จันทราอัสดง
ทดลองอ่าน จันทราอัสดง เล่ม 4 บทที่ 103-104
หลีซูซูรอเวลานี้นี่ล่ะ ขนวิหคถูกฟันจนขาดกระจุย แปรเปลี่ยนเป็นผงคันยุบยิบ สาดลงบนตัวของชายหนุ่มทั้งหมด
หลีซูซูคิดในใจ ยาวิเศษชั้นดีของอาจารย์อาชิงหลี่ เจ้าทนไหวรึ
ชายหนุ่มชะงักไป สีหน้าแข็งทื่อ กัดฟันมองมายังรถเซียนของหลีซูซูอีกครั้ง “คนของสำนักเหิงหยาง?”
หญิงสาวชะโงกหน้าออกมาจากรถเซียน แย้มยิ้มพลางทำหน้าทะเล้นใส่เขา สีแดงชาดตรงหว่างคิ้วนางเฉิดฉันร้อนแรง นกหลวนเปล่งเสียงขับขานอยู่ด้านข้างเพิ่มความน่าเกรงขาม
ชายหนุ่มกวาดตามองนาง พลันหัวเราะเสียงเย็น “หลีซูซู ฉายาทางเต๋าอวี้หลิง วันนี้มาเผิงไหลหมายจะเรียนรู้วิชาจากท่านเซียนหรงขุย”
“เจ้ารู้ได้อย่างไร” หลีซูซูมองเขาด้วยความฉงน
ยังไม่ทันขาดคำ ลูกศิษย์หลายคนของเผิงไหลก็ออกมาต้อนรับ พร้อมเอ่ยด้วยท่าทีนอบน้อมตื้นตันใจ “อาจารย์อาจิ่วหมิน ท่านกลับมาแล้ว!”
“จิ่ว…จิ่วหมิน?” ฟังชื่อที่ค่อนข้างคุ้นหูนี้แล้ว หลีซูซูรู้สึกย่ำแย่ไปหมด
วัยเยาว์นางมีนิสัยร่าเริง คนของสำนักเหิงหยางก็เอาอกเอาใจนาง
ก่อนมาที่นี่ฉวีเสวียนจื่อมองบุตรสาวที่งดงามน่ารักพลางกำชับด้วยความปรารถนาดีว่า “หรงขุยมีลูกศิษย์สายตรงผู้หนึ่งชื่อว่าชังจิ่วหมิน มีกระดูกกระบี่แต่กำเนิด เป็นผู้มีความสามารถอัศจรรย์แห่งยุค หรงขุยบ่มเพาะเขาเสมือนบ่มเพาะประมุขเกาะเผิงไหลคนต่อไป ได้ยินว่านิสัยเขาแปลกประหลาดทีเดียว หลีซูซูไปที่นั่นแล้วต้องทำตัวว่าง่ายหน่อย อยู่ร่วมกับเขาให้ดีล่ะ”
หลีซูซูผงกศีรษะอย่างจริงจัง เอ่ยด้วยท่าทีเคร่งขรึม “ท่านพ่อโปรดวางใจ”
ทุกคนในสำนักเหิงหยางต่างก็ชอบนาง ไม่มีเหตุผลที่นางจะถูกศิษย์สำนักเผิงไหลผู้หนึ่งรังเกียจกระมัง
ใครจะคิดว่านางเพิ่งมาวันแรกก็ล่วงเกินชังจิ่วหมินเสียแล้ว
ชังจิ่วหมินยกมือขึ้น วิหคน้อยบนพื้นกลายร่างเป็นชายหนุ่มหน้าซีดขาวอีกครั้ง เขาไม่พูดไม่จาก็ลงมือสังหารอีกฝ่ายจนตาย
คราวนี้เขาโกรธจัดจริงๆ แม้แต่แก่นวิญญาณก็ไม่ถอนออกมา ปลิดชีวิตอีกฝ่ายทันที
จนกระทั่งชังจิ่วหมินพาเหล่าลูกศิษย์กลับเข้าเกาะเผิงไหล ทิ้งหลีซูซูกับนกหลวนไว้นอกข่ายอาคม นางจึงรู้ว่าถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประตู นางจบเห่เสียแล้ว
แม้ไม่เข้าใจว่าเหตุใดชังจิ่วหมินจึงต้องถอนแก่นวิญญาณของลูกศิษย์ผู้นั้น แต่ลูกศิษย์สายตรงของประมุขเกาะเผิงไหลไม่มีทางเป็นผู้บำเพ็ญมารอย่างแน่นอน ต้องมีการเข้าใจผิดกันแน่ๆ
“เจ้าฟังข้าอธิบายก่อน ชังจิ่วหมิน ข้าขออภัย ข้าแก้อาการคันยุบยิบให้เจ้าดีหรือไม่” นางตบข่ายอาคม คนผู้นั้นไม่มองนางแม้แต่แวบเดียวก็เดินจากไปไกล
หลีซูซูห่อเหี่ยว แม้แต่นกหลวนข้างกายที่เดิมทีฮึกเหิมยังก้มหน้าคอตก
หนึ่งคนหนึ่งรถอยู่ในป่าซิ่งข้างๆ อย่างกระอักกระอ่วนใจเป็นเวลาสองวัน จวบจนเหยากวงที่นำโอสถทิพย์มาส่งที่เกาะเผิงไหลตระหนักถึงความผิดปกติ จึงมารับนางเข้าไปด้วยตนเอง
เหยากวงฟังต้นสายปลายเหตุแล้วเอ่ยอย่างขบขัน “เรื่องนี้มิอาจโทษเจ้า สถานการณ์ตอนนั้นง่ายต่อการเข้าใจผิดจริงๆ นั่นล่ะ ทว่าเจ้าล่วงเกินชังจิ่วหมิน เขามีนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้น เจ้าคงต้องลำบากหน่อยแล้ว”
เหยากวงกระซิบข้างหูนาง อธิบายเรื่องราวให้ฟัง “ทุกคนบนเกาะเซียนเผิงไหลต่างรู้ว่าชังจิ่วหมินเป็นบุตรชายของประมุขตงอี้ ตอนประมุขตงอี้ผ่านด่านเคราะห์ในโลกมนุษย์ได้พบคนผู้หนึ่งเสียสละตนเองเพื่อปกป้องเขา คนผู้นั้นเสียชีวิตเพราะช่วยเหลือประมุขตงอี้ ทิ้งบุตรสาวอาภัพไว้เพียงลำพัง ประมุขตงอี้จึงพานางกลับพิภพเซียน ชำระไขกระดูกเปลี่ยนเส้นลมปราณให้นาง ประคบประหงมดูแลราวกับของล้ำค่า ทั่วทั้งเกาะเซียนเผิงไหลต่างรู้ว่าประมุขตงอี้ตั้งใจจะให้ชังจิ่วหมินแต่งนางเป็นคู่บำเพ็ญในวันข้างหน้า ทว่าหญิงสาวที่เป็นมนุษย์ผู้นั้นกลับถูกเว่ยสวินลูกศิษย์ของเผิงไหลล่อลวงจนเสียพรหมจรรย์”
“เว่ยสวิน? ลูกศิษย์ที่ชังจิ่วหมินสังหารเมื่อสองวันก่อนหรือ”
เหยากวงพยักหน้า “ก็ใช่น่ะสิ”
ใบหน้าของหลีซูซูฉายแววลำบากใจมากกว่าเดิม สถานการณ์ตอนนั้นเห็นคนที่มีไอมารทำท่าจะสังหารศิษย์สำนักเผิงไหล เป็นใครก็ต้องเข้าใจผิดได้ง่ายๆ คิดไม่ถึงว่าผู้อื่นแค่ระบายโทสะเท่านั้น
เหยากวงมองศิษย์น้องอย่างเห็นใจ “ประมุขเกาะหรงขุยหมกมุ่นกับการหลอมอาวุธ ช่วงนี้กำลังหลอมกระบี่เซียนเล่มหนึ่ง ตอนนี้ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจเรื่องต่างๆ ภายในเกาะจึงเป็นชังจิ่วหมิน เขารับคำสั่งจากอาจารย์รุดกลับมาชี้แนะเคล็ดวิชาเบื้องต้นให้เจ้าชั่วคราว เจ้าล่วงเกินเขาไป วันหน้าเกรงว่าคงใช้ชีวิตที่นี่ลำบาก”
หลีซูซูมิใช่คนที่กล้าทำไม่กล้ารับ นางกะพริบตาปริบๆ ตัดสินใจได้ในทันที “ข้าจะไปขอขมา”
แม้จะเกิดความเข้าใจผิดอย่างช่วยไม่ได้ ถึงอย่างไรย่อมดีกว่าให้นางเฝ้ามองผู้บำเพ็ญมารผู้หนึ่งสังหารลูกศิษย์สำนักเซียนไปต่อหน้าต่อตาจริงๆ
เหยากวงถอนหายใจ “คงได้แต่ทำเช่นนี้ ทว่านิสัยเขาออกจะประหลาด เจ้าดูสิ แม้แต่หญิงสาวที่เป็นมนุษย์ผู้นั้นยังหวาดกลัวเขา เจ้าต้องเตรียมใจไว้ให้ดี”
หลีซูซูพยักหน้า กุมกำปั้นยิ้มเอ่ยเสียงกังวาน “ขอบคุณศิษย์พี่หญิง”
เหยากวงมองค้อนนางแวบหนึ่งก็เห็นศิษย์น้องหญิงบังคับกระบี่เหาะไปยังตำหนักเซียนที่นางชี้บอก
เฮ้อ…ได้ยินมาว่าชังจิ่วหมินรับมือไม่ง่าย ศิษย์น้องหญิงมาเผิงไหลครานี้ ไม่หวังให้ชังจิ่วหมินชอบนาง แค่ไม่กลั่นแกล้งนางจนเกินไปก็พอแล้ว
หลีซูซูเดินเข้าไปในตำหนักเซียนอย่างเงียบเชียบ
นางถูกชังจิ่วหมินขังอยู่นอกเกาะเผิงไหลสองวันแล้ว เลียบเคียงสืบดูจนรู้ว่าเหตุใดร่างกายเขาจึงมีไอมาร ชังจิ่วหมินไปกำจัดมารที่โลกมนุษย์มา บัดนี้เขาอยู่ในตำหนักเพื่อชำระล้างไอมารบนตัว ป้องกันมิให้เกิดมารในใจ
ทว่าผงคันยุบยิบออกฤทธิ์เจ็ดวัน ตอนนี้เขาต้องรู้สึกไม่สบายตัวแน่
หากชังจิ่วหมินเห็นนางแล้ว เดาว่าคงอยากบีบคอนางให้ตาย ฉะนั้นนางจะเดินดุ่มๆ เข้าไปเช่นนี้มิได้
นางปกปิดกระแสปราณและกวาดตามองรอบๆ ตำหนักเซียน พบแมวตัวหนึ่งกำลังนอนงีบอย่างเกียจคร้าน พอขยับเข้าไปใกล้ จึงพบว่ามิใช่แมว แต่เป็นลูกเสือต่างหาก
นางประกบฝ่ามือเข้าด้วยกัน “ข้าต้องหาวิธีช่วยเจ้านายของเจ้าถอนพิษผงคันยุบยิบ รบกวนเจ้าแล้ว”
เสือน้อยลืมตาที่ชุ่มชื้นขึ้น มองนางอยู่นาน ก่อนจะหลับตาลงข้างหนึ่งอย่างเกียจคร้าน
…เข้าไปเถอะ ข้าหลับตาข้างลืมตาข้างก็แล้วกัน
หลีซูซูหัวเราะออกมา ตอนนั้นนางเพิ่งเรียนวิชาแปลงร่างได้ไม่นาน โชคดีที่มีพรสวรรค์ นางแปลงร่างให้เหมือนเสือน้อย เลียนแบบท่าทางของมัน คาบยาถอนพิษ ก้าวเดินเข้าไปในตำหนักอย่างผึ่งผาย
“อ๋าวๆๆ” นางวางขวดยาถอนพิษในปาก ใช้ฟันน้ำนมงับเสื้อของคนที่นั่งสมาธิอยู่บนตั่ง
ชังจิ่วหมินลืมตาขึ้น