จันทราอัสดง
ทดลองอ่าน จันทราอัสดง เล่ม 4 บทที่ 103-104
หลีซูซูก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันถึงเพียงนี้
เดิมทีนางตั้งใจจะแสดงความจริงใจในการขอขมาของตนเอง จึงถามศิษย์สำนักเผิงไหลว่าสถานที่ใดสามารถแบกกิ่งต้นจิงขอขมา* ได้บ้าง
ศิษย์สำนักเผิงไหลมองนางหน้าแดง ชี้นิ้วไปยังบ่อโยวปิง
หลีซูซูนั่งยองๆ มองน้ำในบ่อก็ล้มเลิกความคิดทันที
การขอให้ผู้อื่นยกโทษให้มีสามวิธี ประจบเอาใจ ตามตื๊อไม่เลิก เรียกคะแนนสงสาร เพียงเพื่อทำให้ชังจิ่วหมินใจอ่อน จะได้เรียนรู้เคล็ดกระบี่ชิงหงอย่างราบรื่น นางไม่มีความจำเป็นต้องเอาตัวเข้าไปเสี่ยงอันตราย ทำเช่นนั้นมีแต่จะเพิ่มความยุ่งยากให้ผู้อื่น
ขณะที่หลีซูซูกำลังจะจากไป สตรีผู้หนึ่งกลับกระโดดลงไปในบ่อโยวปิงกะทันหัน
หลีซูซูไม่ทันระวัง จึงถูกนางพาลงไปในบ่อโยวปิงด้วย ไอเย็นขุมหนึ่งเคลื่อนจากฝ่าเท้าขึ้นมาและแผ่ลามไปทั่วร่าง จนถึงกับมีชั่วขณะหนึ่งที่นางมิอาจขยับตัวได้
ไอเย็นในบ่อน้ำประหนึ่งลมแรงที่ฉีกทึ้งร่างกาย เมื่อตั้งสติได้ หลีซูซูรีบว่ายไปที่ฝั่ง ทว่าเพื่อป้องกันมิให้ลูกศิษย์ที่ทำผิดหลบหนี ทุกย่างก้าวในบ่อน้ำจึงกินแรงอย่างยิ่ง นางรู้สึกเหมือนตนเองตกลงไปในวังน้ำวน ทรมานยิ่งนัก
สตรีผู้มีใบหน้าขาวซีดเดิมทีตั้งใจแน่วแน่ว่าอยากตาย คิดไม่ถึงว่าเมื่อกระโดดลงไปในบ่อโยวปิง สัมผัสกับน้ำในบ่อที่น่ากลัวแล้ว นางพลันรู้สึกหวาดกลัว รอบด้านไม่มีสิ่งใดให้คว้าจับได้ นางจึงเกาะหลีซูซูแน่น แขนขาทั้งสี่ยื่นเข้ามารัดตัวหลีซูซูไว้ คล้ายว่าหากหลีซูซูไม่ช่วยนาง สองคนก็ต้องตายตกไปด้วยกัน
หลีซูซูโมโหแล้วจริงๆ เคราะห์ร้ายมาเยือนโดยบังเอิญก็ช่างเถิด คนผู้นี้ไม่รักชีวิตของตนเองก่อน พอถึงเวลาจริงกลับเปลี่ยนใจ ทั้งยังจะคิดทำร้ายผู้อื่น
ความเดือดดาลทำให้บังเกิดความกล้าไม่สิ้นสุด หลีซูซูตบแขนหญิงสาวพลางถ่ายทอดเสียงไปถึงนาง “ปล่อยมือ ข้าจะคิดหาวิธีพาเจ้าเข้าฝั่ง”
ใบหน้าของหญิงสาวฉายแววหวาดหวั่น ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายยังคงกลัวตายอยู่ในบ่อน้ำ ไม่จับตัวหลีซูซูเอาไว้อีก
หลีซูซูกัดฟัน พานางว่ายไปริมฝั่ง
ทั่วร่างหลีซูซูเปี่ยมด้วยพลังจากเพลิงศักดิ์สิทธิ์ เหมือนพระอาทิตย์ดวงน้อยๆ ที่อบอุ่น สามารถสกัดความหนาวเย็นในบ่อน้ำได้ครู่หนึ่ง
ข้างนอกมีคนส่งเสียงตะโกนอย่างลนลาน…
“แย่แล้ว แย่แล้ว! หลีเซียนจื่อกับศิษย์น้องหญิงไฉ่ซวงตกลงไปในบ่อโยวปิง”
ขณะที่ออกแรงว่ายไปข้างหน้า หลีซูซูคิดในใจ สตรีผู้นี้มีนามว่าไฉ่ซวงกระมัง ประเสริฐ!
ไม่ง่ายเลยกว่ามือของนางจะสัมผัสริมฝั่ง หลีซูซูปีนขึ้นไป
ไฉ่ซวงตื่นเต้นยินดีเช่นกัน นางร้องว่า “ช่วย…”
ฉับพลันหลีซูซูยกเท้าขึ้น ถีบไปที่ไหล่นางหนึ่งที ส่งนางลงไปในบ่อน้ำเย็นอีกครั้ง
“ลงไปเสียเถอะ!”
ชังจิ่วหมินเข้ามาก็เห็นภาพนี้ ไฉ่ซวงถูกรองเท้าหุ้มข้อสีชมพูของหญิงสาวถีบจนจมลงในบ่อน้ำเย็น
“…”
บรรดาลูกศิษย์ข้างหลังเขาปากอ้าตาค้าง นานครู่ใหญ่จึงเอ่ยว่า “เจ้า…เจ้าถึงกับทำร้ายศิษย์น้องหญิงไฉ่ซวง…”
เซียนจื่อในชุดสีชมพูเปียกโชกไปทั้งตัว สภาพอเนจอนาถทีเดียว นางปัดมือสองที พลังเซียนธาตุไฟสีแดงวนรอบตัวนาง เพียงพริบตาอาภรณ์บนร่างก็แห้งสนิทอีกครั้ง
หลีซูซูหันกลับไป เห็นชังจิ่วหมินสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย กำลังมองตนอย่างเดาอารมณ์ไม่ถูก ยังมีลูกศิษย์ข้างหลังเขาที่ทำหน้าตื่นตระหนก
หลีซูซูคิดในใจ ข้ามิเพียงแค่ถีบ ยังอยากจะต่อยไฉ่ซวงสักยกด้วย
ไอเย็นในบ่อโยวปิงไม่สอดคล้องกับวิชาที่ตนบำเพ็ญ ตอนนี้หลีซูซูรู้สึกไม่สบายไปทั้งตัว
นางยังไม่ทันได้เอ่ยอะไร ชังจิ่วหมินก็เหินตัวลงไปในบ่อโยวปิง แหวกน้ำออกและอุ้มไฉ่ซวงขึ้นมา
หลังจากเขาขึ้นมาบนฝั่ง น้ำในบ่อที่ไหวกระเพื่อมก็สงบลง
ชังจิ่วหมินวางไฉ่ซวงลง ไฉ่ซวงสลบไสลไม่ได้สติไปแล้ว นิ้วมือเรียวยาวของเขาวาดออกไป ถ่ายปราณวิเศษไปให้ ไฉ่ซวงลืมตาขึ้น ทันทีที่เห็นชังจิ่วหมิน นางก็น้อยใจจนร้องไห้โฮเสียงดัง ก่อนจะคว้าแขนเสื้อของชังจิ่วหมิน
“พี่จิ่วหมิน ไฉ่ซวงเกือบไม่ได้พบท่านอีกแล้ว”
พอได้ยินคำเรียกขานนี้ หลีซูซูก็รู้ทันทีว่าไฉ่ซวงผู้นี้เป็นใคร ที่แท้เป็นมนุษย์สตรีน่าสงสารที่ถูกล่อลวงให้เสียพรหมจรรย์ บุตรสาวบุญธรรมที่ประมุขตงอี้รับมาเลี้ยงนั่นเอง ก็คงมีเพียงนางเท่านั้นที่สามารถเรียกชังจิ่วหมินว่าพี่ชายได้
ไฉ่ซวงร้องห่มร้องไห้อย่างน่าสงสาร หลีซูซูขมวดคิ้ว ยิ่งมองยิ่งไม่สบอารมณ์ ร้องไห้เสียน่าเวทนาเช่นนั้น ราวกับตนเป็นฝ่ายทำร้ายนางก่อนอย่างนั้นล่ะ
ดังคาด ศิษย์สำนักเผิงไหลด้านข้างเอ่ยด้วยสีหน้าขุ่นขึ้ง “อาจารย์อาจิ่วหมิน จะปล่อยให้เรื่องจบลงเช่นนี้ไม่ได้นะขอรับ”
หลีซูซูพูดทันที “ไฉนพวกเจ้าจึงไม่ถามนางว่าใครกันที่ทำให้ข้าตกลงไปในบ่อน้ำ ยังคิดจะดึงข้าให้ตายเป็นเพื่อน!”
ไฉ่ซวงแววตาไหววูบ ดวงหน้าเล็กขาวซีดซุกไปหลบข้างกายชังจิ่วหมินอย่างขลาดกลัว ราวกับหลีซูซูเป็นนางยักษ์
ท่าทางเช่นนี้ของนาง ประกอบกับความเงียบของชังจิ่วหมิน ทำเอาหลีซูซูโมโห “ในเมื่อเจ้าบอกว่าข้าทำร้ายเจ้า เช่นนั้นข้าขอทำให้ข้อกล่าวหานี้กลายเป็นจริงเลยก็แล้วกัน” นางพลันหัวเราะออกมา ก่อนจะผลักชังจิ่วหมินออกและกดตัวไฉ่ซวงลงไปในบ่อโยวปิง
“รอให้ข้าทำผิดจริงๆ แล้วข้าค่อยรับโทษ” ก่อนหน้านั้นเจ้าลองไปตายดูสักครั้งเถอะ
ไฉ่ซวงเห็นนางเอาจริง ขณะที่ตนเองกำลังจะกลิ้งตกลงไปในบ่อโยวปิงอีกครั้ง นางหวีดร้องเสียงแหลม “ว้าย! ช่วยข้าด้วย…”
มือข้างหนึ่งขวางหลีซูซูไว้และดึงไฉ่ซวงกลับมา
หลีซูซูหันกลับไป ได้ยินเสียงเยียบเย็นของคนผู้หนึ่งเอ่ยว่า “มาเรียนรู้วิชาที่แดนเผิงไหล ใช่ว่าเจ้าจะเหิมเกริมได้ ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ลงโทษให้หลีซูซูไปสระล้างกระบี่ ล้างกระบี่วิเศษให้ครบพันเล่ม”
“ชังจิ่วหมิน เจ้ามันคนไม่มีตา อยากล้างเจ้าก็ไปล้างเอง ใครอยากจะเรียนเคล็ดกระบี่ชิงหงของเจ้า ข้าไม่เรียนแล้ว! ข้าจะกลับเดี๋ยวนี้!”
อัคคีกำเนิดใหม่ของหลีซูซูจู่โจมไปยังชังจิ่วหมิน เปลวเพลิงสลายกลายเป็นความว่างเปล่าในชั่วพริบตาเมื่อเข้าใกล้เขา ชังจิ่วหมินสีหน้าไร้อารมณ์ ยกมือขึ้นเสกอสนีสีนิลให้กลายเป็นโซ่เส้นเท่าแขน มัดตัวหลีซูซูไว้
“เจ้าไม่มีสิทธิ์เลือก!”
ศิษย์สำนักเผิงไหลประคองไฉ่ซวงที่ยังตกใจไม่หายขึ้นมา
ไฉ่ซวงร้องไห้กระซิกไม่หยุด ตัวสั่นงันงก
ชังจิ่วหมินหดมือกลับมา ก่อนจะพาหลีซูซูไปที่สระล้างกระบี่