ร่างกายที่เดิมทียังอ่อนแอ เนื่องจากเขาถ่ายพลังมาให้จึงไม่อ่อนปวกเปียกไร้เรี่ยวแรงอีก แต่ช่วงแรกยังคงรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย นางไม่มีเวลาคิดมาก รู้ว่าโอกาสผ่านไปแล้วย่อมไม่ย้อนกลับมาอีก คนที่อยู่นอกประตูเป็นสตรีผู้หนึ่ง นางได้ยินเขาพูดคุยกับอีกฝ่าย จึงคว้ามีดทำครัวที่เขาใช้หั่นยาและทิ้งไว้บนโต๊ะเตี้ยก่อนจะพุ่งออกไป
เขาหันหลังให้ นางเงื้อมีดขึ้นและฟันไปที่หลังเขาอย่างแรง แต่ชายผู้นี้เหมือนมีตาหลัง แทบจะในเวลาเดียวกับที่นางฟันลงมาเขาก็เบี่ยงตัวหลบ
นางไม่พยายามจะโจมตีเขาอีก ฉวยโอกาสนี้พุ่งผ่านข้างกายเขาไป จับตัวหญิงที่อยู่นอกประตูไว้แล้วลากตัวไปยังพื้นหญ้าหน้าบันได สร้างระยะห่างที่ปลอดภัยกับชายหนุ่มที่ยืนอยู่บนขั้นบันไดหน้าประตู
จังหวะที่สัมผัสร่างกายของหญิงผู้นี้ นางก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่รู้วรยุทธ์ นางพาดมีดทำครัวลงบนลำคอเพรียวบางงดงาม จับอีกฝ่ายให้หมุนตัว ก่อนจะถลึงตาใส่คนสารเลวที่ยังคงยืนอยู่บนชานเรือนพลางขู่เสียงเย็น
“อย่าขยับ ถ้าเจ้ากล้าขยับ ข้าจะฆ่านางเสีย”
คำพูดนี้ทำให้เขาชะงักเท้าและจ้องมองนาง
“เจ้าคิดจะทำอะไร”
“ข้าจะออกไป” นางจ้องเขาอย่างขุ่นขึ้ง พยายามตวาดเสียงเย็นแต่ยังคงหอบเล็กน้อย “ปล่อยข้าออกไป”
สารเลวแซ่ซ่งผู้นั้นมองนางจากที่สูง นางยังคิดว่าเขากำลังพิจารณา คิดไม่ถึงว่าอึดใจต่อมากลับได้ยินเขาตอบว่า
“ไม่ได้”
ชั่วขณะนั้นนางเดือดดาลกว่าเดิม หางตากระตุกเล็กน้อย กดใบมีดสีเงินวาววับลงบนคอของหญิงสาวข้างหน้า
“เจ้าไม่กลัวข้าจะฆ่านางหรือ”
เขาชำเลืองมองหญิงสาวที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จากนั้นมองนางแล้วกระดกมุมปาก รอยยิ้มเต็มหน้า ตอบอย่างจริงจัง
“ไม่ เทียบกับไป๋ลู่แล้ว เจ้าน่าสนใจกว่ามากนัก”
คนผู้นี้ช่างน่าโมโหจริงๆ!
ที่ทำให้นางโมโหยิ่งกว่าคือตนสามารถรับรู้ถึงความคิดและความรู้สึกในใจของหญิงสาวที่นางจับเป็นตัวประกันได้อย่างชัดเจน
หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าไป๋ลู่ผู้นี้ได้ยินเขาพูดเช่นนั้นแล้วกลับไม่โกรธ ไม่เกลียด ถึงขั้นไม่โมโหเจ้าคนที่ไร้คุณธรรมผู้นี้เลยแม้แต่น้อย นางเชื่อมั่นในตัวบุรุษตรงหน้าโดยสมบูรณ์ ต่อให้ตายก็ยินดี
ตายก็ยินดี?!
นี่มันความคิดอะไร นี่มันบ้าอะไรกัน?!
ไฟกองหนึ่งลุกโหมในใจชั่วพริบตา
ในเมื่ออยากตาย ข้าจะสงเคราะห์เจ้า!
นางทำใจให้เด็ดเดี่ยว เงื้อมีดขึ้นทำท่าจะแทงลงไปบนหน้าอกของหญิงโง่ผู้นี้อย่างแรง…
คิดไม่ถึงว่าพอเงื้อมือและแทงลงไปจะมีคนกระโจนเข้ามาจากข้างหลังกะทันหัน คว้ามือที่กำมีดของนางและแย่งมีดไป นางถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว ทั้งอับอายและโมโห หันไปคำรามพลางกระโจนเข้าใส่เจ้าคนที่ลอบโจมตี ทว่าชายผู้นั้นหลบการโจมตีของนางได้ สะบัดนางจนลอยไปกลางอากาศ แทบจะในเวลาเดียวกันนางเห็นซ่งอิ้งเทียนใช้เท้าสะกิดพื้น พุ่งตรงเข้ามาทางนี้
นางตื่นตระหนก แต่สารเลวที่ลอบโจมตียังคงจับมือนางไว้ นางบิดตัวกลางอากาศ ยกเท้าขึ้นถีบไปที่หน้าอกของคนผู้นั้น