ทดลองอ่าน จันทราอัสดง เล่ม 4 บทที่ 109-110 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

จันทราอัสดง

ทดลองอ่าน จันทราอัสดง เล่ม 4 บทที่ 109-110

หลีซูซูจากไปแล้ว ถานไถจิ้นกลับยังอยู่ที่เดิม

มารฝันก็ไม่กล้าหนีไป หน้าไม้พิฆาตเทวะยังอยู่ด้านข้างจ้องจะลงมือ

ปีศาจเสือในถุงฟ้าดินของถานไถจิ้นอดเปิดถุงออกมามิได้ มันเคยเห็นอดีตของหลีซูซูกับเขา ไม่รู้จะปลอบใจเขาอย่างไร จึงชะโงกหน้าเอ่ยว่า “ฝ่าบาท ท่านเก็บหน้าไม้พิฆาตเทวะนั่นเถอะ น่ากลัวเสียจริงเชียว”

ไอดำบนหน้าไม้พิฆาตเทวะเข้มขึ้น ปีศาจเสือรีบหดตัวเข้าไปในถุง

ครู่ใหญ่ที่ถานไถจิ้นมิได้ตอบสนอง ผ่านไปเนิ่นนานเขาถึงยกมือขึ้น หน้าไม้พิฆาตเทวะหลอมรวมเข้าไปในร่าง

เขาหยิบกระบี่ฮุ่นหยวนของท่านเซียนจ้าวโยวขึ้นมา และไปจากสถานที่มืดทึบแห่งนี้

เจ้าเสือดีอกดีใจ ที่แท้มันมิใช่จะไร้ความหมายเสียทีเดียว เลียแข้งเลียขาเขามาหลายร้อยปี นี่เป็นครั้งแรกที่ฝ่าบาทฟังคำพูดของมัน

เพิ่งจะคิดเช่นนี้มันก็ถูกถานไถจิ้นหิ้วตัวออกมาจากถุงฟ้าดิน

ชายหนุ่มขอบตาแดง ริมฝีปากก็แดง เหมือนถูกคนข้างนอกรังแกอย่างแสนสาหัส กลับบ้านจึงอยากจะฆ่าคนระบายความแค้น

พอเห็นสายตาที่เขาพิจารณาตนช่างน่ากลัว เจ้าเสือพูดตัวสั่น “เนื้อเสือไม่อร่อยหรอกนะ”

เขาเอ่ยเสียงต่ำทุ้ม “ข้าจะไม่เป็นมาร”

รู้แล้วรู้แล้ว ไม่เป็นมาร ข้าเชื่อท่าน อย่าทำสายตาน่าสยองถึงเพียงนั้นสิ

ถานไถจิ้นจ้องปีศาจเสือเขม็ง อาจเพราะติดตามเขามานาน ทั้งยังเข้าสู่พิภพเบื้องล่างด้วยกัน ปีศาจเสือจึงมีลักษณะไม่ค่อยเหมือนเสือ กลับดูคล้ายคลึงกับเทาเที่ยบนดวงตราชำระไขกระดูกในอาณาจักรมารอยู่หลายส่วน

จริงๆ ด้วย สิ่งที่อยู่ข้างกายเขาล้วนค่อยๆ กลายเป็นสัตว์ประหลาด

ถานไถจิ้นยัดปีศาจเสือกลับลงไปในถุงฟ้าดิน ดวงอาทิตย์ในโลกมนุษย์ทิ่มแทงดวงตาเขาจนเจ็บแสบ ดวงตะวันร้อนแรงบนท้องฟ้าแผ่ความร้อนอบอ้าว อุณหภูมิสูงจนไม่น่าเชื่อ เขามองถนนหนทางว่างเปล่าในโลกมนุษย์ มารปีศาจเผยโฉมรอบด้าน บ้านเรือนส่วนใหญ่มีไอปีศาจลอยสูง

ถานไถจิ้นใช้กระบี่ฮุ่นหยวนสังหารปีศาจตนหนึ่งที่กำลังดูดพลังจากคน

สำนักเซียวเหยาที่เคยถ่อมตนและเป็นมิตรในวันวานยังจะยอมรับเขาได้อีกหรือไม่

 

“สำนักเซียวเหยาไม่ยอมรับเขาอีกต่อไป” ผู้อาวุโสชิงอู๋ตีหน้าเย็นชา “เขาเป็นมาร แต่กลับแฝงตัวเข้ามาอยู่ในสำนักเซียวเหยาหลายปี ตอนนี้ศิษย์คนโตของสำนักเซียวเหยาจั้งไห่กำลังนำคนตามจับชังจิ่วหมิน”

“ใช่ พวกเราบอกแต่แรกแล้วว่าเขาไม่ปกติ วันนั้นในแดนลับชังหยวนเขาทำร้ายฝูหยากับหลีซูซู หากชังจิ่วหมินไม่ใช่ผู้บำเพ็ญมาร จะทำร้ายคนของสำนักเซียนได้อย่างไร!”

“หลีซูซู เจ้าว่าอย่างไร”

หลีซูซูคิดไม่ถึงเช่นกันว่าเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่เดือน จะเกิดการเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกแผ่นฟ้าคว่ำปฐพีเช่นนี้

ปีศาจฮั่นป๋าซื่ออิงเปิดอาณาจักรมาร ร่วมมือกับกงเหยี่ยจี้อู๋ อาศัยกระบี่ผ่าเวหาเรียกมารปีศาจทั้งแปดทิศมารวมตัวกัน ปล่อยให้มารปีศาจทะลักเข้าไปในแดนมนุษย์ ดูดพลังและสารอาหารจากมนุษย์ธรรมดาเพื่อให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น

ทุกหนแห่งที่ปีศาจฮั่นป๋าไปเยือน พืชพรรณเฉาตาย สายธารเหือดแห้ง น้ำในบ่อระเหยสิ้น โลกมนุษย์เริ่มเกิดภัยแล้งและโรคระบาด

สำนักเซียนรีบให้ความช่วยเหลือ ส่งลูกศิษย์ออกไปนับไม่ถ้วน กระจายไปตามสถานที่ต่างๆ ไล่ล่ามารปีศาจ ขจัดโรคระบาด โดยเฉพาะลูกศิษย์ที่มีแก่นวิญญาณธาตุน้ำยุ่งจนเท้าไม่ติดพื้น

เยวี่ยฝูหยาบาดเจ็บเพิ่งหายดี ก็เริ่มวิ่งวุ่นอยู่ข้างนอกทุกวันแล้ว

แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่การช่วยคนไหนเลยจะง่ายดายเหมือนฆ่าคนเล่า เสียงโอดครวญดังอยู่ทั่วทุกแห่งหนในแดนมนุษย์ เรื่องที่ถานไถจิ้นใช้หน้าไม้พิฆาตเทวะในวันนั้นแพร่ไปทั่วหกพิภพแล้ว สำนักเซียนและมนุษย์ธรรมดาเกลียดแค้นมารปีศาจ มิอาจยอมรับเขาได้

ทุกคนต่างหันมามองหลีซูซู

หลีซูซูเงียบงันครู่หนึ่งและเอ่ยว่า “เขาใช้หน้าไม้พิฆาตเทวะเพื่อช่วยข้ากับศิษย์พี่หญิง ยังมีศิษย์พี่จั้งไห่อีกคน”

ทุกคนมองนางอย่างไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะชิงอู๋ เขาตีหน้าเย็นชา กระทุ้งไม้เท้าเซียนในมือ “หลีซูซู เจ้าเป็นคนของสำนักเหิงหยาง ไฉนจึงพูดเข้าข้างมารปีศาจ”

“แต่ที่ข้าพูดเป็นความจริง ข้าไม่รู้ว่าวันหน้าเขาจะกลายเป็นมารหรือไม่ แต่ตอนนี้ข้ายังไม่เคยเห็นเขาทำร้ายมนุษย์”

ชิงอู๋สีหน้าเปลี่ยนไป หันไปมองเหยากวง “ต่อให้วันนี้มิใช่มาร เมื่อถูกหน้าไม้พิฆาตเทวะควบคุมก็ต้องกลายเป็นมารวันยังค่ำ เหยากวง เจ้าพูดซิ”

เหยากวงเหลือบมองหลีซูซูแวบหนึ่ง จากนั้นมองชิงอู๋ เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้ำอึ้งว่า “อาจารย์อา ที่หลีซูซูพูดเป็นความจริง”

“พวกเจ้าสองคน!” ชิงอู๋โมโหจนควันแทบออกเจ็ดทวาร “ไปสำนึกผิดที่หุบเขาเก้าคำนึง!”

บัดนี้คนในสำนักเซียนเมื่อพูดถึงมารปีศาจ ใครบ้างที่ไม่เคียดแค้นจนอยากจะฆ่า ในจำนวนนั้นชิงอู๋ซึ่งเป็นผู้อาวุโสคุมกฎชิงชังมารปีศาจเป็นที่สุด แต่ในเวลาเช่นนี้หลีซูซูกับเหยากวงยังจะกล้าออกหน้าพูดแทนถานไถจิ้น!

หุบเขาเก้าคำนึงมีแต่ลูกศิษย์ที่กระทำผิดเท่านั้นที่ไป

ฉับพลันผู้อาวุโสชิงเชียนรีบพูด “เด็กสองคนเพียงแต่แสดงความคิดเห็นของตนเองเท่านั้น หาได้เข้าข้างมารร้ายไม่ บัดนี้ลูกศิษย์สำนักเซียนยุ่งจนมิอาจปลีกตัว ให้พวกนางไปหุบเขาเก้าคำนึง มิสู้ส่งพวกนางไปโลกมนุษย์สักครั้ง ดูความทุกข์เข็ญของผู้คนก็ดี เสกน้ำไปช่วยเหลือคนก็ช่าง ถึงอย่างไรก็มีความหมายกว่าการไปหุบเขาเก้าคำนึงแน่ๆ เจ้าสำนัก ท่านว่าใช่หรือไม่”

ฉวีเสวียนจื่อที่ไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่ต้นผงกศีรษะ “ชิงเชียนกล่าวถูกต้อง ให้หลีซูซูกับเหยากวง รวมถึงฝูหยาไปโลกมนุษย์ด้วยกัน”

ฉวีเสวียนจื่อเอ่ยปากแล้ว ชิงอู๋มุ่นคิ้ว โค้งกายแล้วไม่พูดอะไรอีก

แน่นอนว่าหลีซูซูไม่มีทางฝ่าฝืนคำสั่งของฉวีเสวียนจื่อ

รอจนคนอื่นๆ จากไปเกือบหมดแล้ว ฉวีเสวียนจื่อพูดขึ้น “หลีซูซู ตามข้ามา”

“ตั้งแต่เจ้าออกจากแดนลับชังหยวน บิดาก็ยังไม่ได้คุยกับเจ้าดีๆ เลย” ฉวีเสวียนจื่อว่า “ผู้อาวุโสชิงอู๋เกลียดความชั่วร้ายประหนึ่งชิงชังศัตรู เจ้าอย่าได้เก็บมาใส่ใจ”

หลีซูซูส่ายหน้า “ข้าทราบเจ้าค่ะ ท่านพ่อ ท่านทะลวงผ่านแล้วหรือ”

ฉวีเสวียนจื่อหยิบศิลาหยั่งพลังก้อนหนึ่งออกมา ศิลาหยั่งพลังเปล่งประกายสีฟ้า แต่กลับกำลังค่อยๆ อับแสง

หลีซูซูหันไปมองเขาทันทีพลางถามว่า “ไฉนจึงเป็นเช่นนี้”

ฉวีเสวียนจื่อยิ้มพูด “หลีซูซู ผู้บำเพ็ญเพียรทุกคน หากมิอาจเป็นเทพ ย่อมต้องเดินมาถึงจุดนี้ ข้าติดอยู่ในขั้นผ่านด่านเคราะห์มาร้อยปีแล้ว แต่กลับมิอาจทะลวงผ่านได้ ข้ารู้มานานแล้วว่าต้องมีวันนี้ ข้าทำใจได้ เจ้าเองก็ไม่ต้องเสียใจไป”

หากยังทะลวงผ่านไม่ได้ ไม่พ้นร้อยปีเขาย่อมต้องแตกดับ

ข่าวร้ายที่ประดังประเดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลีซูซูทุกข์ใจเหลือเกิน ฉวีเสวียนจื่อลูบผมนาง “ลูกพ่อ พ่อดีใจมากที่วันนี้เจ้ายังคงเป็นเจ้า โกวอวี้เคยสอนเจ้าว่าไม่ว่ามารร้ายหรือเทพเซียนล้วนก้าวเดินมาจากหงฮวงทั้งสิ้น เคยผ่านเคราะห์สวรรค์มาเหมือนกัน มีเทพเซียนที่เลว ก็ย่อมต้องมีมารปีศาจที่ดี”

“เจ้าบอกว่าถานไถจิ้นมิได้ฆ่าคน บิดาเชื่อเจ้า” ฉวีเสวียนจื่อถอนหายใจ “ทว่าหลีซูซู ชิงอู๋มีคำพูดหนึ่งที่กล่าวถูกต้อง คนที่เคยใช้หน้าไม้พิฆาตเทวะ สุดท้ายก็ต้องก้าวสู่วิถีมารอย่างช้าๆ ใจมุ่งแต่เข่นฆ่าสังหาร”

วิถีมารสามารถฉกชิงพลังจากคนอื่นมาเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตนเอง เร็วกว่าการฝึกบำเพ็ญอย่างยากลำบากของผู้บำเพ็ญเพียรมาก เป็นทางลัดที่หลายคนยากจะปฏิเสธ

“ฟังเหยากวงบอกว่าเจ้ามีวัตถุเซียนชิ้นหนึ่งที่ร้ายกาจมาก” ฉวีเสวียนจื่อมองพิณคงโหวฉงอวี่ เดาได้ว่าใครเป็นคนทิ้งมันไว้ให้หลีซูซู เขายิ้มเอ่ย “ตอนนี้เจ้าอาจจะยังใช้งานมันได้ไม่เต็มที่ แต่เมื่อเจ้าตัดสินใจแน่วแน่ ผสานมรรคาไร้รักเข้ากับญาณหยั่งรู้โดยสมบูรณ์ เจ้าย่อมสามารถควบคุมมันได้”

“ข้าต้องทำอย่างไรจึงจะผสานมรรคาไร้รักเข้ากับญาณหยั่งรู้ได้”

ฉวีเสวียนจื่อโคลงศีรษะ “ใครก็มิอาจสอนเจ้าได้ ความรักและศรัทธาเป็นสิ่งที่มิอาจตัดทิ้งได้โดยง่าย รอให้ถึงวันที่เจ้าเข้าใจอย่างถ่องแท้ ย่อมตระหนักได้เอง”

เมื่อเห็นฉวีเสวียนจื่อจะจากไป หลีซูซูพลันร้องเรียกเขา “ท่านพ่อ”

นางเม้มปาก “ประมุขตงอี้…มีบุตรหรือไม่”

ฉวีเสวียนจื่อดูเหมือนคิดไม่ถึงว่าจู่ๆ นางจะถามคำถามนี้ เขาเงียบงันชั่วครู่ “เคยมี เด็กคนนั้นความสามารถโดดเด่น เปี่ยมด้วยพรสวรรค์และสติปัญญา น่าเสียดายที่ภายหลังตายไป”

มารฝันสร้างฝันโดยมีข้อมูลอ้างอิงจริงๆ หลีซูซูคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าเดิมทีโลกนี้จะมีบุคคลเช่นนั้นอยู่ด้วย หากถานไถจิ้นมิได้เกิดมาเป็นตัวประหลาดในวังหลวงแคว้นโจว แต่เป็นบุตรชายของประมุขตงอี้ บางทีเรื่องราวอาจเป็นอีกแบบหนึ่ง

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in จันทราอัสดง

  • จันทราอัสดง

    ทดลองอ่าน จันทราอัสดง เล่ม 4 บทที่ 111-112

    By

    บทที่ 111 จั้งไห่ได้ยินหลีซูซูพูดเช่นนี้ ในใจรู้สึกละอายเล็กน้อย วันนั้นตอนถานไถจิ้นต่อสู้กับกงเหยี่ยจี้อู๋เขาก็อยู่ด้วย ไม่ว่าอย่างไรศิษย์น...

  • จันทราอัสดง

    ทดลองอ่าน จันทราอัสดง เล่ม 4 บทที่ 107-108

    By

    บทที่ 107 หน้าประตูบรรพต อาภรณ์สีครามของชายหนุ่มย้อมด้วยโลหิต สะพายกระบี่เซียนเล่มหนึ่ง ลูกศิษย์ที่ลงมาจากบรรพตเซียนเหิงหยางกระซิบกระซาบกัน ...

  • จันทราอัสดง

    ทดลองอ่าน จันทราอัสดง เล่ม 4 บทที่ 105-106

    By

    บทที่ 105 ไม่รู้ผ่านไปนานเพียงใด หลีซูซูค่อยๆ ตระหนักถึงข้อดีของการล้างกระบี่ เคล็ดกระบี่เหิงหยางเด็ดขาดเฉียบคม เน้นความกล้าหาญ เคล็ดกระบี่ช...

  • จันทราอัสดง

    ทดลองอ่าน จันทราอัสดง เล่ม 4 บทที่ 103-104

    By

    บทที่ 103 มารฝันเห็นถานไถจิ้นไม่หวั่นไหวสักนิด ก็รู้ว่าตนกำลังจะถูกหน้าไม้พิฆาตเทวะกลืนกินเข้าไป ขณะที่มารฝันกำลังจะสิ้นหวัง ลูกแก้วลูกหนึ่ง...

  • จันทราอัสดง

    ทดลองอ่าน จันทราอัสดง เล่ม 3 บทที่ 74-75

    By

    บทที่ 74 ตั้งแต่ย่างเข้าฤดูสารท อากาศของแคว้นโจวยังคงอบอุ่น เวลาท้องฟ้าปลอดโปร่ง หลีซูซูจะคลำทางเดินไปมาในวังเย็น ในวังเย็นไม่มีอะไรเลย พลัง...

  • จันทราอัสดง

    ทดลองอ่าน จันทราอัสดง เล่ม 3 บทที่ 72-73

    By

    บทที่ 72 “มองไม่เห็น?” เมื่อฟังข่าวนี้แล้ว ถานไถจิ้นนิ่งสงบยิ่งนัก นางกำนัลกลัวเหลือเกินว่าถานไถจิ้นจะตำหนิตนเรื่องที่หลีซูซูมองไม่เห็น นางเ...

  • จันทราอัสดง

    ทดลองอ่าน จันทราอัสดง เล่ม 3 บทที่ 70-71

    By

    บทที่ 70 ดังคาด การตายของใต้เท้าไช่ถูกปกปิดไว้ ประกาศกับภายนอกว่าเขาเจอโจรภูเขาระหว่างเดินทางกลับบ้านเกิดไปใช้ชีวิตในบั้นปลาย ทว่าขุนนางทั้ง...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com