จอมอหังการผู้นี้คือสามีข้า
ทดลองอ่าน จอมอหังการผู้นี้คือสามีข้า บทที่ 5-บทที่ 6
ใบหน้านางช่างขาวราวหิมะไม่เหมือนกับคนอื่นๆ พอเกิดความไม่พอใจขึ้นแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มสีสันมีชีวิตชีวามากขึ้นไปอีก ซานจงมองใบหน้านาง รอยยิ้มที่มุมปากยังคงอยู่ หวนนึกถึงตอนที่ได้พบกันครั้งแรกนางก็เหมือนกับยามนี้ แต่ในความทรงจำเดิมก็ไม่ค่อยมีรูปร่างลักษณะของนางอยู่สักเท่าไร ที่แท้นี่ต่างหากถึงจะเป็นจ่างซุนเสินหรง
“อยู่ที่นี่หรือ” เสียงของจ้าวจิ้นเหลียนดังเข้ามา
จ่างซุนเสินหรงหันหน้ากลับไปมอง พี่ชายของนางกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับจ้าวจิ้นเหลียน หูสืออีก็ตามมาอย่างเชื่องช้า พอหันกลับมาอีกทีซานจงก็ยืนตัวตรงแล้ว ทั้งยังเว้นระยะห่างจากนางไปอีกหลายก้าว นางเม้มปากอย่างอดไม่ได้ คิดในใจว่า เมื่อครู่ก็ไม่รู้ว่าใครกันที่เป็นฝ่ายขวางทางข้าเอาไว้
“โยวโจวไม่อาจเทียบฉางอันได้ ที่พักขุนนางเรียบง่าย หวังว่าท่านทั้งสองจะไม่รังเกียจ” จ้าวจิ้นเหลียนมาถึงตรงหน้าก็เอ่ยทักทายปราศรัยก่อน
ดวงตาสองข้างของจ่างซุนซิ่นมองจ่างซุนเสินหรงแล้วก็วกกลับไปที่ตัวซานจง จากตัวซานจงก็วนกลับมาที่ตัวจ่างซุนเสินหรงอีก
คนหนึ่งยังเย็นชาไม่หาย อีกคนยังดูเสเพลไม่คลาย
ทันใดนั้นก็มีคนผู้หนึ่งวิ่งเหยาะๆ ตรงเข้าไปหาซานจง “คุณชายกลับมาแล้ว”
คนผู้นั้นคารวะไปทางซานจงก่อน แล้วค่อยคารวะพวกจ้าวจิ้นเหลียนไปทีละคนๆ ครั้นเห็นจ่างซุนซิ่นอยู่ตรงเบื้องหน้าก็ชะงักอึ้งไปเล็กน้อย กระทั่งหันไปทางจ่างซุนเสินหรงสีหน้าก็ตกใจในทันที มองนางไปมาอีกหลายรอบ แล้วค่อยหลุดปากอย่างตกใจ “ฮู…”
เสียงที่พูดขาดหายไปทันทีเนื่องจากมือข้างหนึ่งของซานจงหนีบเข้าที่ต้นคอของเขา พร้อมกับพูดเสียงหนัก “พูดให้มันดีๆ”
นัยน์ตาของคนผู้นั้นมองตรงแน่วอย่างฉับพลัน “ฮู…บริเวณใกล้ๆ ล้วนจัดการเรียบร้อยแล้ว ที่นี่สามารถให้ท่านผู้สูงศักดิ์ทั้งหลายพักได้อย่างวางใจ”
“อืม” ซานจงปล่อยเขา
ทุกคนล้วนเห็นฉากนี้กันหมด คนผู้นั้นก็คือพ่อบ้านของที่พักแห่งนี้
จ่างซุนเสินหรงกลับจำเขาได้ในทันทีที่เห็น เขาก็คือบ่าวรับใช้คนสนิทของซานจง ตอนนั้นก็คือเขานี่เองที่นำหนังสือขอแยกทางมามอบให้ถึงมือนาง นางยังจำนามเขาได้ นามว่า ‘ก่วงหยวน’
ก่วงหยวนยิ้มเหยเกขณะที่คารวะนาง “คารวะท่านผู้สูงศักดิ์”
จ่างซุนเสินหรงคิดๆ แล้วก็เข้าใจขึ้นมาทันที มองไปทางบุรุษที่ยืนห่างไปหลายก้าวผู้นั้น “ที่นี่คือจวนของท่าน?”
ซานจงขยับที่เกราะแขนเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้ามา
จ้าวจิ้นเหลียนอธิบาย “ใช่แล้ว ที่นี่เป็นจวนพักขุนนางของผู้บัญชาการซานจริงๆ แต่เขาไม่ค่อยได้ใช้ จึงมอบให้จวนว่าการของโยวโจวจัดการได้ตามสะดวก ตอนนี้ถึงได้ขอยืมให้ท่านทั้งสองพักอาศัยเป็นการชั่วคราวได้พอดี”
มิน่าเล่า การจัดวางเครื่องเรือนข้างในนั้นถึงได้เป็นเช่นนั้น เหอซื่อถึงได้พูดถึงเรื่องพวกนั้นกับนาง แยกทางกันไปแล้วกลับต้องมาตกอยู่ในรังของเขาอีก ในใจของจ่างซุนเสินหรงอดไม่ได้ที่จะเกิดความรู้สึกประหลาดพิกลขึ้นมาเล็กน้อย
จ่างซุนซิ่นที่อยู่ด้านข้างกระแอมกระไอเบาๆ ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ไปเชื้อเชิญให้ผู้ว่าการออกหน้า
ตัวซานจงเองกลับไม่ได้เคร่งเครียดกับเรื่องนี้ เดิมทีเรื่องที่มอบจวนพักขุนนางให้จวนว่าการเขาก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งด้วย จะให้ผู้ใดอยู่ก็เหมือนกัน ถ้าไม่ใช่เพราะมาด้วยกันในเที่ยวนี้เขาก็คงไม่รู้เรื่องนี้แม้แต่น้อย
“ถ้าไม่มีเรื่องอะไรข้าก็ควรจะกลับได้แล้ว” เขาประสานมือกำเป็นหมัด คารวะตามแบบของทหาร พอหันหลังคนก็เดินออกไปแล้ว
จ่างซุนเสินหรงมองไปทางเงาหลังของเขาที่พูดว่าไปก็ไปเลยด้วยสีหน้านิ่งเฉย แต่ในใจกลับคิดว่า …มาเพื่อบอกให้ข้าเปลี่ยนความตั้งใจเท่านั้นจริงๆ
ทันใดนั้นนางก็เห็นก่วงหยวนกำลังแอบมองตนอยู่ ราวกับว่ายังคงไม่กล้าจะเชื่อ พอถูกนางจับได้ก็เสก้มหน้ามองพื้นอีก…
ตอนที่ซานจงออกจากประตูหูสืออีก็ตามออกไปด้วย
“ท่านหัวหน้า ฉวยโอกาสตอนที่ท่านไม่อยู่เมื่อครู่นี้ข้าสืบได้ความจากท่านผู้ว่าการมาแล้ว ท่านจะว่าอย่างไร รองเสนาบดีผู้นั้นบอกว่าพวกเขาได้รับพระราชโองการให้มาที่นี่ แต่ที่แท้กลับมาเพื่อหาแร่”
ซานจงเดินพลางพูดไปด้วย “ก็ไม่แปลก เดิมเขาก็คือคนของกรมโยธาอยู่แล้ว”
หูสืออีนึกสภาพพวกหกกรม* ในเมืองหลวงไม่ออก แล้วก็ไม่ยินดีที่ตนเองไม่อาจไปขับไล่คุณหนูเอาแต่ใจตัวผู้นั้นอีก เขารู้สึกเพียงความอับจนปัญญา “งานที่ยุ่งยากอะไรเช่นนี้ หรือว่าพวกเราตกหลุมพรางแล้ว? จู่ๆ คำสั่งห้ามใช้กับพวกเขาไม่ได้แล้วไม่พอ ตอนนี้ยังอยากจะให้ท่านเป็นองครักษ์ของสตรีผู้นั้นอีก”
ซานจงยิ้มๆ นี่ไม่ใช่การตกหลุมพราง นางก็แค่พุ่งเป้ามาที่เขา ไม่เสียทีที่เป็นจ่างซุนเสินหรงที่ทั้งจวนบัญชาการก็ข่มนางไว้ไม่อยู่
“ท่านหัวหน้าจะไปคุ้มกันนางจริงๆ หรือ” หูสืออีซักถาม
“เจ้าว่าอย่างไรเล่า”
ซานจงลงบันไดไปแก้เชือกม้าที่ล่ามเอาไว้ ในใจคิดถึงเรื่องพระราชโองการที่พูดถึงเมื่อครู่นี้ขึ้นมาทันที พริบตาเดียวก็อยู่ชายแดนมาสามปี ฉางอันก็เปลี่ยนฮ่องเต้องค์ใหม่แล้ว
แต่ถ้าจ่างซุนซิ่นอยากจะขุดหาแร่ ไยต้องพาจ่างซุนเสินหรงมาด้วยอีก
เชิงอรรถ
* ธาตุทั้งห้า จีนเชื่อว่าทุกอย่างในโลกตั้งแต่ภายนอกไปจนภายในร่างกายของคน ล้วนประกอบด้วยธาตุทั้งห้า คือธาตุดิน ธาตุไฟ ธาตุไม้ ธาตุน้ำ ธาตุทอง ธาตุบางอย่างก็ส่งเสริมกัน ธาตุบางอย่างก็ทำลายกัน เป็นสิ่งที่มีมาตามธรรมชาติ
** งูดินเจ้าถิ่น เป็นการเปรียบเทียบ หมายถึงผู้มีอำนาจในท้องถิ่น หรืออันธพาลตามท้องถิ่น มีอำนาจในพื้นที่จำกัด
*** เคอจวี่ การสอบคัดเลือกคนเข้ารับราชการที่ทางราชสำนักจัดขึ้นที่ส่วนกลาง เริ่มตั้งแต่สมัยราชวงศ์สุย
* ซื่อ ธรรมเนียมการเรียกขานสตรีที่ออกเรือนแล้วของจีนจะใช้คำว่าซื่อ (แปลว่านามสกุล) ต่อท้ายนามสกุลเดิมของสตรี บางครั้งอาจเพิ่มนามสกุลของสามีไว้หน้าสุดเพื่อระบุให้ชัดขึ้น
* เตียว หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่าเฟอร์เร็ต สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่งมีขนฟูฟ่อง กินกระต่าย หนู สัตว์เล็กเป็นอาหาร
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 26 ส.ค. 65 เวลา 12.00 น.