บทที่ 4
ถานไถจิ้นเอ่ยทัก “คุณหนูสาม”
หลีซูซูมองเขาอย่างระแวดระวัง
ว่าไปก็น่าขัน ถานไถจิ้นเป็นสามีที่ถูกต้องตามประเพณีของเยี่ยซีอู้ กลับได้แต่เรียกนางว่า ‘คุณหนูสาม’
การแต่งงานระหว่างสองคน ล้วนเป็นเหตุไม่คาดฝันทั้งสิ้น
เจ้าของร่างเดิมรู้ว่าองค์ชายหกต้องใจพี่สาวสายรองของตนเยี่ยปิงฉาง ไฟริษยาแผดเผาจิตใจนาง จึงคิดแผนการโง่เง่าออกมา โดยวางยาพี่สาวสายรองระหว่างงานเลี้ยงในวังหลวง หมายจะทำลายความบริสุทธิ์ของนาง
คาดไม่ถึงว่ายามิได้ออกฤทธิ์กับคุณชายเสนาบดีอ้วนท้วนอัปลักษณ์และพี่สาวสายรองของตน กลับออกฤทธิ์กับตนเองและถานไถจิ้น
สิ่งที่ทำให้เจ้าของร่างเดิมยิ่งรู้สึกอัปยศก็คือ ทั้งที่ถานไถจิ้นโดนฤทธิ์ยาเหมือนกับตน แต่เด็กหนุ่มที่อ่อนแองดงามผู้นั้น นอกจากใบหน้าแดงก่ำแล้วกลับไม่มีอาการตอบสนองอื่นใด
สุดท้ายยังคงเป็นเยี่ยซีอู้ที่ทนไม่ไหว สั่งให้เขาช่วยเหลือนาง
เด็กหนุ่มมองนางอย่างเยียบเย็น สุดท้ายก็มิได้เคลื่อนไหว
เขานั่งอยู่ตรงมุม ใช้แววตาสุขุมเย็นชามองร่างของสตรีสูงศักดิ์ผู้นี้บิดเร่าไปมา เปล่งเสียงครางกระเส่าพลางดึงทึ้งอาภรณ์ของตนเอง
ด้วยห่วงเรื่องชื่อเสียงและความบริสุทธิ์ เจ้าของร่างเดิมจึงต้องแต่งงานกับถานไถจิ้นอย่างไม่เต็มใจ
ทุกครั้งที่ย้อนนึกถึงแววตาของเด็กหนุ่ม เจ้าของร่างเดิมเป็นต้องรู้สึกอัปยศอดสู
เขาทำเช่นนี้ได้อย่างไร ใช้สายตาราบเรียบ ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อยมองดูนาง
ดังนั้นการแต่งงานครั้งนี้ จะว่าไป อันที่จริงก็คือเรื่องงามหน้าที่คุณหนูสามก่อขึ้นเอง
ทว่าเรื่องนี้ไม่กระทบต่อการชิงชังถานไถจิ้นของเจ้าของร่างเดิม
หลีซูซูก็นับได้ว่ามีความคิดเดียวกับเจ้าของร่างเดิม แม้ว่าเหตุผลจะแตกต่างออกไป
เจ้าของร่างเดิมรังเกียจชาติกำเนิดอันต้อยต่ำของถานไถจิ้น หลีซูซูกังวลกับกระดูกมารในตัวเขาที่เพียงพอจะทำลายล้างโลกได้
หลีซูซูถามขึ้น “เจ้ามาด้วยเหตุใด”
ถานไถจิ้นมองท่าทีไม่ชอบใจที่นางแสดงออกมา ก่อนตอบเสียงแหบ “ท่านแม่ทัพบอกว่าไทเฮาเรียกตัวข้าเข้าวัง บอกให้ข้าไปพร้อมกับคุณหนูสาม”
“ท่านพ่อข้าบอกว่าไทเฮาเรียกตัวเจ้าเข้าวัง?”
“หากคุณหนูสามไม่เชื่อ สามารถถามท่านแม่ทัพดูได้”
หลีซูซูเห็นสีหน้าเขาไม่เหมือนโกหก ก็พลันกระจ่างแจ้งในเจตนาของแม่ทัพใหญ่เยี่ย…
เพื่อให้ไทเฮาไม่แตะต้องหลีซูซู ทั้งยังสามารถให้หน้าไทเฮาอย่างเต็มที่ จึงผลักคนผู้หนึ่งออกมารองรับอารมณ์
ถานไถจิ้นเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด ฐานะของเขาชวนกระอักกระอ่วนและมีความพิเศษ จื้อจื่อผู้หนึ่งที่ไร้ที่พึ่ง ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นสามีของหลีซูซู หากเข้าวัง ไทเฮาอยากกอบกู้หน้าตาให้องค์ชายหก ต่อให้ถานไถจิ้นไม่ตาย เกรงว่าก็คงหนังหลุดออกมาชั้นหนึ่ง
แม่ทัพใหญ่เยี่ยต้องการให้หลีซูซูพกที่ระบายอารมณ์ติดตัวไปด้วยนั่นเอง
หลีซูซูมองถานไถจิ้น เขามีสีหน้าเฉยชา คล้ายคุ้นชินนานแล้ว เห็นทีเขาเองก็รู้ว่าประโยชน์ของเขาคืออะไร
หลีซูซูคิดถึงชะตาอายุสั้นของตน นางเท้าคางเอ่ยถามถานไถจิ้น “เจ้าแค้นสกุลเยี่ยของพวกเรามากเป็นพิเศษใช่หรือไม่”
ไม่พูดถึงสกุลเยี่ย แคว้นซย่าทั้งหมด ล้วนมิได้ปฏิบัติต่อถานไถจิ้นเหมือนเขาเป็นมนุษย์
ทว่าสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว หากหลีซูซูมาถึงโลกใบนี้เร็วขึ้นหน่อย ย่อมสามารถหยุดยั้งไม่ให้ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ แต่บัดนี้นางกลับทำได้เพียงป้องกันมิให้กระดูกมารในตัวของเด็กหนุ่มฟื้นตื่นขึ้นมา
เขาตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่เช่นนี้ หากกระดูกมารฟื้นตื่น มิเพียงสกุลเยี่ย แต่สามพิภพล้วนต้องรับเคราะห์
นางลองหยั่งเชิงดูว่าในใจของถานไถจิ้นมืดมนเพียงใด
ถานไถจิ้นมองนางแวบหนึ่งพลางเอ่ยตอบ “ไม่ใช่”
หลีซูซูเชื่อก็บ้าแล้ว เมื่อสิ่งชั่วร้ายโดยกำเนิดฟื้นตื่น จะต้องใช้โลหิตของคนนับไม่ถ้วนเซ่นสังเวย