วันนั้นหลีซูซูไล่ตามมาจนถึงเมืองเจาเหอ เห็นน้ำในคูเมืองถูกโลหิตย้อมจนเป็นสีแดง
ผู้บำเพ็ญเพียรนับไม่ถ้วนรุดเข้าไปในเมืองเจาเหอด้วยความคั่งแค้น หลีซูซูรีบบังคับกระบี่เหาะเข้าไป ได้ยินเสียงคนอุทานด้วยความตระหนก
นางเดินฝ่ากลุ่มคน และมองเห็นชายหนุ่มในชุดขาวที่ยืนอยู่ลำพัง
เขายังคงผ่ายผอม มือถือกระบี่เล่มหนึ่ง นั่งบนขั้นบันได เบื้องหลังเป็นเปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วง ท่ามกลางกองเพลิงยังมองเห็นร่างเซียนของจ้าวโยวรางๆ เผาไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านกลางเปลวไฟ
กระบี่ของผู้บำเพ็ญเพียรทั้งหลายชี้ไปที่เขา เขานั่งเงียบ ถือกระบี่ฮุ่นหยวนที่จ้าวโยวทิ้งไว้ให้สมัยยังมีชีวิต มีเพียงหนึ่งคนหนึ่งกระบี่ ทว่าทุกคนกลับมิกล้าเข้าใกล้
“ผู้บำเพ็ญมารชังจิ่วหมิน เจ้าทรยศสำนัก สังหารจ้าวโยวผู้เป็นอาจารย์ อกตัญญูไร้คุณธรรมเช่นนี้ ยังไม่รีบยอมรับความตายเสีย!”
“ศิษย์เนรคุณที่สังหารอาจารย์ เศษสวะในสำนักเซียน ทุกคนล้วนประหารเจ้าได้!”
“เจ้าทำร้ายมนุษย์ เข่นฆ่าชาวบ้านในสี่สิบสองเมือง วันนี้ยังฆ่าล้างเมืองเจาเหอทั้งหมด สำนักเซียนมิอาจทนเจ้า มรรคาสวรรค์ก็มิอาจยอมรับเจ้า!”
หลีซูซูมองเห็นจั้งไห่ด้วย
จั้งไห่โซซัดโซเซตกลงมาจากกระบี่เซียน พุ่งขึ้นไปบนขั้นบันได คว้าคอเสื้อถานไถจิ้นพลางถามด้วยขอบตาแดงก่ำ “เพราะอะไร! เหตุใดเจ้าต้องฆ่าอาจารย์ด้วย! สิ่งที่พวกเขาพูดข้าล้วนไม่เชื่อ แต่ข้าเห็นเองกับตา เจ้าใช้กระบี่ฮุ่นหยวนแทงเข้าไปในอกของอาจารย์ เจ้าใช้อัคคีแท้เผาร่างเซียนของอาจารย์ เขารักเจ้าเสมือนบุตรแท้ๆ ถ่ายทอดวิชาความรู้ทั้งหมดให้กับเจ้า! เพราะอะไร เจ้าบอกข้ามาว่าเพราะอะไร!”
ถานไถจิ้นเงยหน้า ศิษย์สำนักเซียวเหยาที่เคยรักใคร่เอ็นดูเขาในอดีต บัดนี้แต่ละคนดวงตาแดงก่ำ แทบอยากจะพุ่งเข้ามาดื่มเลือดกินเนื้อเขา
ไม่เคยมีครั้งใดที่เขารู้สึกเหมือนมีก้างติดอยู่ในลำคอเช่นนี้มาก่อน ถานไถจิ้นไม่เคยอธิบาย แต่ครั้งนี้กลับอดเอ่ยปากมิได้ “เพราะถ้าหากเขาตาย…”
“นายท่านทำได้ดีมาก น้อมต้อนรับนายท่านกลับอาณาจักรมาร”
ไอมารแผ่กระจายอยู่รอบด้าน ผู้บำเพ็ญมารในชุดม่วงหัวเราะ นำศิษย์จากพิภพมารกลุ่มหนึ่งมาคุกเข่าลงเบื้องหน้าถานไถจิ้น
จิงเมี่ยพูด “นายท่านอดทนกับความอัปยศอดสู นักพรตเหล่านี้บังอาจไม่มีสัมมาคารวะกับนายท่าน วันนี้ข้าจะให้พวกเขาได้มาไม่ได้กลับ”
ถานไถจิ้นชะงักไป รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง สีหน้าเปลี่ยนเป็นย่ำแย่ ผิวหนังบนหลังมือเขาเริ่มขยับ คล้ายจะแตกออกและหลุดล่อนออกมา
ปีศาจเสือเห็นดังนั้นก็รู้ว่าไม่ได้การ ร่างกายของถานไถจิ้นกำลังจะปริแยกอีกครั้งในเวลาเช่นนี้
จิงเมี่ยลงมือกับจั้งไห่แล้ว ด้วยพลังตบะของเขา จั้งไห่ไหนเลยจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ ครั้นเห็นโลหิตของจั้งไห่กำลังจะสาดกระเซ็น พิณที่มีประกายสีฟ้าไหลเวียนคันหนึ่งเข้ามาขวางหน้าจั้งไห่
หลีซูซูตบฝ่ามือลงบนพิณคงโหวฉงอวี่ ฉงอวี่โบยบินออกไป กระแทกศีรษะของจิงเมี่ย
จิงเมี่ยถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว ดวงตาฉายแววเหี้ยมเกรียม “เป็นนางหนูผู้นี้อีกแล้ว!”
หลีซูซูเห็นแล้วโมโห นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ผู้บำเพ็ญมารกลุ่มนี้จงใจไม่ให้ถานไถจิ้นได้เอ่ยปากชัดๆ
นางมาช้าเกินไป มิได้เห็นเหตุการณ์ตอนที่ถานไถจิ้นสังหารจ้าวโยว ถานไถจิ้นไม่น่าจะฆ่าจ้าวโยว จะต้องเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นแน่นอน!
ฉงอวี่ลอยกลับเข้ามาในมือนาง นิ้วมือนางสะกิดสายพิณ
จิงเมี่ยรีบยื่นมือออกไปสกัดไว้
สีหน้าเขาแปรเปลี่ยนไปมายากจะคาดเดาอารมณ์ เมื่อคิดถึงภารกิจที่มาครั้งนี้ เขาร้อนใจอยากเข้าไปดึงตัวถานไถจิ้น “นายท่าน โปรดไปกับข้าน้อยเถอะ!”
เนตรมารของชายหนุ่มในชุดขาวกลับเอาแต่จ้องหญิงสาวผู้นั้น
“นายท่าน รีบไปกันเถอะ!”
ปีศาจเสือเร่งรัดเช่นกัน “ฝ่าบาท รีบหาสถานที่หลบก่อนดีกว่า อย่าให้พวกเขาเห็นท่านตอนที่…” มิฉะนั้นแล้ว ถึงเวลาต่อให้กระโดดลงแม่น้ำหวงเหอก็มิอาจล้างมลทินได้
ถานไถจิ้นกลับเอาแต่จ้องมองหลีซูซู เวลานั้นทุกถ้อยคำที่เขาเอ่ยออกมาเหมือนถูกเค้นออกมาจากลำคอ สุ้มเสียงแตกพร่า “เจ้าก็มาฆ่าข้าเหมือนกันหรือ”
ข้าสวมชุดสีขาว ทำความดี เอาอย่างกงเหยี่ยจี้อู๋ เอาอย่างเยวี่ยฝูหยา แต่ไฉนเจ้ายังคงไม่รักข้า
เงาร่างของเขาจางลงทุกที เขากำลังจะไปจากที่นี่
หลีซูซูเดินหน้าไปหนึ่งก้าว หมายจะจับมือเขาไว้
ฉงอวี่ถ่ายทอดเสียงมาถึงนาง “เหตุการณ์ไม่ปกติ หลีซูซู ไม่ว่าอย่างไรต้องรั้งตัวเขาไว้ให้ได้!”
“มิใช่! ถานไถจิ้น” หลีซูซูกัดฟัน สองตาทอประกายระยับ ตัดสินใจพูดออกไป “ข้ามาทำตามสัญญา!”
ดังนั้น เจ้าอย่าเป็นมารอีกเลย
(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็มเดือนธันวาคม 65)