เยี่ยปิงฉางหลุบตาเอ่ยเสียงนุ่มนวล “เจ้าคิดว่าข้ามีความคิดไม่ดี บางทีอาจจะมีจริงๆ ก็ได้ แต่ข้าหวังจากใจจริงว่าเจ้าจะช่วยท่านย่ากลับมาได้”
หลีซูซูพูดต่อคำนาง “เอาเกล็ดป้องหัวใจมา”
“อะไรนะ” เยี่ยปิงฉางมองนางอย่างตกใจ
หลีซูซูเอ่ย “ในเมื่อเจ้าหวังจากใจจริงให้ข้าไปช่วยคน ก็จงเอาเดิมพันของเจ้ามาให้ข้า ข้าจะไปช่วยท่านย่ากลับมา”
เยี่ยปิงฉางถอยหลังก้าวหนึ่ง
หลีซูซูยิ้มพูด “ดูสิ ฉะนั้นอย่ามาเอ่ยคำพูดหวังดีอะไรกับท่านย่าอีกเลย เยี่ยปิงฉาง เจ้ารักแต่ตนเองเท่านั้นล่ะ”
เยี่ยปิงฉางโต้แย้งแทบจะในทันที “ไม่ ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าเอาของไปแล้ว จะช่วยคนหรือไม่…”
หลีซูซูปรายตามองนางแวบหนึ่ง ไม่พูดพล่ามกับนางอีกก็หันหลังจากไป
โกวอวี้เอ่ยขึ้น “ตอนนี้เอาอย่างไรดี”
“ช่วยคนก่อน”
“ท่านไม่เป็นฮองเฮาแล้วหรือ”
หลีซูซูตอบอย่างไม่สบอารมณ์ “ชีวิตคนสำคัญกว่า ยังจะเป็นฮองเฮาอะไรอีก”
จุดประสงค์ของนางเดิมทีก็มิใช่การเป็นฮองเฮาของถานไถจิ้นอยู่แล้ว หากลงมือฉับไว ก่อนยามจื่อนางน่าจะไปทัน
ถานไถจิ้นปิดบังเรื่องนี้กับหลีซูซู ย่อมไม่อยากให้นางไปช่วยคน
หากคิดไปในทางที่โหดร้ายกว่านี้หน่อย…ถานไถจิ้นก็อยากล่อองครักษ์เฉียนหลงที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ลับออกมาเช่นกัน ดังนั้นจึงปล่อยให้องค์ชายแปดจับตัวท่านย่าไป
หรือยิ่งไปกว่านั้น ถานไถจิ้นคิดว่าองครักษ์เฉียนหลงอยู่ในมือหลีซูซู เขากลัวหลีซูซูจะมอบองครักษ์เฉียนหลงให้องค์ชายแปดจริงๆ ถึงเวลาองค์ชายแปดชื่อเสียงดีกว่าเขา ในมือมีอำนาจแล้ว ย่อมสามารถสั่นคลอนทุกสิ่งทุกอย่างของเขาได้ แต่หากองค์ชายแปดสังหารฮูหยินผู้เฒ่าเยี่ยจริง ไม่ว่าอย่างไรหลีซูซูก็ไม่มีทางมอบองครักษ์เฉียนหลงให้องค์ชายแปด
ทว่าองครักษ์เฉียนหลงมิได้อยู่ในมือนาง
หลีซูซูยอมรับว่าเยี่ยปิงฉางฉลาดมาก ต่อให้นี่เป็นหลุมพรางของอีกฝ่าย นางก็ยังต้องเดินเข้าไป
หลีซูซูเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง บอกถานไถจิ้นว่าก่อนวันพรุ่งนี้ตนจะกลับมาแน่นอน
โกวอวี้เตือนนาง “เจ้านายน้อย อย่าวางไว้ตรงนี้ ท่านยังจำบทเรียนของหมิงเยี่ยกับซังจิ่วเมื่อครั้งอยู่ในปัวเหร่อฝูเซิงได้หรือไม่”
หลีซูซูนึกขึ้นได้ทันทีว่าหมิงเยี่ยทิ้งข้อความไว้ให้ซังจิ่ว สุดท้ายกลับถูกเทียนฮวนจำกัดทิ้ง นางเก็บจดหมายกลับมา แล้วใช้กระดาษยันต์เผามัน
หากก่อนวันพรุ่งมีคนพบว่านางหายตัวไป คนที่เข้ามาในห้องจะเห็นจดหมายที่ก่อตัวขึ้นจากไอน้ำ หลังจากนั้นย่อมไปรายงานถานไถจิ้นเอง
นางปิดประตู บอกนางกำนัลนอกประตูว่าตนจะพักผ่อนแล้ว อย่าให้ใครมารบกวน
หลีซูซูกระตุ้นบุปผาเหนือพิภพในร่างกาย และวาดยันต์เคลื่อนย้าย
โลหิตไหลออกมาจากปลายนิ้วนาง หลีซูซูเหลือบมองผ้าคลุมศีรษะที่ปักด้วยด้ายทองด้านข้างแวบหนึ่ง เม้มปากนิดๆ และหลับตาลง
ชั่วเวลาต่อมานางก็หายวับไป
เยี่ยปิงฉางถือห่วงเงิน ปรากฏตัวในห้องของหลีซูซู
นางมองดูไอน้ำกลางอากาศที่ไม่สลายหายไป ทั้งยังทำท่าจะจับตัวเป็นน้ำแข็ง นางพูดเบาๆ “เฉลียวฉลาดทีเดียว”
เกล็ดป้องหัวใจในอกเสื้อเปล่งแสงสีเงิน นางหยิบออกมาวาดไปหนึ่งที ไอน้ำก็สลายไป ไม่เหลือร่องรอยแม้แต่นิดเดียว
“น่าเสียดาย ยังคงเป็นเกล็ดป้องหัวใจที่ใช้งานได้ดี ขออภัยด้วย น้องหญิงสาม เป็นเจ้าที่ไม่เหลือทางให้ข้าเดิน”
เวลาเดียวกัน ธงกลืนวิญญาณมีหมอกดำปั่นป่วน นักพรตเฒ่ารีบมารายงาน
“ฝ่าบาท ข่ายอาคมในวังสั่นสะเทือน”
ถานไถจิ้นลืมตา เขาหดมือกลับมา ริมฝีปากบางย้อมสีแดงจัดงดงามชั้นหนึ่ง
ปีศาจมุสิกตรงหน้าเกร็งกระตุก ไอดำบนฝ่ามือถานไถจิ้นหายไปในพริบตา แววตาเขาเข้มขึ้น
ถานไถจิ้นเหม่อลอยชั่วขณะ จากนั้นหัวเราะอย่างเสียดสี มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาคิดอยู่คนเดียวว่ามันกำลังเปลี่ยนแปลง แต่อันที่จริงมันกลับไม่เคยเปลี่ยนไปเลย เป็นต้นว่าเขายังคงเป็นสัตว์ประหลาดที่ต้องการลูกกลอนในตัวปีศาจมาต่อชีวิตของตนเอง
เมื่อครู่ก่อนหน้านี้เขายังคิดว่าวันหน้าหากถูกนางจับได้ นางจะมองเขาด้วยสายตาขยะแขยงเป็นพิเศษหรือไม่ อึดใจต่อมากลับมีคนมาแจ้งว่านางไปจากเขาอีกแล้ว
อีกครั้งแล้ว…
ถานไถจิ้นลุกขึ้น เนี่ยนไป๋อวี่เฝ้าอยู่นอกประตู
ดังคาด ไม่นานเนี่ยนมู่หนิงก็ปรากฏตัวด้วยใบหน้าซีดเผือด “แม่นางหายตัวไป”
ถานไถจิ้นสุขุมกว่าที่นางคิดเอาไว้มาก เขาถึงขั้นมีอารมณ์ยิ้มถามว่า “ผีเสื้อเงินเล่า”
เนี่ยนมู่หนิงรีบหยิบกล่องใบหนึ่งออกมา ปีกของผีเสื้อเงินเปล่งแสงสีขาวในราตรี โบยบินไปยังทิศทางหนึ่ง
ถานไถจิ้นเอ่ยเสียงแผ่ว “ทิศทางของเฉียนหนาน สถานที่ซ่อนตัวขององค์ชายแปด”
แสดงว่าองครักษ์เฉียนหลงอยู่ในมือนางจริงๆ บางทีครั้งนี้นางอาจจะมอบองครักษ์เฉียนหลงให้องค์ชายแปด และไม่กลับมาอีกตลอดกาล
ทั้งที่เขาคลี่ยิ้มอยู่ชัดๆ เนี่ยนไป๋อวี่กลับรู้สึกเหมือนอารมณ์ของฝ่าบาทในตอนนี้ย่ำแย่ยิ่งนัก
เนี่ยนมู่หนิงก้มศีรษะลง