บทที่ 6
จ้าวจิ้นเหลียนก็เฉลียวฉลาดอยู่เหมือนกัน เขาได้ไปสอบถามถึงน้องสาวที่ได้รับการพะเน้าพะนอตามใจอย่างล้นเหลือผู้นี้ของรองเสนาบดีจ่างซุนมาก่อนแล้ว ตอนนี้เมื่อนางเอ่ยปากนั่นก็คือเห็นชอบกับข้อเสนอของเขาแล้ว
“ก็ดี เช่นนั้นเรื่องคำสั่งห้ามก็นับว่าได้รับการแก้ไขแล้ว” เขาตั้งใจมองไปทางซานจงที่อยู่ฟากนั้น เพราะที่พูดนี้ก็เพื่อให้ซานจงฟัง จากนั้นก็พูดกับจ่างซุนซิ่นว่า “ข้าได้จัดเตรียมที่พักเพิ่มเติมให้แก่ท่านทั้งสองแล้ว ท่านรองเสนาบดีกับน้องสาวของท่านเดินทางกลับไปในเมืองและย้ายที่พักก่อนจะดีกว่า”
เปิดภูเขาขุดหาแร่ไม่ใช่เรื่องภายในวันสองวัน ไหนเลยจะให้คนของตระกูลใหญ่อันสูงศักดิ์มากอำนาจที่มาจากฉางอันไปพักอยู่ในจุดพักม้าที่มีผู้คนไปมาอยู่ตลอดเป็นเวลานานๆ ได้ นี่เป็นมารยาทอันพึงมีของเขาผู้มีฐานะเป็นผู้ว่าการ
จ่างซุนซิ่นมองไปทางผ้าม่านแวบหนึ่ง แล้วก็ได้แต่พยักหน้า
การสำรวจภูมิลักษณ์จึงหยุดลงชั่วคราว คนทั้งหมดกลับเข้าเมือง
ผ้าม่านกำบังถูกเอาออกไป เสื้อผ้าของจ่างซุนเสินหรงผิงไฟจนใกล้จะแห้งแล้ว นางห่อหุ้มร่างอยู่ในเสื้อคลุมกันลมของพี่ชาย สวมหมวกที่ติดอยู่กับตัวเสื้อ ถูกจื่อรุ่ยประคองออกมา
จ้าวจิ้นเหลียนยากนักที่จะได้เห็นขุนนางจากเมืองหลวงออกเดินทางแล้วยังจะนำน้องสาวมาด้วย จึงพินิจนางมากขึ้นเป็นพิเศษ นางมีหมวกคลุมปิดอยู่ เห็นแค่เพียงริมฝีปากที่อ่อนนุ่มชุ่มชื้นของนาง ช่วงกรามขาวประหนึ่งหิมะ ใบหน้าด้านข้างไปจนถึงลำคอมิต่างกับภาพวาดจากปลายพู่กันที่นุ่มนวลเป็นอิสระ เขาแอบทอดถอนใจ ไม่เสียทีที่เป็นหญิงงามแห่งฉางอัน ก็ไม่รู้ว่าไปเสียเปรียบคุณชายลูกหลานตระกูลขุนนางบ้านใดมา
ทางอีกฟากหนึ่งนั้นมีเสียงม้าร้องคนเคลื่อนไหว ซานจงขึ้นม้าแล้ว
ตอนที่จ่างซุนเสินหรงขึ้นรถม้านางยันกรอบประตูชายตามองแวบหนึ่ง เห็นจ้าวจิ้นเหลียนเรียกซานจงให้กลับเข้าเมืองไปพร้อมกัน เขาอยู่บนหลังม้าดูเหมือนจะมองมาทางที่นางอีกครั้ง นางแสร้งเป็นมองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น แล้วก็เข้ารถไป
เนื่องจากผู้ว่าการโยวโจวยังคงตามมาอยู่ที่ด้านข้าง หลังจากเข้าเมืองแล้วจ่างซุนซิ่นหยุดสั่งให้จื่อรุ่ยพาคนกลับไปที่จุดพักม้าจัดการเก็บสัมภาระให้เรียบร้อย ส่วนตนเองกับจ่างซุนเสินหรงก็ตามจ้าวจิ้นเหลียนไปยังที่พักแห่งใหม่ก่อน
พวกเขาไม่คิดว่าจ้าวจิ้นเหลียนจะเรียกซานจงมาจริงๆ ด้านหลังรถม้าจึงมีเสียงกีบเท้าม้าที่ดังอย่างมีจังหวะเพิ่มมาอีกสองเสียง เป็นซานจงกับหูสืออี
จ่างซุนซิ่นทางหนึ่งคุ้มกันอยู่ที่ข้างรถม้าของจ่างซุนเสินหรง ทางหนึ่งก็ส่งสายตาไปทางด้านหลัง
จ้าวจิ้นเหลียนบังคับม้าเดินเคียงคู่ไปกับเขา พอเห็นเช่นนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ท่านรองเสนาบดีคงจะรู้จักกับผู้บัญชาการซานมาก่อนหน้านี้แล้ว เขาเองก็มาจากตระกูลเก่าแก่ในลั่วหยาง เพียงแต่หลายปีมานี้ไม่กลับไปแล้ว”
“ไม่รู้จัก” จ่างซุนซิ่นน้อยครั้งนักที่จะวางท่าเป็นขุนนางสักรอบหนึ่ง พูดเสียงดังว่า “ข้าเพียงรู้สึกว่าน่าเสียดาย มีบางคนที่ดูแล้วไม่ว่าเรื่องใดก็ดีไปเสียทุกอย่าง แต่ในความเป็นจริงแล้วสายตากลับไม่ดี”
จ้าวจิ้นเหลียนงุนงงไปหมด ตลอดทั้งปีเขาก็ทำงานอยู่แต่ในโยวโจว กับเรื่องภายในเมืองหลวงได้ยินได้ฟังมาไม่มากจึงไม่รู้สถานการณ์ของสองคนนี้ กลับรู้สึกไปว่าสกุลซานกับสกุลจ่างซุนดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์อะไรกันอยู่ แต่ขณะนี้ยังคงนึกไม่ออก
ทางด้านหลังหูสืออีสีหน้าแปรเปลี่ยน ลอบถามซานจงว่า “ท่านหัวหน้า เขาหมายความว่าอย่างไร อย่างท่านที่มีสายตาดีเยี่ยมเห็นได้ไกลถึงร้อยหลี่นั้น เขาถึงกับบอกว่าท่านสายตาไม่ดีหรือ”
ซานจงหยักยิ้ม “เขาไม่ได้เอ่ยชื่อบอกแซ่เสียหน่อย เจ้าก็รีบไปรับแทนข้าแล้ว?”
หูสืออีได้แต่ปิดปากเงียบไปอย่างห่อเหี่ยว
คำพูดของจ่างซุนซิ่นจะมากจะน้อยก็ดังเข้าไปในรถม้าด้วย
จ่างซุนเสินหรงนั่งพิงอยู่ ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงไม่รู้สึกว่าโกรธแต่อย่างใด ตรงกันข้ามนางกลับรู้สึกสบายอกสบายใจเหลือเกิน
ไม่มีใครพูดคุยอะไรอีก บนถนนที่ผู้คนสัญจรไปมาเว้นที่ตรงกลางให้ตลอดทาง พวกเขาจึงมาถึงสถานที่แล้ว
ทุกหนแห่งเงียบเหงา ที่เบื้องหน้ามีจวนพักขุนนางหลังหนึ่ง จ้าวจิ้นเหลียนให้เหอซื่อ* ผู้เป็นภรรยาจัดเตรียมไว้ เหอซื่อทำงานแคล่วคล่อง ได้นำคนมารออยู่ที่หน้าประตูแล้ว
จ่างซุนซิ่นวางท่าสุภาพงามสง่าขึ้นมาอีก เขาลงจากม้ามาคารวะทักทายเหอซื่อ พูดอย่างสุภาพนุ่มนวลว่าขณะนี้น้องสาวของเขาอยู่ในสภาพไม่ค่อยเหมาะสม จะขอเชิญนางพาน้องสาวเขาเข้าไปหลบลมก่อนจะได้หรือไม่
ใบหน้าเหอซื่อเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม มองสบตากับสามีแวบหนึ่ง เพียงรู้สึกว่าขุนนางที่เพิ่งมาใหม่ท่านนี้อัธยาศัยไมตรีดีเยี่ยม
จ่างซุนเสินหรงเหยียบที่วางเท้าลงมาจากรถ ก็ถูกมือคู่หนึ่งของสตรีที่ออกเรือนแล้วประคองแขนเอาไว้ “ท่านผู้นี้คงจะต้องเป็นน้องสาวของท่านรองเสนาบดีจ่างซุน เชิญตามข้ามา”
จ่างซุนเสินหรงมองดูเหอซื่อ เห็นอีกฝ่ายงามสง่า ใบหน้าเรียว ดูท่าทางชอบยิ้มเป็นอย่างมาก นางจึงผงกศีรษะเล็กน้อยนับเป็นการคารวะทักทายกลับแล้วตามเหอซื่อเข้าไป ตั้งใจจะไม่มองดูบุรุษผู้นั้นว่าอยู่ที่ใด
เหอซื่อได้ยินสามีพูดให้ฟังคร่าวๆ แล้ว รู้ว่าสตรีสูงศักดิ์ที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้มีความสำคัญอย่างที่สุด ตอนที่จัดเตรียมที่พักก็ได้คำนึงถึงอยู่ จึงจัดห้องหลักที่ดีที่สุดนั้นให้นาง
จวนหลังนี้ไม่ใหญ่ ตลอดทางก็เห็นบ่าวรับใช้เพียงไม่กี่คน จ่างซุนเสินหรงตามเหอซื่อเข้าไปในเรือนชั้นใน เดินเข้าไปในห้องหลัก เลื่อนหมวกที่คลุมศีรษะลงแล้วมองสำรวจไปรอบด้าน ดูไปดูมาคิ้วก็ขมวดขึ้นมาแล้ว