บทที่ 106
หลีซูซูรู้สึกว่าภาพตรงหน้าช่างคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ภาพเหตุการณ์ที่ไม่ปะติดปะต่อวาบผ่านไปในสมอง ใต้แสงจันทร์ในโลกมนุษย์ ปีศาจจิ้งจอก ชายหนุ่มที่เจ้าเล่ห์ชั่วร้าย…
มารฝันสะดุ้งโหยง รีบร่ายอาคมอีกครั้ง มันมองลูกแก้วหลิวหลีที่รัศมีจางลงทุกที
แย่แล้ว ประคองไว้ได้อีกไม่นาน
ช่างประหลาดเหลือเกิน
มารฝันมองลูกแก้วหลิวหลี ในใจของหลีซูซูคล้ายมีบางสิ่งกำลังต่อต้านอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดนี้อยู่
หลีซูซูขมวดคิ้วและสะบัดศีรษะ ภาพเหล่านั้นเลือนรางไป
นางคิดมากไปเองกระมัง นางยังไม่เคยไปแดนมนุษย์ จะมีความทรงจำในแดนมนุษย์ได้อย่างไร
การทดสอบของศิษย์สิ้นสุดลง ท่านเซียนหรงขุยไม่อยู่ ชังจิ่วหมินยอมรับอย่างเงียบๆ ว่านางชนะแล้ว หลายวันนี้จึงสอนวิชากระบี่ขั้นพื้นฐานให้นาง
นางหารู้ไม่ว่าชังจิ่วหมินเข้าใจเคล็ดกระบี่ชิงหงอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว ให้เขาเป็นคนสอนนางก็ยังได้
ไม่จำเป็นต้องให้ชังจิ่วหมินสั่ง ทุกวันตอนเช้านางจะไปล้างกระบี่ที่สระล้างกระบี่อย่างว่าง่าย จนกระทั่งถึงยามเย็นค่อยให้ชังจิ่วหมินถ่ายทอดเคล็ดกระบี่ให้นาง
เขาเข้มงวดกับตนเอง ตอนสอนหลีซูซูย่อมไม่ยกเว้นเช่นกัน หากกระบวนท่ากระบี่ของนางผิด เขาจะตีข้อมือนางอย่างไม่ปรานี
หลีซูซูกัดฟัน อดทนไว้ทุกครั้ง
กลับมีวันหนึ่งชังจิ่วหมินเห็นท่าทางทนเจ็บของนางโดยบังเอิญ เขามุ่นคิ้วเล็กน้อย
ตกกลางคืนในห้องของหลีซูซูมีผลครามมากกว่าเดิม ผลไม้ชนิดนี้กรอบหวานรสชาติอร่อย กินลงไปแล้วจุดหลิงไถจะกระจ่างใส เป็นสิ่งที่สำนักเหิงหยางไม่มี
หลีซูซูอดดึงตัวเซียนจื่อน้อยมาถามมิได้ “ผลไม้นี้เด็ดมาจากที่ใดหรือ”
เซียนจื่อน้อยส่ายหน้า ตอบอย่างประหลาดใจ “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”
นางรู้ว่าแดนเผิงไหลมีผลครามล้ำค่า แต่ผลครามปลูกอยู่ที่ใด เซียนจื่อน้อยที่เกิดในแดนเผิงไหลยังไม่เคยได้ยินมาก่อน
เซียนจื่อน้อยขอตัวจากไป ทิ้งให้หลีซูซูจ้องผลครามอยู่นาน ไม่รู้นางคิดอะไรอยู่
วันต่อมาหลีซูซูไปตำหนักเซียน กลับไม่พบชังจิ่วหมิน เซียนรับใช้ในตำหนักเขาบอกว่าประมุขตงอี้พาไฉ่ซวงกลับมาที่เผิงไหล ชังจิ่วหมินกำลังพูดคุยกับประมุขตงอี้
หลีซูซูหลุบตา กำผลไม้ในมือพลางรับคำ
เช่นนั้นก็รออีกสองสามวัน รอให้ชังจิ่วหมินมีเวลาก่อน
ทว่าการรอคอยครั้งนี้หลีซูซูกลับได้ข่าวอื่นมาแทน…
หมู่นี้ในแดนเผิงไหลต่างลือกันว่าชังจิ่วหมินกำลังจะแต่งงานเป็นคู่บำเพ็ญกับไฉ่ซวงแล้ว เรื่องที่ไฉ่ซวงถูกเว่ยสวินล่อลวงให้เสียพรหมจรรย์ก่อนหน้านี้ คนในแดนเผิงไหลกว่าครึ่งต่างก็รู้ เพียงแต่ผู้บำเพ็ญเพียรให้ความสำคัญกับการรักเดียวใจเดียว หาได้สนใจเรื่องความบริสุทธิ์ของสตรีไม่
แม้โลกบำเพ็ญเพียรไม่ใส่ใจ แต่ไฉ่ซวงที่เคยเป็นมนุษย์มาก่อนกลับใส่ใจยิ่ง
ได้ยินว่าหลังกลับแดนเซียนตงซู่แล้ว นางพยายามฆ่าตัวตายหลายหน เคราะห์ดีที่ประมุขตงอี้ขวางไว้ได้
ไฉ่ซวงพูดอึกๆ อักๆ ว่าเว่ยสวินบีบบังคับนาง ในใจนางมีเพียงพี่ชายเท่านั้น ประมุขตงอี้จึงเป็นคนตัดสินใจ ให้ชังจิ่วหมินแต่งนางเป็นคู่บำเพ็ญ
หลีซูซูไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดในใจจึงอัดอั้นหงุดหงิด
นางเดินออกไปข้างนอก บังเอิญเจอไฉ่ซวง
ไฉ่ซวงใบหน้าซีดเซียวอยู่บ้าง ไม่ขาวกระจ่างอมเลือดฝาดเหมือนแต่ก่อน คิดว่าไอเย็นในบ่อโยวปิงยังคงส่งผลกระทบต่อนางมาก
ทั้งที่ไฉ่ซวงเป็นผู้บำเพ็ญเพียรแล้ว แต่กลับยังทำตัวเหมือนสตรีในโลกมนุษย์ ปักชุดวิวาห์ด้วยตนเองอย่างเขินอาย
หลีซูซูปรายตามองชุดวิวาห์สีแดงสดในมือนางพลางเม้มปาก
แน่นอนว่าไฉ่ซวงก็มองเห็นหลีซูซูเช่นกัน ไฉ่ซวงมีสีหน้าเบิกบานไร้เดียงสา ราวกับจำเรื่องบาดหมางก่อนหน้านี้ไม่ได้แล้ว นางเข้ามาจับมือหลีซูซูและเอ่ยว่า “หลีเซียนจื่อ เจ้ามาหาพี่จิ่วหมินหรือ เขาไม่อยู่”
หลีซูซูดึงมือออก “ข้ารู้แล้ว”
นางไม่ชอบไฉ่ซวง จึงไม่อยากคุยกับอีกฝ่าย