพีพียังไม่ถือว่าตกอับ เพราะได้เจอกับเจ้าของอย่างเฉิงจยาโหย่ว
สวีเจ้าอิ่งตั้งใจต้อนรับแขก เธอขึ้นเวทีไปเพื่อเสวนาสร้างสีสันให้แก่แขกเหรื่อในงาน และเนื่องจากสวีเจ้าอิ่งออกกล้องในรายการโทรทัศน์ของเซี่ยงไฮ้อยู่บ่อยๆ ทำให้ชาวเมืองที่เป็นคนรักสัตว์ต่างคุ้นหน้าคุ้นตาเธอดี ระหว่างการเสวนาหญิงสาวไม่เพียงได้รับเสียงปรบมือดังกึกก้องเท่านั้น แต่หลังจบกิจกรรมแล้วเธอยังเป็นคนที่ป็อปปูล่าร์มากที่สุด หญิงสาวถูกห้อมล้อมด้วยผู้คนเพื่อขอให้ตอบคำถามเกี่ยวกับการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงแสนรักและการดูแลแบบทั่วๆ ไป แถมยังต้องแจกลายเซ็นอีก
แม้สวีเจ้าอิ่งจะรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังคงฝืนแจกลายเซ็นให้ทุกคน
“ฉันฟังการเสวนาของอาจารย์สวีทางทีวีอยู่บ่อยๆ วันนี้ถึงเพิ่งรู้ว่าคุณเป็นภรรยาของผู้จัดการเฉิง ฉันได้ยินผู้จัดการเฉิงพูดถึงภรรยาของเขาเป็นประจำ การได้พบกับคุณในวันนี้ถือว่าเป็นเกียรติมากเลยค่ะ” คุณนายร่างอวบอ้วนคนที่มาขอลายเซ็นจากสวีเจ้าอิ่งยิ้มแฉ่งจนหน้าแดง
“เอ่อ…” ได้ยินคำเรียกอย่าง ‘ภรรยา’ แล้ว สวีเจ้าอิ่งก็ยิ่งรู้สึกประดักประเดิด
ระหว่างที่เธอกำลังงุนงง เฉิงจยาโหย่วก็โผล่มาอยู่ข้างกายเธอ เขาต่อบทสนทนากับคุณนายคนนั้นทันที “ต่อไปถ้ามีปัญหาอะไรเชิญถามเจ้าอิ่งได้ทุกเมื่อเลยนะครับ เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ที่จบจากเมืองนอกมา”
“แน่นอนค่ะ ธนาคารฮุ่ยต๋าของพวกคุณจัดกิจกรรมได้ดีมาโดยตลอด แถมวันนี้ยังให้คูปองมาตั้งเยอะแยะอีก ฉันล่ะชอบมากจริงๆ”
เฉิงจยาโหย่วยิ้มรับก่อนจะให้พนักงานมาพาคุณนายไปดูประกันแบบล่าสุด ทำให้สวีเจ้าอิ่งโล่งอก
“ฉันจำได้ว่าตัวเองเป็นโสด ทำไมวันนี้ถึงกลายเป็นคนแต่งงานแล้วไปได้ล่ะคะ” สวีเจ้าอิ่งถามยิ้มๆ
เฉิงจยาโหย่วกำหมัดแล้วโค้งตัวให้เธอไม่หยุด “ไว้ชีวิตกระผมสักครั้งเถิดขอรับ ผมไม่มีคู่ แต่ไม่อยากหาเพื่อนผู้หญิงคนอื่นก็เลยต้องขอให้คุณมา”