ทดลองอ่าน จอมอหังการผู้นี้คือสามีข้า บทที่ 5-บทที่ 6 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

จอมอหังการผู้นี้คือสามีข้า

ทดลองอ่าน จอมอหังการผู้นี้คือสามีข้า บทที่ 5-บทที่ 6

จ่างซุนเสินหรงเดินอย่างราบรื่นไม่ติดขัด สามารถมุ่งไปได้เรื่อยๆ สำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องจะต้องนึกว่านางเคยมาแล้วเป็นแน่

จ่างซุนซิ่นไม่ได้ขี่ม้าตั้งนานแล้ว เขาคอยเดินเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ จ่างซุนเสินหรง ในที่สุดทุกคนก็ลงมาเดินด้วยกันกับนางทั้งหมด

เส้นทางที่ลงจากเขามีลำธารไหลเอื่อยอยู่สายหนึ่ง จ่างซุนเสินหรงมองดูภูเขารอบด้านแล้วก็มองดูสายน้ำที่ไหลเอื่อยสายนั้นอีกครั้ง จากนั้นหันหน้ามองไปทางทิศเหนือ สายตาก็เปลี่ยนเป็นจ้องเขม็งทันที แนวกำแพงด่านชายแดนที่ยิ่งใหญ่โอฬารแถบหนึ่งพาดขวางยึดครองอยู่ตรงหว่างกลางอย่างน่าประทับใจ ยืดขยายออกไปตามแนวสันเขาประเดี๋ยวขึ้นประเดี๋ยวลงราวกับมังกรตัวยาวกำลังดำผุดดำว่าย

จ่างซุนซิ่นก็เห็นแล้วเช่นกัน “ที่แท้ก็อยู่ห่างจากด่านชายแดนไม่ไกล”

จ่างซุนเสินหรงกลับคิดว่า ไม่แปลกเลยที่วันนั้นตงไหลจะถูกซานจงจับไปได้ คิดมาถึงตรงนี้ แม้แต่กำแพงชายแดนที่ทอดยาวประหนึ่งมังกรแถบนั้นก็ถูกนางตวัดสายตาใส่ไปวงหนึ่งด้วยเช่นกัน

 

บนกำแพงด่านมีคนกลุ่มหนึ่งเพิ่งจะลาดตระเวนมาถึงตรงนี้

มือของหูสืออีวางป้องอยู่บนหน้าผากมองลงไป และร้องออกมาอย่างประหลาดใจ “เหตุใดถึงเป็นคุณหนูเอาแต่ใจตัวผู้นั้นอีกแล้ว!” เขาหันมองที่ข้างตัว “ท่านหัวหน้าเห็นหรือไม่”

ซานจงหางตากระตุกไปเล็กน้อย

“ที่นั่นอย่างไร!” หูสืออีกลัวว่าเขาจะมองไม่เห็น ยังเข้ามาใกล้ๆ ชี้ทิศทางให้เขาด้วย

คนกลุ่มนั้นก็อยู่ที่เชิงสันเขาแห่งนี้เอง เสื้อคลุมกันลมสีเขียวอ่อนของหญิงสาวที่อยู่ตรงกลางกำลังพลิ้วสะบัดอยู่ท่ามกลางสายลม

หูสืออีพึมพำ “ท่านหัวหน้า ท่านว่าหลายวันมานี้พวกเราเกิดอันใดขึ้นกันแน่ ถึงได้เจอกับคุณหนูเอาแต่ใจตัวผู้นั้นอยู่เรื่อย! พวกเขามาทำอะไรกันแน่ แล้วยังวิ่งมาที่ภูเขาลูกใหญ่นี้อีก เห็นคำสั่งห้ามของพวกเราเป็นของปลอมเช่นนั้นรึ”

ซานจงกอดดาบไว้ในวงแขน เมื่อพิงกำแพงมองลงไปก็เห็นจ่างซุนเสินหรงในทันทีจริงๆ เสียด้วย พลันนึกตำหนินางว่าช่างโดดเด่นเสียจริง ทั้งรูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ใบหน้าด้านข้างขาวปานหิมะ ยามแสงตะวันอาบไล้ราวกับเปล่งแสงออกมาชั้นหนึ่ง สะดุดตาถึงเพียงนี้คิดจะไม่ดูก็ยากนัก จากนั้นเขาก็เห็นจ่างซุนเสินหรงหันหน้าไปมองหอคอยมุมกำแพงอีกด้านหนึ่ง

สายตาของเขาดีเยี่ยม พบว่าท่าทางเช่นนี้ของนางเหมือนกับกำลังมองค้อนอย่างเย็นชาอยู่ อะไรกัน กำแพงด่านยั่วโมโหนางหรือ เขาหยักยกมุมปากอย่างขบขัน ยืนตัวตรงขึ้นมาแล้วเคาะฝักดาบที่กำแพงทีหนึ่ง “ไม่ต้องไปสนใจว่าพวกเขาจะทำอะไร ขับไล่ไปเสีย”

หูสืออีได้ยินในใจก็หดวูบ นี่คือให้ข้าไปขับไล่? ไม่ดีกว่านะ ข้าสู้ไม่ชนะคุณหนูเอาแต่ใจตัวผู้นั้นหรอก

ซานจงหันกายเดินลงไปจากกำแพงแล้ว ดวงตากวาดมองไปทางนอกด่าน ตอนที่เก็บสายตากลับมาก็แอบกวาดไปทางจ่างซุนเสินหรงอีกแวบหนึ่ง พบว่านางกำลังแหงนหน้ามองภูเขา ก่อนหน้านี้ไฉนถึงไม่รู้เลยว่าอดีตภรรยาของเขายังเป็นคนที่ชอบพื้นที่แถบชายแดนด้วย

เขาเพิ่งจะลงจากบนกำแพงมาก็มีเสียงขลุ่ยแหลมดังมาจากที่ไกลๆ เสียดแทงเข้าสู่โสตประสาทอย่างกะทันหัน ฝีเท้าซานจงหยุดลงทันที พริบตาเดียวก็เคลื่อนไหวร่างประดุจเงา “เร็ว!”

คนทั้งกลุ่มตามมาทันเขา ก่อนพากันทะยานขึ้นหลังม้าควบออกไปอย่างรวดเร็ว นี่คือการแจ้งข่าวของหน่วยสอดแนมที่ยามมีสถานการณ์ของศัตรูถึงจะส่งออกมา

 

จ่างซุนเสินหรงยืนอยู่ที่ริมลำธารก็ได้ยินเสียงในเวลานั้นด้วยเหมือนกัน จึงหันมองไปรอบหนึ่ง กลับถูกลักษณะของภูเขาที่อยู่ตรงกันข้ามดึงดูดความสนใจไป หลังจากมองอยู่สักพักนางก็เอ่ยปาก “ภูเขาดิน”

ตามความรู้ความเข้าใจของสกุลจ่างซุน เขาแต่ละลูกมีคุณสมบัติตามธาตุทั้งห้า* ภูเขาลูกที่อยู่ตรงข้ามนี้ยอดเขาราบเรียบและทรงของตัวภูเขาเป็นสี่เหลี่ยม นี่คือลักษณะของธาตุดินในธาตุทั้งห้า อย่างไรก็ตามแนวสันเขาของมันที่ยืดขยายยาวออกไปมากก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไปโดยปริยายแล้ว การเปลี่ยนแปลงที่ก่อเกิดกันและกัน ยับยั้งกันและกัน ควบคุมกันและกัน เปลี่ยนแปรกันและกันเหล่านี้นี่เองที่ก่อให้เกิดเป็นลักษณะพื้นที่ของสถานที่นี้ขึ้น ดังนั้นหากต้องการหาแร่ให้พบ ก็จะต้องยึดกุมศาสตร์ของพื้นที่ที่นี่ให้ได้เสียก่อน นี่ก็คือการสำรวจภูมิลักษณ์

จ่างซุนซิ่นยืนอยู่ข้างๆ ผงกศีรษะ “เรื่องนี้ข้าก็ดูออกแล้ว แต่ยังมีอย่างอื่นอีกหรือไม่”

จ่างซุนเสินหรงพูดว่า “ไปถึงตรงหน้าสำรวจดูหน่อยก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ” ตอนที่พูดเท้านางก็ก้าวไปแล้ว ทันใดนั้นประกายเย็นเยียบสายหนึ่งก็พุ่งมา ปักเฉียงๆ เข้าที่กลางลำธารตรงหน้านาง และยังคงสั่นไหวไม่หยุด

นางนิ่งอึ้งไปแล้วถึงได้มองเห็นชัดเจนว่านั่นคือดาบที่ตรงและเรียวบางเล่มหนึ่ง นางหันไปอย่างตกตะลึง ก็เห็นคนและม้ากลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามา

คนที่นำหน้ามาสวมเสื้อสีดำขี่ม้าสีดำพุ่งตรงเข้ามา เมื่อถึงแล้วก็ก้มตัวลงดึงดาบขึ้นมา “ถอยไป!”

เสียงยังไม่ทันขาดหายตัวคนก็จากไปแล้ว จ่างซุนเสินหรงเพียงเห็นเขาหันหน้ากลับมาอย่างรวดเร็วแวบหนึ่ง ในดวงตาประหนึ่งบ่อน้ำลึกล้ำ คมกริบเหมือนใบมีดที่ตัดคอคน ตอนที่หันกลับไปกีบเท้าม้าก็ควบตะบึงอย่างรวดเร็วจนน้ำสาดกระเซ็นขึ้นสู่ท้องฟ้ากระจายไปทั่ว นางเพียงทันได้หลับตาเท่านั้น น้ำพลันสาดกระเซ็นจนเปียกไปหมดทั้งร่าง

“ประมุขน้อย”

“อาหรง!”

ตงไหลกับจ่างซุนซิ่นวิ่งมาคุ้มครองนางแทบจะพร้อมกัน คุ้มกันนางให้ถอยไปหลายก้าว ถึงได้ไม่เลวร้ายถึงขั้นที่ทำให้ผู้อื่นที่ตามหลังซานจงมาติดๆ ล่วงเกินนางได้อีก

หูสืออีที่อยู่ด้านหลังยังตะโกนตามมาอีก “ได้ยินแล้วหรือไม่ รีบไปเสีย!”

เสื้อคลุมของจ่างซุนเสินหรงเปียกน้ำ ผมของนางแนบติดหน้าผากอย่างน่าอเนจอนาถ ยามลมฤดูใบไม้ร่วงพัดมาพาให้นางหนาวจนสั่นไปทั้งร่าง นางกัดริมฝีปากแน่น จ้องไปยังทิศทางที่บุรุษผู้นั้นจากไป เขาถึงกับขว้างดาบมาที่นางเลยหรือ

จื่อรุ่ยมองจนตื่นตะลึงไปแล้ว หลังจากได้สติกลับมาก็รีบให้คนไปก่อไฟ

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in จอมอหังการผู้นี้คือสามีข้า

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com