จันทราอัสดง
ทดลองอ่าน จันทราอัสดง เล่ม 4 บทที่ 111-112
เมื่อหลีซูซูกับเหยากวงบังคับกระบี่เหาะไปตำบลหนิงเฮ่อ พบว่าทั่วทั้งตำบลเหลือเพียงความรกร้างว่างเปล่า
“จวนของคหบดีจางมีไอมารเข้มข้นยิ่งนัก”
สองคนผลักประตูเข้าไป บ่าวรับใช้เฝ้าประตูเมื่อหลายเดือนก่อนไม่อยู่แล้ว จางหยวนไป๋ก็หายตัวไปด้วย
เหยากวงพูด “น่าโมโหนัก จะต้องถูกพวกมารปีศาจชิงตัดหน้าพวกเราไปก้าวหนึ่งแน่ๆ พวกเขาก็กลัวว่าเราจะพบตัวจางหยวนไป๋!”
หลีซูซูแตะนิ้วบนริมฝีปาก เอ่ยเสียงค่อยว่า “ชู่ว์…ลองฟังดู เหมือนจะมีเสียง”
สองคนเสาะหาไปตามเสียง พบสตรีเนื้อตัวสกปรกมอมแมมผู้หนึ่งในห้องเก็บฟืน
“อย่าฆ่าข้า อย่าฆ่าข้านะ!” นางลนลานหวาดหวั่น ใบหน้าเหลืองซีดซูบตอบ ดูเหมือนจะหิวโหยมานานแล้ว
“ไม่ต้องกลัว พวกเราไม่ใช่คนเลว” เหยากวงปลอบโยน “เจ้าบอกพวกเราได้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับจวนสกุลจาง”
หลีซูซูยื่นของกินให้นางเล็กน้อย นางกัดกินอย่างมูมมามพลางเล่าสิ่งที่นางเห็น
“ข้าเป็นแม่ครัวของจวนสกุลจาง หลายวันก่อนมารปีศาจฝูงหนึ่งมาที่นี่ เข้ามาในจวนและฆ่าคน พวกเขาพาตัวคุณชายน้อยไป ข้าหลบมาซ่อนตัว จึงไม่ถูกพวกเขาจับได้”
หลีซูซูคิดทบทวนในใจเงียบๆ คนของเผ่ามารต้องการตัวคุณชายน้อยสกุลจาง เหตุผลไม่พ้นสองข้อ หนึ่งคือไม่ต้องการให้พวกเขาได้ตราคำสั่งเข้าอาณาจักรมาร สองคือเพื่อใช้ประโยชน์จากพลังของไข่มุกแปลงโฉม
คนที่จางหยวนไป๋ปลอมแปลงขึ้นโดยใช้พลังของไข่มุกแปลงโฉม สามารถตบตาผู้อื่นได้โดยสมบูรณ์
หลีซูซูเคยถูกมารปีศาจที่จำแลงกายด้วยพลังของไข่มุกแปลงโฉมหลอกมาแล้ว มีคนบอกว่าเห็นถานไถจิ้นฆ่าคนในโลกมนุษย์ จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าคนผู้นั้นมิใช่ถานไถจิ้น
ตกกลางคืน อุณหภูมิร้อนระอุยังคงแผดเผาผืนแผ่นดิน
ปีศาจฮั่นป๋าปรากฏกาย ทำให้อุณหภูมิในฤดูหนาวสูงผิดปกติ
ชายหนุ่มในชุดขาวหิ้วตัวเด็กหญิงผู้หนึ่งมาวางตรงปากทางเข้าตำบล ยัดกระดาษยันต์แผ่นหนึ่งใส่อกเสื้อนางและบอกว่า “กลับไปหาบิดามารดาของเจ้าเถอะ”
เด็กหญิงตัวน้อยน้ำตาคลอ “ข้ากลัว”
เขาชะงักไป หิ้วตัวนางเดินไปข้างหน้า “จำได้หรือไม่ว่าบ้านอยู่ที่ใด”
นางยังเล็กเกินไป ราวสามสี่ขวบเท่านั้น ตอนถานไถจิ้นชิงตัวนางมาจากปากของมารปีศาจ นางตกใจจนน้ำมูกน้ำตาเปรอะเปื้อนเต็มหน้า
เขาเยาะหยันตนเองในใจ บัดนี้ตนเองยังเอาไม่รอด เขายังมีแก่ใจมาห่วงเรื่องไร้สาระในโลกมนุษย์พวกนี้
ทว่าถานไถจิ้นก็ไม่รู้เช่นกัน ฟ้าดินกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ ที่ใดเล่าคือบ้าน นอกจากเตร็ดเตร่ไปในแดนมนุษย์ ที่ใดยังมีพื้นที่สำหรับเขาอีก
หน้าไม้พิฆาตเทวะอยู่ในตัวเขา ผู้บำเพ็ญที่เข้าใกล้เขาต่างรู้สึกได้ถึงไอมารมหาศาลในตัวเขา
หลังแยกกับหลีซูซู เขาพบซื่ออิง
ปีศาจฮั่นป๋าตนนั้นพามารปีศาจกลุ่มใหญ่มาคุกเข่าเบื้องหน้าเขา น้อมต้อนรับเขากลับอาณาจักรมาร
หากเป็นเมื่อห้าร้อยปีก่อนตอนถานไถจิ้นยังไม่มีใยรัก บางทีเขาอาจจะสนใจ อยู่ฝ่ายธรรมะแล้วอย่างไร อยู่ฝ่ายอธรรมแล้วอย่างไร มีเพียงอำนาจสูงสุดเท่านั้นที่ทำให้คนยอมจำนนได้
ทว่าบัดนี้เขามีใยรักแล้ว จึงได้เข้าใจความแตกต่าง
หากเดินไปบนวิถีมาร สุดท้ายเขาจะต้องอยู่อย่างเดียวดายชั่วชีวิต เหมือนมังกรเซียนหมิงเยี่ยในอดีต หลับใหลอยู่ที่ก้นแม่น้ำโม่เหอ เขาจะต้องทรยศอาจารย์และสำนัก เป็นศัตรูกับนาง เทพเซียนไม่ยอมรับเขา มรรคาสวรรค์ก็ไม่ยอมรับเขา
ซื่ออิงมิได้โกรธ เอ่ยเนิบช้าว่า “สักวันหนึ่งราชันมารจะเข้าใจว่าพวกฝ่ายธรรมะภายนอกดูดี จิตใจกลับชั่วร้าย เอ่ยวาจาน่าขบขันที่เปี่ยมด้วยคุณธรรมมากที่สุด แต่กลับกระทำสิ่งที่ไร้ความปรานีมากที่สุด ท่านกับพวกเขามิได้มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ต่อให้ท่านบำเพ็ญมรรคาเทพ พวกเขาจะยอมรับท่านหรือ มีเพียงพวกข้าเท่านั้นที่จงรักภักดีมากที่สุด”
ถานไถจิ้นเหลือบมองกงเหยี่ยจี้อู๋ข้างกายซื่ออิงที่ดูเหมือนหุ่นกระบอก เขายิ้มหยัน มิได้สนใจพวกเขาก็หันหลังจากไป
ถานไถจิ้นยังหาบ้านของเด็กหญิงไม่พบ บนถนนพลันมีคบไฟสว่างวาบนับไม่ถ้วน
“มารตนนั้นกลับมาอีกแล้ว ยายหนูอยู่ในมือเขา!”
เพิ่งจะขาดคำ เลือดสุนัขดำสาดมาที่ถานไถจิ้น ชาวบ้านถืออาวุธ แผดเสียงคำรามพลางฟาดฟันอาวุธมาที่เขา
ถานไถจิ้นมิใช่มะพลับนิ่มอยู่แล้ว จึงถีบคนที่พุ่งเข้ามาจนกระเด็น บีบคอผู้นำที่ตะโกนแผดเสียง “รนหาที่ตาย!”
เขากางเขตอาคมรอบด้าน พอใช้พลังวิเศษนัยน์ตาสีดำก็แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงดุจโลหิต ดวงเนตรสีแดงของเขาทำให้คนอื่นๆ ตกใจกลัว พวกมนุษย์พากันถอยกรูด เด็กหญิงข้างกายร้องไห้ดังกว่าเดิม
ครอบครัวหนึ่งกระโจนออกมาจากกลุ่มคน ถือจอบในมือ ฟาดเขตอาคมของเขาอย่างไม่คิดชีวิต
“มารร้าย ปล่อยลูกของข้านะ!”
ถานไถจิ้นหันกลับไป มองหน้าเคียดแค้นและหวาดหวั่นของพวกเขา คบไฟส่องถนนจนสว่างจ้า แววตาของพวกเขาชัดเจนมาก เหมือนตอนอยู่ในวังหลวงแคว้นโจว สายตาของเหล่านางกำนัลขันทีตอนหลบเลี่ยงเขา พูดกันลับหลังว่าเขาเป็นตัวประหลาด
เพียงแต่ในอดีตไม่มีใยรัก จิตใจของเขาเยียบเย็นเป็นน้ำแข็ง ปราศจากความรู้สึกใดๆ
“สู้ตายกับเขา เขาฆ่าญาติมิตรของพวกเราไปตั้งมากมาย ต่อให้ต้องตาย ก็ต้องเอาเขาลงนรกให้จงได้!” ไม่รู้ใครตะโกนออกมาเป็นคนแรก พวกชาวบ้านพากันชูจอบและคราดในมือ ท่าทางคลุ้มคลั่งจะเอาชีวิตเขาให้ได้
ดวงเนตรสีแดงของถานไถจิ้นสะท้อนค่ำคืนในฤดูหนาว เยียบเย็นและหม่นหมอง
เป็นเช่นนี้อีกแล้ว มักเป็นเช่นนี้อยู่เรื่อย เขาเดินทางผ่านมาหลายหมู่บ้าน ผ่านถนนที่รุ่งเรืองหลายสาย นักพรตและอาจารย์ปราบปีศาจจะฆ่าเขา ผู้บำเพ็ญเพียรกำลังประกาศจับเขา มนุษย์ก็จะเอาชีวิตเขาเช่นกัน
ข้าทำผิดอะไร
ถานไถจิ้นคลายมือ จู่ๆ ก็เงียบงัน