บทที่ 2
เรื่องที่ว่าเหตุใดจอมมารหนุ่มจึงถูกลงโทษให้คุกเข่า ความทรงจำที่หลีซูซูได้รับมาเป็นเช่นนี้…
เมื่อครึ่งเดือนก่อน เจ้าของร่างเดิมเยี่ยซีอู้กับพี่สาวสายรองของนางเยี่ยปิงฉางตกลงไปในทะเลสาบด้วยกัน
สุดท้ายองค์ชายหกกระโดดลงไปช่วยพี่สาวสายรอง บัณฑิตจ้วงหยวน* ก็กระโดดลงไปช่วยพี่สาวสายรอง มิหนำซ้ำสามีของเจ้าของร่างเดิม ถานไถจิ้นที่เพิ่งแต่งงานกันได้ไม่นาน กระโดดลงไปในทะเลสาบแล้วก็ยังว่ายไปหาพี่สาวสายรองของนาง
ท้ายที่สุดเป็นองครักษ์ลับของเจ้าของร่างเดิมเห็นว่าสถานการณ์ไม่ปลอดภัย จึงช้อนตัวเจ้าของร่างเดิมขึ้นมา
เจ้าของร่างเดิมเกือบจมน้ำตาย กลับมาแล้วบันดาลโทสะเป็นการใหญ่ นางมิอาจระบายอารมณ์กับองค์ชายหกและบัณฑิตจ้วงหยวน จึงได้แต่เอาโทสะมาลงกับถานไถจิ้น
นางสั่งให้ถานไถจิ้นไปคุกเข่าบนผิวทะเลสาบที่จับตัวเป็นน้ำแข็ง นางยกโทษให้เขาเมื่อใด เมื่อนั้นเขาจึงจะลุกขึ้นมาได้
ทว่าการลงโทษยังมิได้เริ่มขึ้น เจ้าของร่างเดิมก็ถูกไอเย็นจนล้มป่วย ท่านย่าพานางกับถานไถจิ้นไปจุดธูปไหว้พระขอพรที่วัด
ไม่คิดว่าระหว่างทางจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เจ้าของร่างเดิมถูกโจรภูเขาจับตัวไป
บัดนี้กลับมาแล้ว การลงโทษย่อมต้องดำเนินต่อไป
หลีซูซูลูบหน้าอก อยากออกไปดูจอมมารหนุ่มคุกเข่ารับโทษ
นี่ต้องเป็นสิทธิพิเศษของนางที่ทะลุมิติมาห้าร้อยปีแน่ๆ!
หากว่ามีไข่มุกรวบรวมเงา นางจะต้องเก็บภาพเงาเอาไว้และนำกลับไปให้อาจารย์อาและอาจารย์ลุงทั้งหลายดูแน่ โลกบำเพ็ญเซียนของพวกเราได้ระบายความแค้นแล้ว!
ถานไถจิ้นคุกเข่าบนพื้นน้ำแข็ง
สองวันก่อนตอนเขากลับมา พ่อบ้านจวนแม่ทัพใหญ่เยี่ยยิ้มเอ่ยว่า “หวังว่าจื้อจื่อคงมิได้ลืมวาจาของคุณหนูสาม”
เขาไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ ก้มหน้าหลุบตาและเดินไปคุกเข่าบนผิวทะเลสาบที่จับตัวเป็นน้ำแข็ง
เพียงครู่เดียว ไอเย็นก็ทำให้ใบหน้าเขาเปลี่ยนเป็นขาวซีดเกินบรรยาย
เหมันต์ปีนี้หนาวเย็นกว่าที่ผ่านมา สาวใช้สองสามคนเดินผ่านริมทะเลสาบแอบซุบซิบกันว่า “คุณหนูสามลงโทษจื้อจื่ออีกแล้วหรือ”
“ไฉนเพิ่งกลับจากวัดเทียนหวา คุณหนูสามก็ลงโทษให้จื้อจื่อคุกเข่าอีกแล้ว จื้อจื่อช่างน่าสงสารเหลือเกิน”
“ชู่ว์ เบาๆ หน่อย เจ้าไม่กลัวคุณหนูสามจะได้ยินหรือ”
ตั้งแต่คุณหนูสามกับจื้อจื่อแต่งงานกัน คุณหนูสามมักจะลงโทษเขา
ผู้คนต่างรู้ว่าคุณหนูสามมีใจให้องค์ชายหก และชิงชังจื้อจื่อยิ่งนัก
คุณหนูสามเป็นบุตรีที่แม่ทัพใหญ่เยี่ยรักใคร่มากที่สุด ส่วนจื้อจื่อถานไถจิ้นเป็นโอรสที่ฮ่องเต้แห่งแคว้นโจวเกลียดชังมากที่สุด
ตลอดหลายปีที่จื้อจื่ออาศัยอยู่ในแคว้นซย่า แม้กระทั่งบ่าวไพร่ยังรังแกเขาได้ ยิ่งมิต้องพูดถึงคุณหนูสามเยี่ยซีอู้ผู้เป็นที่รักใคร่ตามใจมากที่สุด
เวลาไม่ชอบหน้าใครคนหนึ่ง จะมิใช่สามารถกลั่นแกล้งได้ตามใจชอบหรือ
สายตาที่เหล่าสาวใช้มองถานไถจิ้น โดยมากเป็นความเวทนา
เด็กหนุ่มรูปงามยามปกติจิตใจกว้างขวางรู้มารยาทยิ่งนัก ทั้งยังไม่วางท่าจองหองแม้แต่น้อย ชาติกำเนิดเขาเดิมน่าสงสารอยู่แล้ว บัดนี้ยังถูกทรมานเช่นนี้บ่อยครั้ง
ต่อให้แม่ทัพใหญ่เยี่ยรู้เรื่องพวกนี้ อย่างมากก็แค่อบรมบุตรีสุดที่รักมากขึ้นหน่อย ก่อนจะจบเรื่องไปอย่างคลุมเครือ
หิมะที่ตกหนักปกคลุมสนเขียวไกลที่อยู่ออกไป ถานไถจิ้นไอออกมาหนึ่งที ไอหนาวแทรกเข้าสู่ปอด ทิ่มแทงจนลมหายใจเต็มไปด้วยความเจ็บแปลบ
น้ำแข็งใต้หัวเข่าเย็นเฉียบจนกระดูกเขาเจ็บระบม บนเส้นผมดำขลับของเด็กหนุ่มมีเกล็ดน้ำแข็งจับอยู่ชั้นหนึ่ง
ถานไถจิ้นคุกเข่ามานานเกินไป ความเจ็บที่หัวเข่าทำให้เขาเปล่งเสียงครางทุ้มต่ำ เขายันพื้นน้ำแข็งพยายามประคองร่างกายไว้
ผิวน้ำแข็งสะท้อนใบหน้าเขา เป็นภาพใบหน้าของเด็กหนุ่มที่อ่อนแอไร้พิษภัยดวงหนึ่ง
เขาคิดถึงเหตุการณ์เมื่อสองวันก่อน ตอนเขาอุ้มคุณหนูสามกลับมาจากรังโจร ฮูหยินผู้เฒ่าสกุลเยี่ยใบหน้าเขียวคล้ำเอ่ยขึ้น “เรื่องนี้ไม่ว่าใครก็ห้ามแพร่งพรายออกไปทั้งนั้น หากให้ข้ารู้ว่าเรื่องนี้หลุดออกไปจากปากใคร สกุลเยี่ยจะไม่ละเว้นคนผู้นั้นแน่นอน!”
ฮูหยินผู้เฒ่าสีหน้าเฉียบขาด ดวงตาฉายแววน่าเกรงขามเข้มข้น