“เขาหนีไปแล้ว มารร้ายถูกพวกเราขับไล่ไปแล้ว!” ฝูงชนโห่ร้องยินดี ครอบครัวของเด็กหญิงรีบเข้ามากอดเด็กน้อย
เขานั่งอยู่บนหลังคา มองคบไฟค่อยๆ แยกย้ายไป ภายใต้เวิ้งฟ้ากว้างใหญ่ โลกมนุษย์คืนสู่ความเงียบอีกครั้ง
ชายหนุ่มกอดตนเอง ดวงเนตรสีแดงเจือแววเกลียดแค้นจางๆ เขากัดข้อนิ้วชี้ของตนเองแรงๆ จนเลือดออก
“อยากฆ่าพวกเขาเหลือเกิน” เขาพูดเสียงค่อย “ก็แค่ปลวกมดที่ต่ำต้อยฝูงหนึ่ง ฆ่าทิ้งให้หมดก็สิ้นเรื่อง”
หน้าไม้พิฆาตเทวะยุให้เขาลงมือ ปีศาจเสือที่ตอนนี้กลายเป็นสี่ไม่เหมือน* รีบคาบหยกชิ้นหนึ่งออกมาจากถุงฟ้าดิน วางลงบนฝ่ามือเขา
“ในอดีตเคยมีคนให้สัญญาว่าโตขึ้นจะปกป้องคุ้มครองท่าน อย่างน้อยท่านต้องเชื่อนาง รอนางมาหา” ปีศาจเสือพูด “ซีอู้น้อยร้ายกาจมาก ห้าร้อยปีก่อนนางเป็นมนุษย์ ข้ายังเอาชนะนางไม่ได้ ให้นางสั่งสอนคนพวกนี้ให้หนัก นางไม่มีทางคิดว่าท่านเป็นมารแน่ ไม่แน่ถ้านางหายโกรธแล้ว อาจช่วยท่านคิดหาหนทางขจัดไอมาร สลัดหน้าไม้พิฆาตเทวะออกไปก็เป็นได้”
หยกเรียบลื่นสัมผัสฝ่ามือเขา ชั่วขณะหนึ่งที่เขารู้สึกว่าถูกความร้อนของมันลวกมือ
“นางไม่มีวันมา” เลือดหยดติ๋งๆ จากนิ้วมือถานไถจิ้นลงบนหลังคา หลอมละลายกระเบื้องหลังคาจนทะลุ เขามองแดนมนุษย์ใต้ฝ่าเท้าอย่างเย็นชาไร้ความรู้สึก “นางก็เหมือนพวกเขา ล้วนอยากให้ข้าไปตาย”
ปีศาจเสือส่ายหน้า แม้จะพูดเช่นนี้ แต่จนบัดนี้ท่านก็ยังไม่ยอมไปอาณาจักรมาร ท่านรอใครอยู่เล่า
ในใจท่านยังคงหวังว่านางจะดีต่อท่านและมาช่วยท่าน
“หลีซูซู เจ้าคิดอะไรอยู่หรือ” เหยากวงเอ่ยถาม
ตั้งแต่หนีออกมาจากอาณาจักรมารคราวก่อน ศิษย์น้องหญิงมักจะเหม่อลอย สงครามใหญ่ระหว่างเซียนกับมารกำลังจะเริ่มต้นขึ้น เยวี่ยฝูหยาถ่ายทอดเสียงมาบอกว่าสำนักรวบรวมลูกศิษย์แล้ว จะต้องสังหารหัวหน้ามารซื่ออิงให้จงได้ ทำลายดวงตราชำระไขกระดูกและข่ายอาคมหวนคืนเก้าโคจร
“ข้ากำลังคิดว่าบางทีวันนั้นข้าไม่ควรจากมา” หลีซูซูพูดเสียงค่อย
คนอื่นไม่รู้ แต่ในใจหลีซูซูกลับรู้ดีว่าภัยคุกคามที่น่ากลัวที่สุดของหกพิภพมิใช่ปีศาจฮั่นป๋าซื่ออิง แต่เป็นถานไถจิ้นที่เป็นพญามารต่างหาก กระดูกมารถูกทำลายไปแล้วก็จริง แต่หากถานไถจิ้นเข้าสู่วิถีมาร เขายังคงน่ากลัวกว่าซื่ออิงมาก
ตอนที่เขามีร่างเซียนก็สามารถบงการหน้าไม้พิฆาตเทวะได้ หากเข้าสู่วิถีมาร ผลลัพธ์ที่ตามมามิอาจคาดคิด
เหยากวงรู้ว่านางพูดถึงถานไถจิ้น
“บางครั้งเป็นเทพหรือเป็นมาร ขึ้นอยู่กับความคิดเพียงชั่ววูบ” เหยากวงกล่าว “อาจารย์อาทั้งหลายต่างบอกว่าเขาใช้หน้าไม้พิฆาตเทวะแล้ว จะเข่นฆ่าไม่หยุด แต่ข้ากลับไม่คิดเช่นนั้น”
“เพราะเหตุใด” หลีซูซูถาม
เหยากวงมองนาง “เพราะเขามีสิ่งที่ตัดใจไม่ลง เหมือนเช่นวันใดวันหนึ่งต่อให้ข้าถูกฝังลูกกลอนมารในร่างกายและกลายเป็นมาร ข้าก็…ไม่มีทางลงมือกับศิษย์พี่กงเหยี่ย”
เรื่องบางอย่างเป็นเรื่องของสัญชาตญาณ ตอนอยู่ในอาณาจักรมารกงเหยี่ยจี้อู๋ก็มิได้สังหารพวกเขาไม่ใช่หรือ หากมิใช่เพราะกงเหยี่ยจี้อู๋กลายเป็นมาร เหยากวงคิดว่าตนเองคงเป็นเหมือนอาจารย์อาชิงอู๋ อยากจะกวาดล้างมารปีศาจในโลกนี้ให้สิ้น แต่เมื่อในใจมีคนรัก ย่อมยินดีที่จะขบคิดจากจุดยืนของเขา
ไม่มีใครอยากเดินไปถึงจุดนั้น ศิษย์พี่กงเหยี่ยกลายเป็นมาร ทุกครั้งที่เขาฆ่าคนเพราะควบคุมตนเองไม่ได้ เขาจะต้องเจ็บปวดกว่าใครแน่นอน
“สิ่งที่ตัดใจไม่ลง” หลีซูซูทวนคำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
คำพูดของถานไถจิ้นดังขึ้นข้างหูนางอีกครั้ง
ตอนนั้นดวงตาของชายหนุ่มเจือประกายน้ำ ‘ข้าจดจำคำพูดเมื่อห้าร้อยปีก่อนของเจ้าได้ ข้าจะไม่เป็นมาร หากเจ้าไม่ชอบหน้าไม้พิฆาตเทวะ ข้าจะผนึกมันไว้ตลอดกาล แค่ผนึกมันไว้ตลอดกาลก็ไม่เป็นไรแล้ว เจ้าบอกมิใช่หรือว่ารอข้ากลับมา ต่อจากนี้ไปจะดีต่อข้า’
หลีซูซูพลันพูดขึ้น “ศิษย์พี่หญิงเหยากวง ข้าอยากไปหาเขา”
เหยากวงตกใจ “พวกเราไม่ไปตามหาจางหยวนไป๋แล้วหรือ”
รอยแต้มสีแดงชาดตรงหว่างคิ้วของหลีซูซูดูร้อนแรงขึ้น ฉงอวี่แปรเปลี่ยนเป็นกระบี่เล่มหนึ่งในมือนาง “หาตัวจางหยวนไป๋ไม่พบ ท่านพ่อย่อมต้องมีหนทางอื่นเข้าไปในอาณาจักรมารได้ แต่เรื่องบางอย่าง…พวกเรามิอาจเพิ่มศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้นมาอีกคน หากข้าไม่ฆ่าเขาก็ต้องพาเขากลับมา จะปล่อยให้เรื่องบางอย่างซ้ำรอยเดิมอีกไม่ได้”
โลกในตอนนี้ ทุกคนต่างเฝ้ารอให้ถานไถจิ้นกลายเป็นมาร
ก่อนหน้านี้หลีซูซูก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน อคติที่นางมีต่อเขาถูกกำหนดแน่ชัดไปแล้ว คิดว่าคนที่เลวมาแต่กำเนิด ช้าเร็วก็ต้องเข้าสู่วิถีมาร
ทว่าตลอดทางที่ผ่านมาเห็นใครๆ ต่างต่อว่าประณามเขา บอกว่าเขาเป็นมารร้ายกระหายเลือด หลีซูซูกลับรู้ว่าเบื้องหลังมีมือข้างหนึ่งกำลังผลักเขาเข้าสู่วิถีมาร
นางรู้ว่ามิใช่เช่นนี้ นางลืมไปได้อย่างไรว่าสิ่งที่อยู่ในร่างกายของถานไถจิ้นมิใช่กระดูกมารที่ควบคุมการเข่นฆ่าและคาวโลหิตอีกต่อไป หากแต่เป็นไขกระดูกเทพที่แลกกับความตายที่นางเป็นคนเปลี่ยนเข้าไปให้เขาเอง
คนอื่นล้วนไม่เข้าใจ แต่นางควรจะเข้าใจดี
เดิมทีเขาเป็นเทพ หาใช่มารร้าย
มารเกลียดชังผู้คน เทพกลับรักสรรพชีวิต